13 ก.พ. 2565 7,257 113

ทางลัดสู่โลก Multi-Gigabit Internet ซื้อเน็ตบ้าน True Gigatex Fiber 2Gbps วันนี้ แถมฟรี อุปกรณ์ไร้สายระดับ Multi-Gigabit !

ทางลัดสู่โลก Multi-Gigabit Internet ซื้อเน็ตบ้าน True Gigatex Fiber 2Gbps วันนี้ แถมฟรี อุปกรณ์ไร้สายระดับ Multi-Gigabit !

ซื้อเน็ตบ้าน True Gigatex Fiber 2Gbps วันนี้ แถมฟรี อุปกรณ์ไร้สายระดับ Multi-Gigabit ! วันนี้ เทคโนโลยีเครือข่ายเน็ตบ้านในไทย พร้อมแล้วสำหรับ Multi-Gigabit Internet


ปัจจุบัน อุปกรณ์ต่างๆ รองรับความเร็วในการเชื่อมต่อที่มากกว่า 1Gbps มาซักระยะแล้ว ไม่ว่าจะเป็นทางด้านเครือข่ายไร้สายอย่าง Wi-Fi 6 ที่สามารถทำความเร็วได้สูงสุดถึง 10Gbps หรือแบบมีสาย ก็มี Multi-Gig Switch ที่รองรับความเร็วระดับ 2.5Gbps, 5Gbps หรือ 10Gpbs และ Device ไม่ว่าจะเป็นมือถือ, PC หรืออุปกรณ์ต่อพ่วงอื่นๆ ต่างก็รองรับความเร็วทั้งแบบมีสายและไร้สาย ที่ความเร็วสูงเกิน 1Gbps ออกมาให้เราเลือกใช้อย่างต่อเนื่อง

ทางลัดสู่โลก Multi-Gigabit Internet เมื่อคุณติดตั้งเน็ตบ้าน แพ็กเกจความเร็ว 2Gbps True Gigatex Fiber 2Gbps วันนี้ แถมฟรีอุปกรณ์ไร้สายระดับ Multi-Gigabit ! บอกเลยว่าดีมากๆ คุ้มสุดๆ

ไม่เชื่อก็ต้องเชี่อว่า วันนี้ประเทศไทย จะมีอินเตอร์เน็ตความเร็วระดับ 2Gbps ด้วยความเร็วขนาดนี้ ไม่ต้องห่วงว่าเน็ตจะเร็วเพียงพอสำหรับสมาชิก และอุปกรณ์ภายในบ้านแน่ๆ แต่ที่สำคัญ อุปกรณ์กระจายสัญญาณภายในบ้าน ต้องรองรับ และมีประสิทธิภาพที่สัมพันธ์กับความเร็วเน็ตระดับนี้ด้วย เพื่อให้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงที่สุด


ทรูจึงมีแพ็กเก็จเน็ต 2Gbps แถมอุปกรณ์ Router Gigatex (T3) T628 AX5400 บวกกับ MESH Tri-Band AX6600 อีก 2 ตัว (สำหรับผู้ใช้ True Black) ที่สามารถนำมาติดตั้ง ให้สามารถใช้เน็ตความเร็วสูงมากๆ ได้ทั่วบ้านได้ พร้อมทีมช่างมาติดตั้ง และตั้งค่าต่างๆ ทดสอบสัญญาณให้ถึงบ้าน ถือว่าเป็นทางลัดสู่โลก Multi-Gigabit Internet ที่น่าสนใจไม่น้อย

ข้อดีของการมีทีมช่างผู้เชี่ยวชาญมาติดตั้ง ทำให้เราไม่ต้องยุ่งยากในการมองหาอุปกรณ์ที่รองรับความเร็วในระดับนี้ เพราะ True เขาให้อุปกรณ์มาในแบบที่ ประสิทธิภาพดีเพียงพอในการใช้งานจริง โดยไม่ต้องเสียเงินลงทุนอุปกรณ์เพิ่มเองเลย

รายละเอียดอุปกรณ์

True Gigatex Fiber Router Pro Wi-Fi 6 [T3 T628 AX5400]


Fiber Technology: GPON

WiFi 5GHz : 4x4 MU-MIMO WiFi6 HE160 (4800Mbps) 

WiFi 2.4GHz : 2x2 MU-MIMO WiFi6 (600Mbps)

True Gigatex Mesh Pro Wi-Fi 6


WiFi 5GHz (MESH) : 4x4 MU-MIMO WiFi6 HE160 (4800Mbps) 

WiFi 5GHz : 2x2 MU-MIMO WiFi6 HE80 (1200Mbps) 

WiFi 2.4GHz : 2x2 MU-MIMO WiFi6 (600Mbps)

แนวความคิดในการออกแบบแพ็กเก็จอุปกรณ์ชุดนี้


Router ตัวหลัก : True Gigatex Fiber Router Pro Wi-Fi 6 เร็วแรงสุดๆด้วย WiFi AX5400

สำหรับ Router ตัวหลักที่ทรูให้มานี้ ถือเป็น Router ที่มี Spec สูงมากๆ ตัวหนึ่งในท้องตลาด คือมีความสามารถในการรับส่งข้อมูลได้สูงสุดด้วย Wi-Fi6 แบบ 4 เสา ความกว้างสัญญาณระดับ HE160 (High efficiency 160MHz) ได้ ซึ่งมี Data rate ได้สูงสุดถึง 4800Mbps (รับส่งข้อมูลหรือ Throughput ได้สูงสุดราวๆ 3,300Gbps) *โดยปกติการใช้งาน Wi-Fi จะได้ Throughput ราวๆ 70% ของ Data rate)

หากเราจะใช้งาน หรือทดลองให้ได้ความเร็วสูงสุดนั้น เราจะต้องใช้เครื่องลูกข่าย หรือ Device ที่เป็น Wi-Fi 6 แบบ HE160  แบบ 4 เสา แต่โดยทั่วๆไปแล้ว เครื่องลูกข่ายไม่ว่าจะเป็น Notebook หรือโทรศัพท์มือถือ มักจะมีเสารับส่งแบบ 2 เสา และมีอุปกรณ์จำนวนไม่มากที่รองรับ Wi-Fi6 HE160 เช่น Huawei P40, Mi 11 Pro หรือ Sony Xperia 1 III หรือ Notebook ที่มี Card Wi-Fi AX201 เป็นต้น ส่วนเครื่อง Apple โดยทั่วไปที่รองรับ Wi-Fi6 อย่าง iPhone 12, 13 จะรองรับ WiFi6 แบบ HE80 เท่านั้น

หากใช้อุปกรณ์มือถือที่รองรับ WiFi6 HE80 นั้น จะเชื่อมต่อกับ Router ตัวนี้ได้ที่ Data rate สูงสุด 1200Mbps และสามารถใช้งานได้ที่ความเร็วสูงสุดราว 600Mbps...


และสำหรับอุปกรณ์มือถือที่รองรับ WiFi6 HE160 นั้นจะทำให้ Data rate สูงสุดถึง 2400Mbps และเมื่อใช้งานจริงจะมี Throughput  เมื่อทดสอบด้วย App Speedtest ได้ราวๆ 1,300 – 1,700Mbps… 


และเมื่อทดสอบใช้งานสองเครื่องพร้อมๆกัน ก็พบว่าความเร็วรวมก็สูงกว่า 1Gbps


ซึ่งสำหรับมือถือเอง ไม่ว่าจะเป็น HE80 หรือ HE160 นั้น ก็ถือว่าเป็นความเร็ว ที่เกินพอสำหรับการใช้งานอินเตอร์เน็ตบนหน้าจอมือถือ และยังจะได้ความเร็วๆ เต็มๆ เมื่อต่อกับอุปกรณ์เครือข่ายภายในบ้านเช่น NAS หรือ NVR อีกด้วย

โดยพอร์ต LAN แบบ Gigabit จำนวน 4 พอร์ตนั้น เราก็สามารถต่อกับ LAN Switch เพื่อเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นๆ ภายในบ้านได้ โดยความเร็วสูงสุดรวมเมื่อใช้งานผ่านพอร์ต LAN หลายๆช่องพร้อมกัน ก็สามารถทำความเร็ว Internet ได้เต็ม 2Gbps เลยทีเดียว แต่ถ้าใช้พอร์ตเดียว ก็จะได้ความเร็วสูงสุดที่ 1Gbps ตามความเร็วของพอร์ต 1Gpbs ครับ

ทีเด็ดอยู่ที่ MESH เทพ 4x4 WiFi6 HE160 ต่างหาก!

เน้น MESH ความเร็วสูง เพื่อเน็ตเร็วยิ่งขึ้นทั่วทั้งบ้าน


จากการได้ทดสอบใช้งานอยู่ 2 สัปดาห์ก็พบว่า อุปกรณ์เซ็ตนี้ ไม่ได้คำนึงถึงเฉพาะความเร็วจากอุปกรณ์ใดอุปกรณ์หนึ่ง ให้ใช้งานอินเตอร์เน็ตด้วยความเร็ว 2Gbps (ซึ่งเอาจริงๆแล้ว ก็ยังนึกไม่ออกว่า Application อะไรบนอินเตอร์เน็ตที่เราสามารถทำความเร็วได้เกิน 1Gbps นอกจาก Speedtest) แต่ทรูได้ให้อุปกรณ์ที่มีความสามารถในการทำ MESH ที่ความเร็วสูงมากๆถึงสองตัว ซึ่งตัวอุปกรณ์หลัก True Gigatex Fiber Router Pro สามารถขยายสัญญาณไปให้กับ Gigatex Mesh Pro (MESH AP) ด้วยเสาสัญญาณ WiFi 6 แบบ 4 เสา ความกว้างสัญญาณระดับ HE160 (High efficiency 160MHz) ซึ่งทำให้ MESH Link ระหว่าง Router หลักกับตัว MESH Pro ซึ่งมี 4 เสา HE160 เหมือนกันสามารถมี Data rate สูงสุดที่ 4800Mbps คือตามทฤษฎี สามารถรับส่งข้อมุลได้สูงสุดถึง 3700Mbps เลยทีเดียว เรียกได้ว่ารอบนี้ทรูให้ของดีมาเลย (สำหรับผู้ใช้ True Black)

ผลการทดสอบเมื่อใช้ Mesh Link ระยะใกล้ๆกับอุปกรณ์หลัก แล้วต่อเข้ากับพอร์ต LAN 1Gbps บน Mac Mini ความเร็ว Mesh Link ทำได้ที่ 3600Mbps


ทดสอบด้วย Mac ผ่านสาย LAN ทีละเครื่อง ผ่าน MESH Pro โดยแต่ละเครื่องสามารถทำความเร็วได้สูงกว่าเชื่อมต่อด้วย WiFi6 ในเครื่อง


และเมื่อทดสอบต่อผ่านสาย LAN สองเครื่องพร้อมๆกัน ได้ความเร็วรวมเกิน 1Gbps (~1300Mbps)


HE160 ให้ความเร็วสองเท่า และพื้นที่ครอบคลุมได้มากขึ้น

จากหลักการทางเทคนิค ที่เมื่อเราวาง Router หลัก ไกลจาก MESH AP มากขึ้นเท่าไหร่ Link Data rate ก็จะต่ำลงไปเรื่อยๆ ส่งผลให้การใช้งานได้ความเร็วลดลง ตามความแรงของสัญญาณ MESH Link นั่นเอง... แต่ด้วยเทคโนโลยี HE160 นี่เอง ที่เข้ามามีส่วนช่วยให้การทำ MESH Network สามารถยังความเร็วได้ในระดับสูง แม้จะขยับตัวอุปกรณ์ไปไกลจนสัญญาณต่ำลง หากเปรียบเทียบกับ เทคโนโลยี HE80 โดย HE160 จะสามารถ ทำความเร็วได้เป็นสองเท่า ในระยะทางเท่ากัน หรือหากต้องการความเร็วเท่าเดิมเมื่อเทียบกับ HE80… เจ้า HE160 จะช่วยให้เราสามารถขยับ MESH AP ไปได้ไกลขึ้นอีก สามารถสร้างเครือข่ายไร้สายที่มีพื้นที่ครอบคลุมได้มากกว่านั่นเอง.....

