พิเศษ! สำหรับลูกค้าที่สั่งจองระหว่างวันที่ 17 - 28 ก.พ. นี้ รับฟรี! Redmi Note 11 Series Boxset มูลค่า 1,690 บาท
เสียวหมี่ ประเทศไทย เปิดตัว Redmi Note 11 Pro 5G และ Redmi Note 11 Pro สมาร์ทโฟนที่โดดเด่นด้วยกล้องความละเอียด 108MP มาพร้อมเทคโนโลยีเทอร์โบชาร์จ 67W และหน้าจอ AMOLED DotDisplay ความชัดระดับFHD+ ที่ให้รีเฟรชเรท 120Hz โดยสมาร์ทโฟน Redmi Note 11 Pro 5G รุ่นความจุ 8GB+128GB จะวางจำหน่ายในราคา 10,990 บาท และสมาร์ทโฟน Redmi Note 11 Pro รุ่นความจุ 8GB+128GB จะวางจำหน่ายในราคา 8,999 บาท โดยทั้ง 2 รุ่นจะวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 5 มีนาคม 2565 เป็นต้นไป ที่ Xiaomi Store ทุกสาขาและร้านค้าที่ร่วมรายการทั่วประเทศ รวมถึงช่องทางร้านค้าออนไลน์ทุกแพลตฟอร์ม พิเศษ! สำหรับผู้ที่สั่งจอง Redmi Note 11 Pro 5G หรือ Redmi Note 11 Pro ในระหว่างวันที่ 17 - 28 กุมภาพันธ์ 2565 รับฟรี! Redmi Note 11 Series Boxset มูลค่า 1,690 บาท
Redmi Note 11 Pro 5G และ Redmi Note 11 Pro มอบประสบการณ์การใช้งานที่พาคุณก้าวผ่านทุกความท้าทายภายใต้คอนเซ็ปต์ “Rise to the challenge” กับสมาร์ทโฟนที่อัดแน่นไปด้วยประสิทธิภาพอันยอดเยี่ยม ที่โดดเด่นด้วยกล้องหลักความละเอียด 108MP แบตเตอรี่ขนาด 5,000mAh ที่มาพร้อมเทคโนโลยีเทอร์โบชาร์จ 67W และหน้าจอขนาด 6.67” AMOLED DotDisplay ความชัดระดับ FHD+ ที่ให้รีเฟรชเรท 120Hz ยกระดับประสบการณ์การตอบสนองอย่างลื่นไหลและการเปลี่ยนภาพอย่างไม่มีสะดุด จอแสดงผลที่สวยงามอัดแน่นอยู่ในตัวเครื่องด้วยไซน์ขอบแบนแบบล้ำสมัย และลำโพง Super Linear สองตัวที่ด้านบนและด้านล่าง พร้อมมอบเสียงสเตอริโอแบบสมจริง เต็มอิ่มทุกอารมณ์ไม่ว่าจะเล่นเกมหรือดูวิดีโอ
Redmi Note 11 Pro 5G มาพร้อมกับกล้องหลัง 3 ตัว ที่พร้อมมอบประสบการณ์การถ่ายภาพที่โดนเด่นไร้ขีดจำกัด ความละเอียดกล้องหลัก 108MP ช่วยให้คุณถ่ายทอดภาพถ่ายด้วยสีสันที่สดใส เลนส์อัลตราไวด์ความละเอียด 8MP ขยายมุมมองของคุณมากถึง 118 องศา และเลนส์มาโคร ความละเอียด 2MP ที่จะช่วยให้คุณเก็บทุกรายละเอียด ทั้งยังมาพร้อมกับกล้องหน้าความละเอียด 16MP ที่สามารถถ่ายเซลฟี่ได้อย่างชัดเจนและเป็นธรรมชาติ Redmi Note 11 Pro 5G ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ตประมวลผล Snapdragon® 695 ที่รองรับ 5G อีกด้วย
Redmi Note 11 Pro มาพร้อมกล้องหลัง 4 ตัว ประกอบไปด้วย กล้องหลักความละเอียด 108MP เลนส์อัลตราไวด์ ความละเอียด 8MP เลนส์มาโคร ความละเอียด 2MP และพร้อมด้วยเซ็นเซอร์ความลึก 2MP เพื่อเพิ่มความเป็นธรรมชาติให้กับถ่ายภาพบุคคล นอกจากนี้ยังให้กล้องหน้า ความละเอียด 16MP เช่นเดียวกับ Redmi Note 11 Pro 5G ที่ช่วยทำให้ถ่ายเซลฟี่ได้อย่างชัดเจนและเป็นธรรมชาติอีกด้วย Redmi Note 11 Pro ขับเคลื่อนด้วย MediaTek Helio G96 อันทรงพลังเพื่อมอบประสิทธิภาพการทำงานที่ลื่นไหลและสมบูรณ์แบบให้กับคุณ
