หลังจาก AIS ประกาศขอบคุณลูกค้าในโอกาสดำเนินธุรกิจครบรอบ 32 ปี โดยหนึ่งในของขวัญชิ้นสำคัญ คือ การนำเอาคอนเทนต์ระดับโลกอย่างศึกแดงเดือดนัดประวัติศาสตร์ที่จัดขึ้นในไทยมาให้ลูกค้า AIS ได้รับชมแบบจัดหนัก เต็มทุกอรรรส ครบในทุกช่องทาง ด้วยการจับมือกับ บริษัท เฟรชแอร์ เฟสติวัล จำกัด คว้าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดศึกแดงเดือดนัดประวัติศาสตร์ในไทย “THE MATCH Bangkok Century Cup 2022” ระหว่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พบ ลิเวอร์พูล ในวันที่ 12 กรกฎาคม 2565 รายเดียวในไทย ชมฟรีผ่านทาง AIS PLAY ในทุกช่องทาง ทั้งแอปพลิเคชั่น เว็บไซต์ และกล่อง AIS PLAYBOX เต็มอิ่มไปกับเทคโนโลยีการถ่ายทอดสดแบบ 360 องศา ผ่านทาง AIS 5G Play VR เสมือนกับได้นั่งชมแบบติดขอบสนามจริง มากไปกว่านั้นยังได้ผนึกกำลังกับโรงภาพยนตร์เอส เอฟ ให้ลูกค้าสามารถตีตั๋วเข้าเชียร์การแข่งขันในโรงภาพยนตร์กันแบบจัดเต็ม และที่พิเศษไปกว่านั้นลูกค้า AIS เตรียมลุ้นรับตั๋วเข้าชมเกมการแข่งขันจริง ด้วยที่นั่งที่ที่สุดสำหรับลูกค้า ณ สนามราชมังคลากีฬาสถาน โดยจะเปิดลงทะเบียนและจับฉลากผู้โชคดีผ่านทางแอป myAIS
ปรัธนา ลีลพนัง หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มลูกค้าทั่วไป AIS กล่าวว่า “ตลอดระยะเวลาการทำธุรกิจของ AIS ที่เรายังคงรักษาสถานะความเป็นผู้นำมาอย่างต่อเนื่อง เหตุผลสำคัญนอกเหนือจากการมุ่งพัฒนาโครงข่าย Digital จากเทคโนโลยี 5G เพื่อสนับสนุนการใช้ชีวิตของคนไทยแล้ว เรายังให้ความสำคัญกับการดูแลลูกค้าผ่านสิทธิพิเศษที่ดีที่สุดในทุกไลฟ์สไตล์ เช่นเดียวกับในครั้งนี้ที่เราได้ส่งมอบความพิเศษสำหรับลูกค้า AIS เท่านั้นกับศึกแดงเดือดระหว่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับ ลิเวอร์พูล ที่กำลังเกิดขึ้นในรายการ THE MATCH Bangkok Century Cup 2022 ด้วยการจับมือกับ บริษัท เฟรชแอร์ เฟสติวัล จำกัด ผู้จัดการแข่งขันเตรียมร่วมกันถ่ายทอดสดผ่านทาง AIS PLAY แบบเอ็กคลูซีฟช่องทางเดียวในประเทศไทย พิเศษไปกว่านั้นเรายังนำเทคโนโลยีการถ่ายทอดสดแบบ 360 องศา มาให้ลูกค้าได้รับชมผ่านทาง AIS 5G Play VR เสมือนได้นั่งชมติดขอบสนามอย่างที่ไม่เคยได้สัมผัสประสบการณ์นี้มาก่อน
นอกเหนือจากการรับชมผ่านทางหน้าจอบน AIS PLAY แล้ว เรายังเพิ่มความพิเศษให้ลูกค้าสามารถรับชมการแข่งขันผ่านจอโรงภาพยนตร์ด้วยระบบภาพและเสียงให้แฟนบอลได้รับชมและเชียร์กันแบบจัดเต็ม ผ่านความร่วมมือกับ เอส เอฟ ที่ลูกค้า AIS สามารถซื้อตั๋วเข้าชมการแข่งขันได้ในโรงภาพยนตร์เอสเอฟทั่วประเทศ มากไปกว่านั้นวันนี้ AIS ยังเตรียมบัตรเข้าชมการแข่งขันจำนวน 145 ใบ มูลค่าที่นั่งละ 20,000 บาท มาให้ลูกค้าทั้ง AIS 5G, AIS Fibre และ AIS Gomo ได้ร่วมลุ้นความสนุกผ่านทางแอป myAIS เพื่อมอบเป็นของขวัญตอบแทนความไว้วางใจที่ให้เราเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลการสื่อสารและดิจิทัลไลฟ์สไตล์ เรียกได้ว่าศึกแดงเดือดนัดประวัติศาสตร์นี้ ลูกค้า AIS จะได้รับแบบจัดหนักจัดเต็มครบทุกช่องทาง ทั้งการรับชมแบบออนไลน์ถ่ายทอดสด การรับชมแบบเสียงคมชัดในโรงหนังและการรับชมแบบติดขอบสนาม ถือเป็นอีกหนึ่งของขวัญชิ้นสำคัญที่สะท้อนความตั้งใจของเราที่อยากให้ทุกคนอยู่กับ AIS ที่ดีสุด”
