26 ม.ค. 2565 1,401 0

แสงสว่างเศรษฐกิจไทยปี 65 ด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลเสริมแกร่ง 3 อุตสาหกรรม จุดแข็งของประเทศ

แสงสว่างเศรษฐกิจไทยปี 65 ด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลเสริมแกร่ง 3 อุตสาหกรรม จุดแข็งของประเทศ

 

โดย ศุภรัฒศ์ ศิวะเพ็ชรานาถ สิงหรา ณ อยุธยา

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสที เทเลมีเดีย โกลบอล ดาต้าเซ็นเตอร์ (ประเทศไทย)



 

สถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 เกิดขึ้นมาร่วมสองปีกว่า และยังคงส่งผลกระทบต่อเนื่องต่อการฟื้นตัวของธุรกิจทุกแขนง ข้อมูลจาก ธปท. เผยภาพรวมเศรษฐกิจไทยปีนี้ฟื้นตัวต่อเนื่อง แต่มีความไม่แน่นอนจากการแพร่ระบาดของเชื้อโคโรน่าไวรัสสายพันธุ์โอมิครอนที่กลายเป็นความเสี่ยงสำคัญในปีนี้ ล่าสุดปรับลดจีดีพีมาเหลือ 3.4% แม้ปัจจุบันแนวโน้มความเชื่อมั่นด้านการลงทุนและการเติบโตของเศรษฐกิจภาพรวมกำลังอยู่ในช่วงขาขึ้นจากการคลายล็อคมาตรการต่างๆ รวมถึงอัตราการฉีดวัคซีนที่ครอบคลุมมากขึ้น แต่ความกังวลอาจฉุดรั้งให้การฟื้นตัวเป็นไปได้อย่างเชื่องช้า

 

ประเทศไทยควรจะเดินหน้าไปในทิศทางไหนคำตอบอยู่ใกล้ตัวเรามากกว่าที่คิด หากย้อนกลับมาพิจารณา อุตสาหกรรมหลักๆ ที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ได้แก่ ภาคการท่องเที่ยว (Tourism) ภาคเกษตรกรรม (Agriculture) และ ภาคอุตสาหกรรมการผลิต (Manufacturing) ที่เป็นจุดแข็งของประเทศเรา ซึ่งเราจะสามารถช่วยฟื้นฟูและสร้างการเติบโตรวดเร็วกว่าเดิมในสถานการณ์ที่โควิดไม่มีวันสิ้นสุดได้อย่างไร

 

 

ศุภรัฒศ์ ศิวะเพ็ชรานาถ สิงหรา ณ อยุธยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสที เทเลมีเดีย โกลบอล ดาต้าเซ็นเตอร์ (ประเทศไทย) แชร์วิสัยทัศน์ในการฟื้นฟูเศรษฐกิจปี 65 โดยการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาเสริมแกร่งกับ อุตสาหกรรมที่เป็นจุดแข็งของประเทศ ดังนี้

 

·       กลุ่มธุรกิจท่องเที่ยว (Tourism) ยกตัวอย่าง ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ที่ประสบความสำเร็จในการจัดงาน “Expo 2020 Dubai” ระหว่างวันที่ ตุลาคม 2564 ถึง 31 มีนาคม 2565 ท่ามกลางสถานการณ์โควิด และมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในประเทศมากถึงเกือบ ล้านคน (ข้อมูล ณ เดือนธันวาคม 2564) สร้างรายได้เข้าประเทศอย่างมหาศาล หากเทียบระหว่างสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นทะเลทรายและหมู่เกาะทางทะเลที่สวยงาม คนส่วนใหญ่คงเลือกไปเกาะมากกว่า ประเทศไทยมีจุดเด่นสำคัญก็คือทรัพยากรธรรมชาติที่สมบูรณ์และภูมิทัศน์ของแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงาม อย่างโปรเจ็ค Phuket Sandbox ที่เป็นโครงการนำร่องที่ดีมาก ปัจจุบันได้ขยายไปถึง จังหวัดแล้ว คือ ภูเก็ตพังงา กระบี่ และสุราษฎร์ธานี แต่เมื่อมองกลับไปที่โจทย์ว่าจะทำอย่างไรให้เดินหน้าต่อไปได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน การคัดกรองนักท่องเที่ยวที่เป็น High Spender เข้ามาในประเทศโดยกำหนด Minimum Spending เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำคัญที่ควรพิจารณา

 

เมื่อมีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นพฤติกรรมผู้ใช้งานข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตก็เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลตามไปด้วย ทำให้ผู้ให้บริการจำเป็นต้องมีการจัดเก็บข้อมูลที่เกิดขึ้นในปริมาณมากและเครือข่าย 5G เทคโนโลยี Blockchain หรือ Cryptocurrency สามารถนำมาปรับใช้เพื่อสร้างโมเดลธุรกิจท่องเที่ยวใหม่ๆ ซึ่งต้องวางกรอบการกำกับดูแลอย่างเหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์