Redmi Note 11 Pro 5G รุ่นความจุ 8GB+128GB วางจำหน่ายในราคา 10,990 บาท โดยมีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Polar white, Graphite Gray และ Atlantic Blue ในขณะที่ Redmi Note 11 Pro รุ่นความจุ 8GB+128GB วางจำหน่ายในราคา 8,999 บาท โดยมีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Polar white, Graphite Gray และ Star Blue ซึ่งทั้ง Redmi Note 11 Pro 5G และ Redmi Note 11 Pro จะวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 5 มีนาคม 2565 เป็นต้นไปที่ Xiaomi Store ทุกสาขาและร้านค้าที่ร่วมรายการทั่วประเทศ รวมถึงช่องทางร้านค้าออนไลน์ทุกแพลตฟอร์ม พิเศษ! สำหรับลูกค้าที่สั่งจองสมาร์ทโฟน Redmi Note 11 Pro 5G หรือ Redmi Note 11 Pro ในระหว่างวันที่ 17 - 28 กุมภาพันธ์ 2565 รับฟรี Redmi Note 11 Series Boxset* มูลค่า 1,690 บาท *เริ่มรับของแถมได้ที่จุดขาย Xiaomi store และร้านค้าตัวแทนจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 3 มีนาคม 2565 เป็นต้นไป ข้อกำหนดและของแถมเป็นไปตามที่กำหนด ของแถมมีจำนวนจำกัด 7,000 ชิ้น
เกี่ยวกับเสียวหมี่
เสียวหมี่ก่อตั้งขึ้นในเดือนเมษายน 2010 และจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ Main Board of the Hong Kong Stock Exchange ในวันที่ 9 กรกฎาคม 2018 (1810.HK) เสียวหมี่เป็นบริษัทอินเทอร์เน็ตที่มีสมาร์ทโฟนและสมาร์ทฮาร์ดแวร์อัจฉริยะที่เชื่อมต่อด้วยแพลตฟอร์ม Internet of Things (IoT) เป็นแกนหลัก
ด้วยวิสัยทัศน์ของการเป็น “มิตรของผู้ใช้งานและบริษัทที่ทันสมัยที่สุดในใจผู้ใช้งานทุกคน” เสียวหมี่จึงมีความพยายามอย่างต่อเนื่องที่จะพัฒนานวัตกรรม ประสบการณ์การใช้งานที่ดีเยี่ยม ตลอดจนการดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพ โดยจะไม่ลดละการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ในราคาที่เป็นมิตร เพื่อให้ทุกคนบนโลกนี้สามารถเข้าถึงคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นจากนวัตกรรมเทคโนโลยีใหม่ๆ ได้ เสียวหมี่คือหนี่งในผู้นำการผลิตสมาร์ทโฟนชั้นนำของโลก โดยมีส่วนแบ่งทางการตลาดที่คิดจากการส่งมอบสมาร์ทโฟนเป็นอันดับ 3 ของโลกในไตรมาสที่ 3 ของปี 2564 นอกจากนี้ เสียวหมี่ยังเป็นผู้นำด้านการก่อตั้งแพลทฟอร์ม AIoT ของโลกโดยมีสินค้าอัจฉริยะเชื่อมต่อแพลทฟอร์มกว่า 400 ล้านเครื่อง (ไม่รวมสมาร์ทโฟนและแล็ปท็อป) จากการรายงานข้อมูล ณ วันที่ 30 กันยายน 2564 ผลิตภัณฑ์ของเสียวหมี่มีวางจำหน่ายกว่า 100 ประเทศทั่วโลก และในเดือนสิงหาคม 2564 เสียวหมี่ยังติดอันดับที่ 338 ของ Fortune Global 500 นับได้เป็นครั้งที่สาม โดยไต่ขึ้นมา 84 อันดับจากปี 2020 เสียวหมี่เป็นส่วนหนึ่งของ Hang Seng Index, Hang Seng China Enterprises Index และ Hang Seng TECH Index
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเสียวหมี่ สามารถเข้าชมได้ที่ https://blog.mi.com/en/