Tesla เริ่มทำการทดสอบบริการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต in-car wifi hotspot กับผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตหลายราย เพื่อให้บริการในขณะเดินทาง
เรียกได้ว่า Connectivity คือตัวชูโรงของ Tesla ในอุตสหกรรมยานยนต์เลยก็ว่าได้ เนื่องจากเสริมความบันเทิงให้กับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร และรองรับการใช้งานสำหรับเจ้าของรถ Tesla เพื่อให้สามารถเก็บข้อมูลในการขับขี่ พฤติกรรมในการใช้งานแอปต่างๆ ในขณะขับรถ หรือโดยสารรถยนต์ เพื่อนำไปพัฒนาฟีเจอร์ โดยเฉพาะ Autopilot ที่วิเคราะห์พฤติกรรมผู้ขับขี่
แม้ว่า Tesla เองพยายามจะนำเสนอบริการอินเทอร์เน็ตฟรีโดยไม่มีค่าใช้จ่าย แต่เมื่อมีจำนวนผู้ใช้มากขึ้น ต้นทุนก็เพิ่มสูงขึ้นด้วยเช่นกัน
ในปี 2018 Tesla เริ่มให้บริการชำระเงินบริการ “premium connectivity” โดยมีค่าบริการรายเดือนเพื่อเข้าถึงข้อมูลที่มากขึ้น ซึ่งผู้ใช้ Tesla จะต้องจ่ายเดือนละ 10 เหรียญสหรัฐต่อเดือน เพื่อใช้บริการ premium connectivity นี้
ถ้ามองในแง่เทคโนโลยี รถยนต์ก็คืออุปกรณ์ฉลาดๆ เหมือนกับสมาร์ทโฟน ถ้าต่อเน็ตได้ ก็จะรองรับความสามารถที่เพิ่มมากขึ้น โดยผู้ผลิตรถยนต์ พยายามต่อยอดผ่านการอัปเดตซอฟต์แวร์ โดยใช้ wifi hotspot ของมือถือเป็นตัวช่วยในการเชือมต่อ เป็นตัวเลือกนอกเหนือไปจาก เครือข่าย LTE
ล่าสุด Tesla พยายามมองหาทางเลือกในการจับมือกับผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตอื่นๆ เพื่อให้บริการ Wifi hotspot จากผู้ให้บริการเหล่านี้
โดยบัญชี Twitter @Analytic_ETH ได้นำเสนอภาพหน้าจอบนรถยนต์ Tesla และบอกเล่าถึงฟีเจอร์ของ Tesla ในการเข้าถึงบริการอินเทอร์เน็ตผ่าน hotspot สาธารณะของ AT&T, Comcast, Orange และเครือข่ายอื่นๆ ซึ่งสามารถทดลองใช้งานได้บนเครือข่ายที่รองรับ ซึ่ง Tesla กำลังเจรจาและทดสอบกับผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตในอเมริกาเหนือ ยุโรป และเอเซีย เพื่อทดสอบฟีเจอร์นี้
เป็นไปได้ว่า ผู้ใช้ Tesla น่าจะสามารถใช้ฟีเจอร์นี้ได้ผ่านการอัปเดตซอฟต์แวร์ ส่วนผู้ให้บริการนั้นขึ้นอยู่กับแต่ละประเทศที่ทาง Tesla ได้ทดสอบและเปิดให้บริการ
ฟีเจอร์นี้ก็เป็นประโยชน์มากๆ ในการเชื่อมต่อกับรถยนต์ Tesla ที่รองรับการเชื่อมต่อระบบของรถยนต์กับอินเทอร์เน็ตได้ดีขึ้น รวมไปถึงการเพิ่มขึ้นของปริมาณดาต้าในการใช้เน็ตของระบบ entertainment ในรถ และ Tesla ก็นำข้อมูลจากพฤติกรรมผู้ใช้มาวิเคราะห์ นำเสนอบริการต่างๆ ได้ตรงใจผู้ใช้มากยิ่งขึ้น