สรุปง่ายๆ

  • ภาคสัญญาณ WiFi แบบ 4 เสา แบบ WiFi6 HE160…. ทั้งตัว Router หลัก และ MESH AP ทำให้ความเร็วสูงขึ้น
  • HE160 จะช่วยการทำ MESH Link ที่มีความเร็วในการรับส่งข้อมูลสูงขึ้น
  • HE160 สามารถขยายพื้นที่ครอบคลุมได้มากกว่าเดิม โดยยังคงความเร็วในการรับส่งข้อมูลได้อยู่

Gigatex MESH Pro

ตัวอุปกรณ์ Gigatex MESH Pro มีภาคสัญญาณไวไฟ 3 ชุด คือ 5GHz WiFi6 4x4 160MHz เป็น Radio หลักใช้ทำ Mesh Link กับตัว Router หลัก อีกชุดคือ 5GHz WiFi6 2x2 HE80 ใช้เป็นตัวปล่อยสัญญาณเพื่อให้บริการแก่เครื่องลูกข่าย และอีกชุดเป็น 2.4GHz WiFi6 2x2 ใช้สำหรับให้บริการเครื่องลูกข่ายในย่าน 2.4GHz

ข้อจำกัดของ MESH แบบ Dual-Band

โดยปกติแล้ว การทำการทวนสัญญาณด้วย MESH Topology นั้น หากตัวที่ทวนสัญญาณ ใช้ภาคสัญญาณไวไฟที่ใช้ทำ Mesh Link ร่วมกับสัญญาณไวไฟที่ให้บริการเครื่องลูกข่าย ประสิทธิภาพในการทำงานจะลดลงครึ่งนึงเป็นอย่างน้อย และยังมีปัจจัยเรื่อง Encoding ที่ต่างกันระหว่าง MESH Link กับเครื่องลูกข่ายอีก ทำให้ความเร็วมีความผันผวนเป็นอย่างมาก ในการนำมาใช้งานจริง

Triband…. สำคัญยังไง....

MESH Pro ช่วยแก้ปัญหานี้ได้ ด้วยชุดรับส่งสัญญาณไวไฟแบบ Tri-band... โดย Gigatex MESH Pro มีภาครับส่งสัญญาณสำหรับการทำ MESH Link โดยเฉพาะ ซึ่งจะไม่ส่งผลกระทบต่อการให้บริการ เมื่อเครื่องลูกข่ายมาเกาะกับภาคสัญญาณที่ให้บริการกับเครื่องลูก ที่ออกแบบมาให้ทำงานแยกกันอย่างสิ้นเชิง

โดยสังเกตว่า ภาคไวไฟชุดที่เป็นแบบ HE160 แบบ 4 เสานี้ มีประสิทธิภาพมากกว่าภาคไวไฟที่ใช้สำหรับให้บริการที่เป็นแบบ HE80 เสียอีก โดยเป็นการเลือกชุดอุปกรณ์ที่เหมาะสมกับการใช้งานจริงมากๆ โดยให้ความสำคัญกับ MESH Link ซึ่งทำหน้าที่เหมือนถนนใหญ่ ให้มีความเร็วสูงที่สุด จากนั้นค่อยกระจายสัญญาณออกไปยังถนนย่อย ทั้งภาคไวไฟ 5GHz Wi-Fi6 HE80 2x2 และ 2.4GHz WiFi6 2x2 หรือใช้ Bridge ลงเข้ากับพอร์ต LAN ที่มีให้สองพอร์ตบน Gigatex MESH Pro เพื่อใช้ต่อไปยังคอมพิวเตอร์ หรือ LAN Switch ได้อีกด้วย

ผลการทดสอบผ่าน MESH Pro ที่ตั้งอยู่ชั้นสองของบ้าน ห่างจาก Gigatex ตัวหลักราวๆ 15 เมตร


จากการทดสอบนี้ เป็นที่ชัดเจนว่า ด้วย MESH Link แบบ 4x4 HE160 ทำให้ถึงแม้ตัว MESH จะถูกวางห่างไกลออกไป และมีสัญญาณที่ค่อนข้างเบา แต่ Gigatex MESH ยังคงสร้าง MESH Link ที่ความเร็วสูง และสามารถให้บริการด้วย Radio แยกออกจาก MESH Radio ทำให้ยังสามารถให้บริการได้ด้วยความเร็วสูง พอๆ กับความเร็วของ Mesh Link เลยทีเดียว อันนี้หากเป็นการใช้อุปกรณ์แบบ Dual Band จะไม่มีทางได้ความเร็วที่ 500Mbps แน่นอนครับ ความเร็วจะอยู่ที่ราวๆ 200Mbps ตามทฤษฎีเท่านั้น

อีกข้อสงสัยคือ : ใช้ Gigatex MESH Pro แทนการลากสาย LAN จะได้ความ เร็วแรง แซงสาย LAN ได้หรือเปล่า?

อย่างที่เรารู้กันว่า Wi-Fi นั้นถูกรบกวนจากสภาพแวดล้อมต่างๆ ทำให้ความเร็วดรอปลง แต่ถ้าเราจะ Mesh เทพๆ มาช่วยให้การใช้งานยอดเยี่ยมแบบที่ใช้สาย LAN ได้ ก็คงดีไม่น้อย 

ใช้ Gigatex MESH Pro แทนการลากสาย LAN! เร็วแรง แซงสาย LAN กันเลยทีเดียว


ในหลายๆกรณี เราก็ต้องการใช้สัญญาณ WiFi Bridge มาเป็นสาย UTP เพื่อใช้เชื่อมต่อกับ LAN Switch ที่ต่อไปยังอุปกรณ์อื่นๆ ซึ่งโดยปกติการใช้สาย LAN ลากไปยัง Switch ถือเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด แต่ในกรณีที่เราไม่สะดวก หรือไม่สามารถลากสาย LAN การนำเอา Gigatex MESH Pro มาใช้เป็น Link หลักแทนสาย LAN ก็ให้ประสิทธิภาพที่ไม่ใช่แค่เทียบเท่า แต่ดีเร็วกว่าใช้สาย LAN เสียอีก

จากการทดสอบ เราสามารถส่งข้อมูลบน MESH Link ได้ถึง 1.7Gbps โดยใช้ PC 2 เครื่องต่อเข้ากับพอร์ต LAN ของ Gigatex MESH Pro แล้วลอง speedtest พร้อมๆกัน.... ซึ่งถือได้ว่าเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการนำเอา Gigatex MESH Pro ไปใช้งานครับ

มีสาย LAN ลากไปยังห้องอื่นในบ้านอยู่แล้ว ใช้ Gigatex MESH Pro เป็น Access Point ก็แรงไม่เบา

สำหรับกรณีที่เรามีการลากสาย LAN ไปยัง Access Point ตัวเก่าอยู่แล้ว แต่ต้องอัพเกรดให้สามารถให้ใช้งานอินเตอร์เน็ตได้เร็วเต็มสปีด เพราะ Access Point เดิมอาจไม่รองรับ Wi-Fi 6… เราสามารถสลับ AP ตัวเดิม กับ Gigatex MESH Pro ก็จะสามารถให้บริการไวไฟได้ด้วยความเร็วได้เต็มที่ 1Gbps ซึ่งเป็นข้อจำกัดที่ความเร็วของพอร์ต LAN ของ Gigatex MESH Pro กับ LAN Switch เดิมของเรานั่นเอง

ในกรณี ถ้าเราทดสอบติดตั้งแบบ MESH แล้วได้ Data rate ของ MESH Link ได้สูงกว่า 2400Mbps… ซึ่งสูงสุดจะทำได้ถึง 4800Mbps… เราอาจจะพิจารณา ใช้ MESH Topology คือใช้สัญญาณไวไฟเป็น Link หลักแทนสาย LAN เลยก็ยังได้ครับ.....

ไม่มีพอร์ต 2.5Gbps ใช้เน็ต 2Gbps ยังไงให้คุ้ม?

ก็ไม่ไช่ว่าเน็ตแค่ 2Gbps จะจำเป็นต้องเสียเงินไปอัพ mGig Switch โดยไม่จำเป็นครับ เพราะ mGig Switch มันไม่ใช่ถูกๆนะครับ ทั้งสวิตช์และ Client... รอเน็ต..10Gbps ด้วย XGS-PON มาเมื่อไหร่ วันนั้นค่อยจัดก็ไม่สาย!!

