AIS ยืนยันความพร้อมต่อกระบวนการทำงาน รวมถึงสร้างความตระหนักรู้ให้กับบุคลากรภายในองค์กร คู่ค้า พันธมิตรทางธุรกิจและลูกค้าถึงความสำคัญในการคุ้มครองและรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล ให้สอดรับกับพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Personal Data Protection Act) หรือ กฎหมาย PDPA ที่กำลังจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มิถุนายน 2565 โดย AIS ได้เพิ่มมาตรการเพื่อกำกับดูแลข้อมูลส่วนบุคคลและความปลอดภัยทางไซเบอร์ จัดลำดับชั้นความลับของข้อมูลโดยนำเครื่องมือทางดิจิทัลเทคโนโลยีมาใช้งานทั้งองค์กร รวมถึงได้ดำเนินการแจ้งประกาศความคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และสื่อสารให้ลูกค้าทราบถึงการปฏิบัติต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง อาทิ วัตถุประสงค์ของการเก็บและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล มาตรการการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล สิทธิของลูกค้าต่อข้อมูลส่วนบุคคล และสร้างองค์ความรู้ขั้นพื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย PDPA ในมิติต่างๆ
สายชล ทรัพย์มากอุดม หัวหน้าฝ่ายงานประชาสัมพันธ์ AIS กล่าวว่า “ในฐานะที่ AIS เป็นผู้นำด้านการให้บริการดิจิทัลที่มีลูกค้ามากกว่า 44.6 ล้านเลขหมาย รวมถึงกลุ่มลูกค้าองค์กรตั้งแต่ระดับผู้ประกอบการ SMEs ไปจนถึงองค์กรขนาดใหญ่ หน้าที่สำคัญนอกเหนือจากการพัฒนาสินค้าและคุณภาพบริการให้ตอบโจทย์ลูกค้าทุกกลุ่มแล้ว เรายังมีภารกิจในการจัดการระบบฐานข้อมูลสารสนเทศทั้งข้อมูลจากการดำเนินธุรกิจและข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าให้มีความปลอดภัยสูงสุด ซึ่งเป็นไปตามนโยบายและแผนความยั่งยืนด้านการปกป้องระบบสารสนเทศและคุ้มครองข้อมููลส่วนบุุคคลของลููกค้า
โดยแนวทางการทำงานตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมานับจากวันที่กฎหมาย PDPA ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ตั้งแต่ปี 2562 เรามีการกำกับดูแล ศึกษา ปรับปรุง พัฒนาเครื่องมือและกระบวนการทำงานให้สอดคล้องกับกฎหมายที่เกี่ยวข้องอยู่อย่างสม่ำเสมอ ทำให้เรามีความพร้อมอย่างเต็มที่ต่อการบังคับใช้ พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ในวันที่ 1 มิถุนายนนี้ โดย AIS มีการดำเนินงานตามกรอบกฎหมาย และข้อบังคับที่เกี่ยวข้องครอบคลุมการดำเนินงาน ตั้งแต่ระดับนโยบายมาจนถึงระดับปฏิบัติการ”
สายชล ย้ำอีกว่า “จากความพร้อมต่อปฏิบัติการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามกฎหมาย PDPA เราจึงขอยืนยันความมั่นใจให้กับลูกค้าถึงแนวทางการทำงานที่มุ่งเน้นความปลอดภัยสูงสุดในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามมาตรฐานสากล ตลอดระยะเวลาการดำเนินธุรกิจ รวมถึงการเพิ่มความเข้มข้นของการสื่อสารไปยังลูกค้าให้รับทราบถึงความสำคัญของกฎหมาย PDPA ต่อการใช้งานบนโลกออนไลน์ รวมถึงการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของตนเอง และการใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตามที่กฎหมายกำหนดไว้
โดยการดำเนินงานในครั้งนี้ AIS ได้สื่อสารแจ้งประกาศคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าทั้งลูกค้าที่ใช้บริการมือถือและเน็ตบ้าน รวมถึงลูกค้าองค์กร คู่ค้า และพันธมิตรทางธุรกิจ ให้เข้าใจถึงระเบียบและข้อปฏิบัติที่เกี่ยวข้อง อาทิ วัตถุประสงค์ของการเก็บและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ข้อจำกัดในการใช้และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล มาตรการการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล สิทธิของลูกค้าต่อข้อมูลส่วนบุคคล และช่องทางในการติดต่อกับบริษัทฯ อีกทั้งยังได้เพิ่มมาตรการเพื่อกำกับดูแลข้อมูลส่วนบุคคลและความปลอดภัยทางไซเบอร์ มีการจัดลำดับชั้นความลับของข้อมูล นำเครื่องมือทางดิจิทัลเทคโนโลยีมาให้ทุกหน่วยงานในบริษัท ใช้ตรวจสอบการส่งข้อมูลส่วนบุคคลอย่างปลอดภัยสูงสุดทั้งกระบวนการ อาทิ DLP (Data Leak Protection) และมีเครื่องมือที่ใช้เข้ารหัสข้อมูลสำคัญ เพื่อปกป้องข้อมูลสารสนเทศของการดำเนินธุรกิจและข้อมูลส่วนบุคคล”
“วันนี้เราขอยืนยันความพร้อมและสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า ตลอดจนผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่ม ต่อการดำเนินธุรกิจที่สอดคล้องกับแนวทางของกฎหมาย PDPA ที่จะช่วยส่งเสริมประสิทธิภาพในทำงานเพื่อการรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า รวมถึงความปลอดภัยด้านไซเบอร์ตามมาตรฐานสากล ด้วยการใช้ศักยภาพของโครงข่ายอัจฉริยะในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลเข้ามาสนับสนุน เพื่อให้พร้อมต่อการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีด้านความปลอดภัย ตามแผนการพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืน และในฐานะผู้ให้บริการดิจิทัลของประเทศ ที่จะร่วมกันปกป้อง สร้างการรับรู้ ตลอดจนเสริมภูมิคุ้มกันด้านการใช้งานดิจิทัลอย่างแข็งแกร่ง เพื่อให้การเดินหน้าของเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ปราศจากซึ่งอุปสรรคและความเสี่ยงใดๆ” นางสายชล กล่าวทิ้งท้าย
เกี่ยวกับ AIS
บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ AIS ผู้นำด้าน Digital Life Service Provider อันดับ 1 ที่มีคลื่นความถี่ในการให้บริการมากที่สุดรวม1420 MHz และมีจำนวนผู้ใช้งานมากที่สุดกว่า 44.6 ล้านเลขหมาย (ณ มีนาคม 2565) พร้อมขับเคลื่อนประเทศไทยด้วยเทคโนโลยี 5G ที่ครบ 77 จังหวัดแล้วเป็นรายแรกผ่าน 3 สายธุรกิจ ได้แก่ โทรศัพท์เคลื่อนที่, อินเทอร์เน็ตบ้านความเร็วสูงภายใต้แบรนด์ AIS Fibre และบริการดิจิทัล 5 ด้าน ได้แก่ วิดีโอ คลาวด์ ดิจิทัลเพย์เมนท์ อินเทอร์เน็ตในทุกสิ่ง (IoT) และบริการร่วมกับพาร์ทเนอร์ตลอดจนขยายสู่กลุ่มธุรกิจใหม่ อาทิ AIS eSports, AIS Insurance Service ทั้งหมดนี้เพื่อสนับสนุนความแข็งแกร่งด้านโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลของประเทศขยายขีดความสามารถของภาคอุตสาหกรรม และยกระดับ คุณภาพชีวิตของคนไทยไปพร้อมกัน พบกับเราได้ที่ www.ais.th