วินิจ เลิศรัตนชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เฟรชแอร์ เฟสติวัล จำกัด กล่าวว่า “อย่างที่เคยกล่าวไว้ การแข่งขันศึกแดงเดือดนัดประวัติศาสตร์ในไทยนี้ถือเป็นครั้งแรกในเอเชีย นอกจากการจัดการแข่งขันในสนามราชมัลคลากีฬาสถานที่ต้องพร้อมในทุกด้าน เรายังได้ร่วมมือกับทาง AIS ถ่ายทอดสดการแข่งขันครั้งนี้ให้กับคนไทยได้รับชมพร้อมกัน เราเชื่อมั่นว่าด้วยศักยภาพและความพร้อมในด้านโครงข่ายที่มีคุณภาพครอบคลุมทั่วประเทศจะส่งมอบประสบการณ์ที่ดีนี้ให้กับคนไทยได้รับชมศึกแดงเดือดได้อย่างมีความสุข มากไปกว่านั้นการถ่ายทอดการแข่งขันนี้ยังตอกย้ำอีกว่า ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางในระดับเอเชียที่มีความพร้อมครบทุกมิติในการเป็นเจ้าบ้านต้อนรับในทุกอีเว้นท์ที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้ในอนาคต”
สุวิทย์ ทองร่มโพธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานการตลาด บริษัท เอส เอฟ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “เอส เอฟ มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งในการทำงานร่วมกับ AIS ที่จะส่งมอบแมตช์ประวัติศาสตร์แดงเดือดในไทยครั้งนี้ให้แฟนๆ ได้รับชม เสมือนเชียร์อยู่ในสนามจริงๆ ถือเป็นการถ่ายทอดสดฟุตบอลในโรงภาพยนตร์ทั่วประเทศเป็นครั้งแรกของไทย ผ่านระบบเสียงสมบูรณ์แบบ บนจอยักษ์ภาพคมชัด ที่โรงภาพยนตร์ในเครือเอส เอฟ เท่านั้น ซึ่งเราได้เตรียมความพร้อมรองรับแฟนบอลของทั้ง 2 ทีม และรับรองได้ว่าแฟนบอลทุกคนในโรงภาพยนตร์จะได้รับชมอย่างสนุกไปพร้อมๆกับแฟนบอลในสนามอย่างแน่นอน โดยลูกค้า AIS สามารถซื้อบัตรเข้ารับชมแมตช์แห่งประวัติศาสตร์ THE MATCH BANGKOK CENTURY CUP 2022 LIVE VIEWING AT SF CINEMA ได้เร็วๆ นี้
เกี่ยวกับ AIS
บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ AIS ผู้นำด้าน Digital Life Service Provider อันดับ 1 ที่มีคลื่นความถี่ในการให้บริการมากที่สุดรวม 1420 MHz และมีจำนวนผู้ใช้งานมากที่สุดกว่า 44.6 ล้านเลขหมาย (ณ มีนาคม 2565) พร้อมขับเคลื่อนประเทศไทยด้วยเทคโนโลยี 5G ที่ครบ 77 จังหวัดแล้วเป็นรายแรกผ่าน 3 สายธุรกิจ ได้แก่ โทรศัพท์เคลื่อนที่, อินเทอร์เน็ตบ้านความเร็วสูงภายใต้แบรนด์ AIS Fibre และบริการดิจิทัล 5 ด้าน ได้แก่ วิดีโอ คลาวด์ ดิจิทัลเพย์เมนท์ อินเทอร์เน็ตในทุกสิ่ง (IoT) และบริการร่วมกับพาร์ทเนอร์ตลอดจนขยายสู่กลุ่มธุรกิจใหม่ อาทิ AIS eSports, AIS Insurance Service ทั้งหมดนี้เพื่อสนับสนุนความแข็งแกร่งด้านโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลของประเทศขยายขีดความสามารถของภาคอุตสาหกรรม และยกระดับ คุณภาพชีวิตของคนไทยไปพร้อมกัน พบกับเราได้ที่ www.ais.th