แต่เชื่อไหมว่า พรุ่งนี้ 10G Switch มาที่บ้านผมแน่นอน Tp-Link, Dlink, EnGenius, Mikrotik ราคาเริ่มถูกลงเรื่อยๆเหมือนกัน สำหรับคนวู่วาม และต้องการใช้ของใหม่ก่อน อันนี้ไม่ว่ากันครับ

(เคยซื้อ mGig Switch 24Port POE mGig ตัวละครึ่งล้านไปขายมาแล้วฮะ)

1. uplink mGig แต่พอร์ต Service 1Gbps?? 

2. อุปกรณ์ลักษณะ Server มี LAN 2 Port ก็วิ่ง งงๆ กิ๊กกว่าๆ 1.4 - 1.6Gbps ได้สบายๆ ถ้ามี LACP ทั้งสองฝั่งก็เร็วไป ถ้าไม่มี ก็แบ่งๆกันวิ่ง ยิ่งหลายคน มันก็แยกทางกันไปตามดวงเอง 

3. ได้ AP 4x4 HE 160 ... Client ก็วิ่งกระจาย 1.3-1.7Gbps...

4. ที่เหลือเราเอาไปทำ MESH ขยายสัญญาณรอบบ้าน ด้วย 4x4 แจ่มๆ เลยฮะ...

ความเร็วเน็ตเวิร์คสำหรับบ้านคน เอาว่าขอสัญญาณดีๆ Latency ต่ำ Packet Loss ต้องแทบจะไม่มี

  • 400Mbps สำหรับ PC, iPad และมือถือ (มือถือเดี๋ยวนี้ก็ต้องเร็วมากๆเหมือนกัน)
  • 100Mbps สำหรับ TV..
  • 500Mbps สำหรับระบบ ลำโพง, DAC/Ampสำหรับ cast Hires.. 
  • ที่เหลือ ต่อ 2 Port จาก หลัง Router ลง Switch  เข้าอุปกรณ์
  • แยก 2.4 GHz สำหรับพวก IOT ทั้งหลาย เปิดสัญญาณแรงสุด มันไม่ต้องการสปีด มันต้องการสัญญาณ.. 
เมื่อ Link MESH วิ่งได้ เกิน 1 Gbps... อ.Maxzerker... บอกให้ลองใช้ Ethernet สอง Interface ทำ LACP.. ต่อเข้ากับ Lan ทั้งสองพอร์ตของ MESH AP... 

จริงๆแล้วถ้าจะให้เต็มๆ ต้องเซ็ต LACP ที่ Switch หรือที่ NAS ที่ใช้ LAN 2Port เหมือนกัน (แต่ NAS ผม Repair ตัวเองอยู่เลยยังไม่ได้เทสต์)

การเทสต์:: Link MESH ทำได้ 3400 (Data rate 3400 หย่อน เพราะตั้งไกลประมาณ 8 เมตร) ต่อกับ Lan 2 Port 

vs 

PC Client 2x2HE160 (Data rate ได้เต็มๆที่ 2400)

ผลออกมา... ได้ ประมาณ 1.3 Gbps... ทั้งสองรูปแบบ... แต่ก็ถือว่า... จากนี้ไป เราเอา MESH มาทำเป็น Backhaul ผ่าน WiFi ลง Switch ได้แล้ว Latency ก็ไม่น่าเกลียdด -+10ms (ขอเทสต์แบบเร็วๆได้เท่านี้ก่อนครับผม.. )

และแล้ว วันนี้ก็ถึงยุคที่เน็ตบ้านไทยเข้าสู่ยุค Multi-Gigabit Internet บนความเร็ว 2Gbps กับ True Gigatex Fiber 2Gbps แล้ว



ณ ปัจจุบัน ทรู ให้บริการบนแพ็กเกจ 1.5Gbps / 500Mbps และ สูงสุด 2Gbps / 500Mbps

ถึงเวลาของ 2Gbps หรือยัง?

