4 ก.พ. 2565 1,859 0

Redmi Note 11 สมาร์ทโฟนที่โดดเด่นด้วยหน้าจอ 90 Hz AMOLED ในราคาสบายกระเป๋า

Redmi Note 11 สมาร์ทโฟนที่โดดเด่นด้วยหน้าจอ 90 Hz AMOLED ในราคาสบายกระเป๋า

สมาร์ทโฟน Redmi Note Series ภายใต้แบรนด์เสียวหมี่ เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง ทั้งในตลาดประเทศไทยและตลาดโลก เพราะนอกจากระดับราคาที่เข้าถึงได้ง่ายแล้ว ยังมีจุดเด่น คือ หน้าจอดี กล้องสวย แบตฯอึด ประสิทธิภาพในการใช้งานที่ลื่นไหลรวมถึงเล่นเกมได้ดี  ทำให้ตอบโจทย์การใช้งานฟีเจอร์สำคัญๆ ของผู้บริโภคโดยทั่วไปได้อย่างครบถ้วน
 
Redmi Note 11 เป็นสมาร์ทโฟนน้องเล็กในตระกูลของ Redmi Note 11 Series ที่เปิดตัวไปเมื่อวันที่ 26 มกราคมที่ผ่านมา ซึ่งมีความโดดเด่นด้วยเรื่องหน้าจอ FHD+ AMOLED DotDisplay รีเฟชรเรท 90Hz ในราคาไม่ถึง 7,000 บาท!
 
เพลิดเพลินไปกับความบันเทิงด้วยหน้าจออันโดดเด่นและแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ตลอดทั้งวัน
 
Redmi Note 11 มอบประสบการณ์ใช้งานหน้าจอแบบลื่นไหลสะดวกสบายด้วยหน้าจอขนาด6.43 นิ้ว FHD+ AMOLED DotDisplay ที่มีอัตราค่ารีเฟรชเรทสูงถึง 180 Hz ในขณะเดียวกันก็มาพร้อมกับระบบสัมผัสที่แม่นยำมากยิ่งขึ้นพร้อมด้วยฟีเจอร์ DCI-P3 Wide Color Gamut ที่ให้ภาพและสีคมชัด ที่มีค่าความสว่างมากถึง 1000 nits เพื่อให้ผู้ใช้งานมั่นใจได้ว่าหน้าจอยังคงมองเห็นชัดแม้อยู่ท่ามกลางแสงแดด นอกจากนี้ ยังมีลำโพงทรงพลัง ตัวติดตั้งอยู่ที่ด้านบนและด้านล่างของตัวเครื่องที่จะสามารถทำให้ผู้ใช้งานได้ดื่มด่ำไปกับการเล่นเกมหรือดูหนังแบบไม่ติดขัด

นอกจากนี้ Redmi Note 11 มาพร้อมด้วยชิปเซ็ตแฟลกชิป Snapdragon® 680 ที่มีระบบประมวลผลระดับ 6nm ซึ่งทำให้การใช้งานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นและยังประหยัดพลังงานได้ในขณะเดียวกัน ซึ่งขับเคลื่อนด้วยแบตเตอร์รี่ขนาดใหญ่จุใจ 5,000 mAh และรองรับ 33W Pro fast charging ที่สามารถชาร์จไฟได้รวดเร็ว เพื่อให้ใช้ชีวิตได้อย่างมีอิสระเพิ่มขึ้น


 
 
กล้อง AI ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล
 
ต่อเนื่องกันที่ความสามารถของกล้องที่มาพร้อมกับ AI ใน Redmi Note 11 ที่ให้กล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล f/1.8 มาช่วยให้สามารถเก็บบันทึกความทรงจำได้อย่างมีคุณภาพ พร้อมกับเลนส์มุมกว้าง (Ultra-Wide) 8 ล้านพิกเซล เก็บมุมมองได้ถึง 118 องศาเลนส์มาโคร (Macro) 2 ล้านพิกเซล และเลนส์วัดระยะ 2 ล้านพิกเซล ที่ทำงานร่วมกับ AI เพื่อประมวลผลภาพบุคคลให้เป็นธรรมชาติมากที่สุด ยังมีกล้องหน้าความละเอียด 13 ล้านพิกเซลที่ช่วยให้การถ่ายเซลฟี่คมชัดในทุกมุมมองอีกด้วย