·       กลุ่มเกษตรกรรม (Agriculture) ภูมิประเทศของไทยเอื้อและทำให้เราเป็นประเทศเกษตรกรรมชั้นยอด เรามีวัตถุดิบชั้นดีมากมายอยู่ในมืออยู่แล้ว อาหารของเราก็มีเอกลักษณ์และมีรสชาติถูกปากคนทั่วโลก แต่ทำไมเกษตรกรของเรายังไม่หลุดพ้นจากความยากจน ซึ่งนอกจากการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาเสริมศักยภาพภาคเกษตรกรรมตั้งแต่ต้นน้ำจนปลายน้ำแล้ว เราควรเน้นการสร้าง Story และพัฒนา Soft Power ของประเทศในด้านนี้ไปควบคู่ โดยต้องอาศัยความเชื่อมั่นและศรัทธาในชาติของตัวเองค่อนข้างสูง แนวทางการสร้างร้านมิชลินสตาร์ของคนไทยให้มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น รวมถึงการเพิ่มมูลค่าอาหารไทยให้ทัดเทียมเมนูขึ้นชื่อของนานาชาติ ถือเป็นแนวทางที่น่าสนใจและควรนำมาพิจารณา หากเราสามารถเปลี่ยนข้าวกระเพราเป็นจานล่ะสามพันบาท และเจาะกลุ่มลูกค้า High-End ได้ก็จะสามารถช่วยกระตุ้นและฟื้นคืนเศรษฐกิจในระยะยาวได้ 

·     กลุ่มอุตสาหกรรมการผลิต (Manufacturing) ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตสำคัญของภูมิภาค เรามีบริษัทชั้นนำมากมายเลือกมาลงทุน มีการสร้างโรงงานการผลิตหรือโกดังจัดเก็บสินค้าในรูปแบบ Physical จำนวนมาก ซึ่งเติบโตควบคู่ไปพร้อมๆ กับตลาด E-Commerce และ Logistic นอกจากสินค้าที่เป็นตัวผลิตภัณฑ์ที่จับต้องได้แล้ว ยังมี Digital Products/Assets หรือ Online Transaction ที่เกิดขึ้นอย่างมหาศาล ดังนั้นภาคการผลิตในยุคปัจจุบันจึงต้องการ Digital/Virtual Warehouse ซึ่งก็คือ ดาต้าเซนเตอร์ เพื่อรองรับการเติบโตตามกระแสเศรษฐกิจดิจิทัลที่เพิ่มขึ้นทวีคูณ ดังนั้นการมีดาต้าเซนเตอร์เพิ่มมากขึ้นในประเทศย่อมส่งผลดีต่อทั้งระบบนิเวศดิจิทัลของไทย คือ ได้รับเม็ดเงินลงทุนเพิ่มขึ้น กระตุ้นการจ้างงานเพิ่ม ที่สำคัญข้อมูลของคนไทยอยู่ในประเทศไทยนั่นเอง

 


 

สามอุตสาหกรรมหลักข้างต้นเป็นเสาหลักให้กับการเติบโตของประเทศ ที่หลายภาคส่วนมีการวางแผนและ เร่งปรับตัวเพื่อรองรับกระแส Digital Transformation  ความผันผวนของเศรษฐกิจทั้งในประเทศและทั่วโลก  แรงกระเพื่อมมหาศาลจากโควิด ไปจนถึงการสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน หากได้รับการสนับสนุนอย่างจริงจังและต่อเนื่องทั้งในด้านการลงทุน การพัฒนาศักยภาพบุคลากร การสร้างความยั่งยืนให้กับระบบนิเวศ จะทำให้เกิดแรงผลักดันที่ส่งผลต่อเนื่องไปยังอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่มีบทบาทสนับสนุนการเติบโตและการแข่งขันของประเทศในวงกว้าง 

 

เทคโนโลยีดิจิทัล” มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งต่อการพลิกฟื้นธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็น Blockchain, Cloud, Big Data และ Cryptocurrency โดยมี Data Center เป็นศูนย์กลางรองรับข้อมูลมหาศาล STT GDC Thailand ในฐานะผู้ให้บริการไฮเปอร์สเกลดาต้าเซ็นเตอร์ระดับโลก และมีบทบาทสำคัญใน Digital Ecosystem มุ่งมั่นสร้างรากฐานดิจิทัลครอบคลุมใน ด้านหลักๆ ประกอบด้วย 1) เร่งพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมดาต้าเซ็นเตอร์เพื่อเป็นรากฐานการส่งเสริมเศรษฐกิจของประเทศ 2) กระตุ้นเม็ดเงินการลงทุนทั้งจากภาครัฐและเอกชนด้วยการนำเสนอโซลูชั่นและปรับใช้เทคโนโลยีดาต้าเซนเตอร์อย่างเหมาะสม 3) พัฒนาเทคโนโลยีไฮเปอร์สเกลดาต้าเซ็นเตอร์ที่สามารถปรับใช้กับทุกๆ ธุรกิจเพื่อสร้างการเติบโตให้กับประเทศ และ สอดรับกับเทรนด์การใช้งานดิจิทัลของคนไทยที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด