AIS เดินหน้าภารกิจคนไทยไร้ E-Waste ตามเป้าหมายการทำธุรกิจอย่างยั่งยืนพร้อมร่วมดูแลสิ่งแวดล้อม เนื่องในวาระวัน Earth Day จึงเน้นย้ำสร้างความตระหนักรู้ให้คนไทยเข้าใจถึงปัญหาและผลกระทบของขยะอิเล็กทรอนิกส์ พร้อมยังคงเดินหน้าทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์ทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมในการช่วยกันนำขยะ E-Waste เข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลอย่างถูกวิธีแบบ Zero Landfill โดยล่าสุดได้ขยายจุดรับทิ้งไปยังหน่วยงานต่างๆ เพิ่มเติม ประกอบด้วย การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค , บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด , กลุ่มธุรกิจ TCP, สถาบันการเเพทย์จักรีนฤบดินทร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล และ บมจ.ศุภาลัย ทำให้วันนี้โครงการคนไทยไร้ E-Waste มีจุดรับทิ้งแล้วกว่า 2,478 จุดทั่วประเทศ พร้อมกันนี้ยังได้จับมือกับ ลาซาด้า ปล่อยแคมเปญ “ทิ้งรับ Code” ชวนคนไทยทิ้ง E-Waste แลกรับส่วนลดสุดพิเศษเมื่อช้อปปิ้งบนแพลตฟอร์ม ลาซาด้า
สายชล ทรัพย์มากอุดม หัวหน้าฝ่ายงานประชาสัมพันธ์ AIS กล่าวว่า “จากเป้าหมายในการเป็นผู้ให้บริการดิจิทัลที่ดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน พร้อมมีส่วนร่วมในการดูแลรับผิดชอบต่อสังคม เศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม เพื่อเติบโตไปพร้อมกันอย่างยั่งยืน ทั้งนี้ในด้านสิ่งแวดล้อมเรามุ่งเน้นเรื่องการจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์ หรือ E-Waste ที่นับวันจะมีปริมาณที่เพิ่มขึ้น และหากกำจัดอย่างไม่ถูกวิธี ก็จะนำมาซึ่งผลเสียที่ร้ายแรงทั้งในปัจจุบันและอนาคต ดังนั้นนอกเหนือจากการบริหารจัดการ E-Waste อย่างถูกวิธีตามมาตรฐานสากลแล้ว การจะขับเคลื่อนเรื่องนี้ให้เกิดขึ้นได้อย่างเป็นรูปธรรม หัวใจสำคัญจึงอยู่ที่การทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์ เพื่อขยายผล ร่วมกันปลูกจิตสำนึก อันจะนำมาซึ่งความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการกำจัดขยะ E-Waste ในวงกว้าง”
“ดังนั้นเนื่องในวันคุ้มครองโลกหรือ Earth Day ซึ่งถือเป็นวาระสำคัญที่พวกเราควรรำลึกถึงสิ่งแวดล้อม และใคร่ครวญว่าเราจะต้องทำอะไรอีกบ้างเพื่อปกป้องธรรมชาติที่มอบแก่โลกใบนี้ รวมถึงหนึ่งในภารกิจสำคัญอย่างการลดอัตราการเกิดคาร์บอนไดออกไซด์ในบรรยากาศ เอไอเอสจึงมุ่งทำทุกวิถีทางที่จะสนองตอบเป้าหมายดังกล่าว โดยได้ขยายจุดรับทิ้งขยะ E-Waste ต่อเนื่องร่วมกับพาร์ทเนอร์ชั้นนำ อาทิ โครงการบ้านในเครือ ศุภาลัย กว่า 15 โครงการ, ศูนย์บริการซัมซุง 35 สาขา, โรงงานและบริษัทในเครือกลุ่มธุรกิจ TCP รวมถึงหน่วยงานรัฐอย่าง สถาบันการเเพทย์จักรีนฤบดินทร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล และ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ทำให้ปัจจุบันเรามีจุดรับทิ้งแล้วกว่า 2,478 จุดทั่วประเทศ และสามารถนำขยะอิเล็กทรอนิกส์เข้าสู่กระบวนการจัดการที่ถูกต้องตามมาตรฐานไปแล้วกว่า 307,414 ชิ้น จึงนับเป็นการทำงานร่วมกันเพื่อบูรณาการจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์แบบองค์รวมตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ”