ดีไซน์ล้ำสมัยรูปแบบใหม่
 
Redmi Note 11 มาพร้อมกับรูปลักษณ์ที่ทันสมัยให้สัมผัสที่พอดีมือ และเพื่อให้มั่นใจได้ว่าขนาดตัวเครื่องมีความสะดวกต่อการหยิบจับ จึงมีน้ำหนักบางเบาเพียง 179 กรัม ตัวเครื่องมีให้เลือกทั้งหมดสามสี Graphite Gray และ Twilight Blue ซึ่งทั้งสองสีให้สัมผัสของความด้าน ซึ่งไม่เพียงแค่กันรอยนิ้วมือเท่านั้น แต่ยังให้ความรู้สึกสัมผัสที่ละมุนและเพิ่มความหรูหราเข้าไปอีกด้วย ในขณะเดียวกันสี Star Blue จะมีความวาววับราวกับแสงดาว เพิ่มความโดดเด่นที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
 
นอกจากนี้ยังมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือข้างตัวเครื่อง พร้อมปลดล็อกด้วยใบหน้า AI Face Unlock รองรับการเชื่อมต่อ 4G LTE ทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ MIUI 13 บนพื้นฐานของAndroid 11 อีกด้วย


 
Redmi Note 11 จะเริ่มวางจำหน่ายในวันที่ กุมภาพันธ์ 2565 เป็นต้นไป โดยมีให้เลือก ความจุ ได้แก่ความจุ 4GB+128GB จำหน่ายในราคา 6,299 บาท และความจุ 6GB+128GB จำหน่ายในราคา 6,999 บาท 


พิเศษ!เมื่อซื้อ Redmi Note 11 ระหว่างวันที่ 5-28 กุมภาพันธ์ 2565 รับฟรี Canvas Tote Bag สุดพรีเมี่ยมมูลค่า 590 บาทไปอีกด้วย
 
 
เกี่ยวกับเสียวหมี่


เสียวหมี่ก่อตั้งขึ้นในเดือนเมษายน 2010 และจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ Main Board of the Hong Kong Stock Exchange ในวันที่ กรกฎาคม 2018 (1810.HK) เสียวหมี่เป็นบริษัทอินเทอร์เน็ตที่มีสมาร์ทโฟนและสมาร์ทฮาร์ดแวร์อัจฉริยะที่เชื่อมต่อด้วยแพลตฟอร์ม Internet of Things (IoT) เป็นแกนหลัก
ด้วยวิสัยทัศน์ของการเป็น มิตรของผู้ใช้งานและบริษัทที่ทันสมัยที่สุดในใจผู้ใช้งานทุกคน” เสียวหมี่จึงมีความพยายามอย่างต่อเนื่องที่จะพัฒนานวัตกรรม ประสบการณ์การใช้งานที่ดีเยี่ยม ตลอดจนการดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพ โดยจะไม่ลดละการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ในราคาที่เป็นมิตร เพื่อให้ทุกคนบนโลกนี้สามารถเข้าถึงคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นจากนวัตกรรมเทคโนโลยีใหม่ๆ ได้

เสียวหมี่คือหนี่งในผู้นำการผลิตสมาร์ทโฟนชั้นนำของโลก โดยมีส่วนแบ่งทางการตลาดที่คิดจากการส่งมอบสมาร์ทโฟนเป็นอันดับ ของโลกในไตรมาสที่ ของปี 2564 นอกจากนี้ เสียวหมี่ยังเป็นผู้นำด้านการก่อตั้งแพลทฟอร์ม AIoT ของโลกโดยมีสินค้าอัจฉริยะเชื่อมต่อแพลทฟอร์มกว่า 400 ล้านเครื่อง (ไม่รวมสมาร์ทโฟนและแล็ปท็อปจากการรายงานข้อมูล ณ วันที่ 30 กันยายน 2564 ผลิตภัณฑ์ของเสียวหมี่มีวางจำหน่ายกว่า 100 ประเทศทั่วโลก และในเดือนสิงหาคม 2564 เสียวหมี่ยังติดอันดับที่ 338 ของ Fortune Global 500 นับได้เป็นครั้งที่สาม โดยไต่ขึ้นมา 84 อันดับจากปี 2020 เสียวหมี่เป็นส่วนหนึ่งของ Hang Seng Index, Hang Seng China Enterprises Index และ Hang Seng TECH Index

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเสียวหมี่ สามารถเข้าชมได้ที่ https://blog.mi.com/en/