อันนี้แนะนำให้ดูการใช้งานของแต่ละคน ถ้าอยู่คนเดียว อุปกรณ์รองรับ อยากจะใช้ก็ไม่มีปัญหา แต่ถ้าอยู่กันหลายคน เอาจริงๆ ความเร็ว 1Gbps ก็เพียงพอเหลือเฟือแล้ว แต่ถ้ามองในมุมการใช้งานจริงที่ทุกคนมีหลายอุปกรณ์ อุปกรณ์เยอะๆ ใช้งานหนักๆ พร้อมกัน ดู 4K อีกคนเล่นเกม อีกคน Live ใช้หนักหน่วงนี่ 1Gbps ไม่พอแน่ๆ ดังนั้น 2Gbps ตอบโจทย์การใช้งานหลายอุปกรณ์พร้อมกันได้ไหลลื่น การใช้เน็ตบ้านไม่ใช่แค่สปีด ความเร็ว แต่ถ้าเราใช้งานพร้อมกัน ก็เหมือนกับหารความเร็วเฉลี่ยกันไป ถ้าแพ็กเกจไม่แรงพอก็ดึงกัน กระทบการใช้งาน ดังนั้น 2Gbps ตอบโจทย์หากต้องการใช้งานได้ไหลลื่นขึ้น แต่นั่นหมายความว่า การใช้งานที่ความเร็ว 2Gbps จะต้องมีอุปกรณ์ที่รองรับด้วย

แพ็กเกจ True Gigatex Fiber 2Gbps ที่ทีมงานใช้งานคือ ได้ Mesh Tri-Band จำนวน 2 ตัว ถ้าใครสนใจติดตั้ง ขณะนี้ (กุมภาพันธ์ 2565) ให้บริการ 24 จังหวัด ครอบคลุมทั่วทุกภาคของประเทศไทย ได้แก่ กรุงเทพฯ , นนทบุรี , ปทุมธานี , สมุทรปราการ , เชียงใหม่, เชียงราย, พิษณุโลก, ขอนแก่น, อุดรธานี, นครราชสีมา, ชลบุรี, ระยอง, ฉะเชิงเทรา, อยุธยา, สระบุรี, นครปฐม, เพชรบุรี, ราชบุรี, สมุทรสาคร, สุราษฎร์ธานี, ภูเก็ต, สงขลา, นครศรีธรรมราช และ อุบลราชธานี

ตอนติดตั้ง ได้อุปกรณ์อะไรบ้าง? 



หากติดตั้ง แพ็กเกจ 1699 สำหรับผู้มี True Black จะได้เร้าเตอร์ Gigatex Fiber Router PRO WiFi 6 รุ่น AX5400 รองรับ Dual-Band 4x4@160 และ Mesh Gigatex Mesh PRO WiFi 6รุ่น Tri-Band AX6600 จำนวน 2 จุด ทำให้ประสบการณ์การใช้งาน Wi-Fi ดีขึ้น ครอบคลุมขึ้น โดยไม่ต้องจ่ายค่าอุปกรณ์เพิ่มเติมเลย นอกจากนี้ยังได้กล่องทรูไอดี และแพ็กเกจดูฟรี ทรูไอดัพลัส นาน 24 เดือน ดูทรูวิชั่นส์ นาว พรีเมี่ยม นาน 24 เดือน และ ทรูพรีเมียร์ฟุตบอล ตลอดฤดูกาล 2021/22 เรียกว่าจัดเต็มมากๆ และยังไม่พอ มีซิมมือถือ True 15GB โทรฟรี 60 นาที คุ้มสุดกับราคา 1,699 บาท ต่อเดือน หรือถ้าสมัครแพ็กเกจ 1699 บาท ลูกค้าทั่วไป ไม่มี True Black ได้ mesh จุดเดียว รับชมฟรี แพ็กเกจทรูวิชั่นส์ นาว ฟรี (standard)

จากการใช้งาน 2 สัปดาห์ มองว่าแพ็กเกจที่ทรูให้มาคุ้ม ก็ตรงที่มีช่างมาติดตั้ง มาตั้งค่าให้ด้วยนี่แหละ และอุปกรณ์ที่ให้มาก็ดีมากๆ ดังนั้น สิ่งที่ประทับใจ ไม่ใช่เรื่องความเร็วเน็ต 2Gbps แต่ประเด็นหลักคืออุปกรณ์เทพที่ให้มาแบบ จ่ายเดือนละ 1,699 มีคนมาติดตั้งให้ ดูแลให้ยาวๆ ถือว่าคุ้ม

หากท่านผู้อ่านสนใจ ดูข้อมูลเพิ่มเติม