“นอกจากนี้ เรายังภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้จับมือร่วมกับลาซาด้า แพลตฟอร์มช้อปปิ้งออนไลน์ชั้นนำ จัดกิจกรรม “ทิ้งรับ Code” เพื่อเชิญชวนคนไทยมาทิ้งขยะ E-Waste ผ่านจุดรับทิ้งเอไอเอสช้อปทุกสาขา ไม่ว่าจะเป็น โทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต สายชาร์จ หูฟัง พาวเวอร์แบงก์ แบตเตอรี่มือถือ โดยทุกการทิ้ง 1 ชิ้น จะได้รับ Code ส่วนลดไปใช้จ่ายซื้อสินค้าได้ผ่านร้านค้าบน ลาซาด้า ซึ่งนับว่าเป็นการทำงานที่สอดประสาน ผ่านแนวทางความร่วมมือที่สร้างการมีส่วนร่วมที่เปิดกว้างเพื่อให้ทุกภาคส่วนได้เข้ามามีบทบาทในการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมรวมถึงการจัดการกับขยะอิเล็กทรอนิกส์ได้อย่างยั่งยืน”
ญาณ์บดี จิตติกุลดิลก ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารและหัวหน้าฝ่ายการสร้างการเติบโตของลูกค้าและพันธมิตรทางธุรกิจ บริษัท ลาซาด้า จำกัด (ประเทศไทย) กล่าวว่า “เรามีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้ประสานร่วมมือกับเอไอเอสอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในมิติของการสร้างสังคมแห่งความยั่งยืน ซึ่งครั้งนี้ ทางลาซาด้าได้ร่วมจัดกิจกรรม “AIS x Lazada ทิ้งรับ Code” โดยเชิญชวนคนไทยนำเอาขยะ E-Waste มาทิ้งที่ AIS Shop ทั่วประเทศ โดยขยะ 1 ชิ้น ได้รับ 1 Code ซึ่งมีส่วนลดมูลค่า 40 บาท สำหรับใช้ซื้อสินค้าใน Lazada จำนวน 15,000 สิทธิ์ มากไปกว่านั้นความร่วมมือในครั้งนี้ยังสอดรับกับพันธกิจของลาซาด้าที่ทำมาอย่างต่อเนื่องเพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการฟื้นฟูและดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมของพวกเราให้เติบโตต่อไปอย่างยั่งยืน”
อุดมศักดิ์ เต็มวงษ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) กล่าวว่า “เรามีการสื่อสารภายในกับพนักงาน กฟภ.อยู่เสมอว่า ขยะอิเล็กทรอนิกส์ เป็น ขยะอันตราย เราจำเป็นต้องช่วยกันคัดแยกเพื่อนำไปกำจัดอย่างถูกวิธีซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของ กฟภ. ตามโครงการสำนักงานสีเขียว (Green Office) และในวันนี้เราได้รับความร่วมมือจากทาง AIS ในการนำเอาจุดรับทิ้งขยะอิเล็กทรอนิกส์มาจัดวางภายในหน่วยงาน 3 จุด ซึ่งนอกจากเป็นจุดรับทิ้งยังเป็นการเชิญชวนให้พนักงาน เพื่อนพนักงานและครอบครัวได้ร่วมกันทิ้งขยะอิเล็กทรอนิกส์อย่างถูกที่เพื่อร่วมกันลดผลกระทบและภัยจากขยะดังกล่าวที่จะส่งผลเสียต่อโลกของเราได้ในอนาคต”
จองชุง ปาร์ค ผู้อำนวยการฝ่ายบริการลูกค้า บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด กล่าวว่า “ทางซัมซุง เราตระหนักเป็นอย่างดีว่า ขยะอิเล็กทรอนิกส์ในปัจจุบันนอกจากเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประชาชนส่วนใหญ่ยังไม่ทราบว่าขยะดังกล่าวหากไม่แยกทิ้งและกำจัดอย่างถูกวิธีจะส่งผลเสียต่อระบบนิเวศ ด้วยความสำคัญดังกล่าวทางซัมซุงจึงได้วางกลยุทธ์ในการจัดการกับ E-Waste ออกเป็น 3 ด้าน ได้แก่ 1.Educate หรือ การสร้างการตระหนักรู้ถึงขยะอิเล็กทรอนิกส์ในวงกว้าง 2. Encourage หรือ การส่งเสริมให้ทิ้งขยะ E-Waste อย่างถูกวิธีโดยในมิตินี้ได้จับมือกับทาง AIS นำเอาจุดรับทิ้งขยะอิเล็กทรอนิกส์มาไว้ใน ศูนย์บริการซัมซุง 35 แห่ง และ 3.Identity หรือ สร้างภาพจำที่ดีให้ลูกค้าที่ต้องการทิ้งขยะดังกล่าวมีจุดทิ้งที่มั่นใจได้ว่าจะสามารถรวบรวมไปทำลายได้อย่างถูกต้องตามมาตรฐานสากล ซึ่งความร่วมมือครั้งนี้เรามีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการสร้างสังคมแห่งการยั่งยืนใน Ecosystems ยุคปัจจุบัน”
