Wi-Fi Alliance ประกาศมาตรฐานใหม่ Wi-Fi 6 Release 2 โดยมาตรฐานล่าสุด ได้มีการอัปเกรด Wi-Fi 6 และ Wi-Fi 6E ซึ่งมีข้อดีในเรื่องการเชื่อมต่ออุปกรณ์ได้มากขึ้น และมีทราฟฟิคในการจัดการการรับส่งข้อมูลได้ดีขึ้น มีคลื่น 6GHz ที่รองรับการเชื่อมต่อที่เสถียรขึ้น รองรับ uplink multi-user MIMO
โดยข้อดีของ Wi-Fi 6 Release 2 คือเรื่อง power management หรือการจัดการพลังงาน กับอุปกรณ์ IOT ในฝั่ง Enterprise โดยเฉพาะการจัดการพลังงานต่ำ low power และ sleep mode รวมไปถึง target wake time (TWT) และ multi-user spatial multiplexing power save (SMPS) คือช่วยจัดการพลังงานกับอุปกรณ์ที่รองรับ multiple battery-powered ได้ด้วย
Wi-Fi Alliance คาดการณ์ว่า ในปี 2022 ในตลาดจะมีอุปกรณ์ Wi-Fi 6 กว่า 2 พันล้านชิ้น แอปพลิเคชั่นต่างๆ ใช้แบนด์วิธเยอะขึ้น จึงมองว่า Wi-Fi 6 Release 2 จะเข้ามาช่วยเรื่องการอัปโหลดคอนเทนต์ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น การส่งข้อมูลจากอุปกรณ์ต่างๆ จะมีมากขึ้น ยิ่งทำให้ใช้พลังงานมากขึ้น อุปกรณ์ IOT ต่างๆ ก็มีการรับส่งข้อมูลตลอดเวลาและถี่มากขึ้น เนื่องจากมีอุปกรณ์หลายตัว ดังนั้นการพัฒนา Wi-Fi 6 Release 2 จึงช่วยต่อยอดเรื่องการจัดการพลังงานและไม่ใช่แค่ความเร็ว แต่เป็นการบริหารการรับส่งข้อมูลได้ดีขึ้น
ฟีเจอร์ใหม่ของ Wi-Fi 6 Release 2 คือรองรับ 3 คลื่นความถี่ 2.4GHz, 5GHz และ 6GHz บนมาตรฐาน Wi-Fi 6
ผู้ผลิตชิปอย่าง Broadcom, Intel, Qualcomm, NXP และ onsemi พร้อมรองรับ new release นี้แล้ว โดยเราจะได้เห็นอุปกรณ์ที่รองรับ Wi-Fi 6 Release 2 ในครึ่งปีแรกของปี 2022 นี้