สราวุฒิ อยู่วิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจ TCP กล่าวว่า “กลุ่มธุรกิจ TCP ตระหนักถึงปัญหาขยะล้นเมืองและพร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยลดปัญหานี้อย่างเต็มที่ ปัจจุบันภายในกลุ่มธุรกิจ TCP ได้รณรงค์และสร้างวัฒนธรรมการคัดแยกขยะกับพนักงานทั่วประเทศอย่างต่อเนื่องทุกปี สำหรับภายนอกเรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับ AIS ในการนำจุดรับทิ้งขยะอิเล็กทรอนิกส์มาจัดวางภายในกลุ่มธุรกิจ TCP เพื่อให้ขยะเหล่านั้นได้ถูกกำจัดอย่างถูกวิธี ไม่ก่อให้เกิดมลพิษ สิ่งนี้สอดคล้องกับกรอบการพัฒนาที่ยั่งยืน “TCP Sustainability Framework” ในด้าน Harmony ที่มุ่งเน้นการจัดการและดูแลด้านสิ่งแวดล้อม โดยคำนึงถึงการอยู่ร่วมกันอย่างเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับสิ่งแวดล้อมและชุมชนอย่างยั่งยืน”
ธัญวรัตน์ ปัญญารัตน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายการตลาดและการขาย บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ในฐานะผู้นำด้านพัฒนาอสังหาริมทรัพย์อย่างยั่งยืน บริษัทฯ มีเป้าหมายดำเนินการด้านสิ่งแวดล้อมมาอย่างต่อเนื่องโดยให้ความสำคัญด้านการจัดการเรื่องสิ่งแวดล้อม รูปแบบ Waste Management ในกระบวนการก่อสร้าง เช่น ลดปริมาณความสูญเสียของวัสดุก่อสร้าง และจัดการกับเศษวัสดุก่อสร้างให้เกิดมูลค่าสูงสุด รวมทั้งลดผลกระทบที่มีต่อสิ่งแวดล้อม สู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของโลก (SDGs) ซึ่งในครั้งนี้บริษัทฯ ร่วมสร้างอีกหนึ่งภารกิจร่วมกับทาง AIS เพื่อมุ่งจัดการปัญหาขยะอิเล็กทรอนิกส์ ผ่านกิจกรรม E-Waste Green Network โดยมีการนำจุดรับทิ้งขยะอิเล็กทรอนิกส์ จัดวางภายในโครงการนำร่องของบริษัท 15 โครงการ ให้แก่ลูกบ้าน และที่สำนักงานใหญ่ อาคาร ศุภาลัย แกรนด์ ทาวเวอร์ สำหรับพนักงานของศุภาลัยรวมถึงผู้เช่าสำนักงาน เพื่อเป็นการรณรงค์ให้มีการทิ้งขยะอิเล็กทรอนิกส์อย่างถูกวิธี และยังสามารถนำไปกำจัดหรือเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลอย่างถูกต้องตามมาตรฐานสากล”
พร้อมกันนี้ ทางสถาบันการเเพทย์จักรีนฤบดินทร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ได้รับการสนับสนุนที่ดีจาก AIS ที่นำเอาจุดรับทิ้งขยะอิเล็กทรอนิกส์มาจัดวางตามจุดต่างๆ ภายในโรงพยาบาลรามาธิบดีจักรีนฤบดินทร์ ซึ่งขยะอิเล็กทรอนิกส์ถือเป็นขยะอันตราย หากประชาชนนำไปกำจัดอย่างไม่ถูกวิธีหรือถูกทิ้งปนกับขยะทั่วไป สามารถส่งผลให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพร่างกาย จากการปนเปื้อนของสารเคมี และยังส่งผลเสียกับสภาพแวดล้อมตามมา ทางสถาบันการเเพทย์จักรีนฤบดินทร์ฯ เชื่อว่านี่จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการจัดการกับภัยเงียบจากขยะชนิดนี้ให้ลดลงและหมดไปเพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับประชาชน
เกี่ยวกับ AIS
บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ AIS ผู้นำด้าน Digital Life Service Provider อันดับ 1 ที่มีคลื่นความถี่ในการให้บริการมากที่สุดรวม 1420 MHz และมีจำนวนผู้ใช้งานมากที่สุดกว่า 44.1 ล้านเลขหมาย (ณ สิ้นปี 2564) พร้อมขับเคลื่อนประเทศไทยด้วยเทคโนโลยี 5G ที่ครบ 77 จังหวัดแล้วเป็นรายแรกผ่าน 3 สายธุรกิจ ได้แก่ โทรศัพท์เคลื่อนที่, อินเทอร์เน็ตบ้านความเร็วสูงภายใต้แบรนด์ AIS Fibre และบริการดิจิทัล 5 ด้าน ได้แก่ วิดีโอ คลาวด์ ดิจิทัลเพย์เมนท์ อินเทอร์เน็ตในทุกสิ่ง (IoT) และบริการร่วมกับพาร์ทเนอร์ตลอดจนขยายสู่กลุ่มธุรกิจใหม่ อาทิ AIS eSports, AIS Insurance Service ทั้งหมดนี้เพื่อสนับสนุนความแข็งแกร่งด้านโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลของประเทศขยายขีดความสามารถของภาคอุตสาหกรรม และยกระดับ คุณภาพชีวิตของคนไทยไปพร้อมกัน พบกับเราได้ที่ www.ais.th