Qualcomm Technologies, Inc. แนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ RFFE modules ที่ให้ประสบการณ์ Wi-Fi และ Bluetooth ที่ดีที่สุด โดยรองรับ Bluetooth, Wi-Fi 6E และมาตรฐานใหม่ Wi-Fi 7 โดยโมดูลได้รับการออกแบบให้รองรับอุปกรณ์สมาร์ทโฟน ระบบ automotive, XR, PC, wearables, mobile broadband, IoT และอื่นๆ
Christian Block รองประธานอาวุโส และผู้จัดการทั่วไป RFFE, QUALCOMM Germany RFFE GmbH กล่าวว่า "ผลิตภัณฑ์ใหม่ของ Qualcomm Technologies ต่อยอดความเป็นผู้นำ RFFE เข้าสู่ automotive และ IoT ช่วยให้ตลาด OEMs ได้นำไปใช้งาน พัฒนา และควบคุมต้นทุนได้"
จากประโยชน์ข้อนี้ OEMs จะได้ใช้โซลูชั่นและออกแบบผลิตภัณฑ์ได้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ใช้งานแบตเตอรี่ได้ยาวนานขึ้น และลดระยะเวลาในเชิงพาณิชย์ และต่อยอดนวัตกรรม และส่งมอบประสบการณ์สู่ผู้ใช้
ปี 2021 Qualcomm Technologies ขึ้นแท่นผู้นำ #1 ในตลาด RFFE สำหรับอุปกรณ์มือถือ ดังนั้นสำหรับ RFFE modules รุ่นใหม่จึงต่อยอดจาก handset พร้อม modem-to-antenna กับ automotive และ IoT ทำให้ Qualcomm Technologies ก้าวขึ้นสู่ผู้นำ RFFE ในอุตสาหกรรม เพราะทุกวันนี้ 5G automotive, 5G fixed wireless access CPEs (customer premise equipment) และอุปกรณ์ 5G PC devices ล้วนแต่ใช้การเชื่อมต่อผ่านชิปที่มี RFFE จาก Qualcomm Technologies นอกจากนี้ Qualcomm® RFFE ยังได้รับการพัฒนาบนอุปกรณ์ IoT เช่น wearables อีกด้วย
สำหรับ Wi-Fi RFFE modules ช่วยให้การสื่อสาร ระหว่างชิป Wi-Fi baseband และเสาอากาศ ส่งสัญญาณและปรับคลื่นไร้สาย ผู้ผลิตใช้โมดูลนี้ในการพัฒนาการเชื่อมต่อ Wi-Fi ให้กับอุปกรณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยควบคุมต้นทุนได้ และรองรับ 5G/Wi-Fi บนฟิลเตอร์ Qualcomm® ultraBAW™ เพื่อการเชื่อมต่อ 5G/Wi-Fi สำหรับอุปกรณ์ไร้สาย
ผู้ผลิตสามารถใช้โมดูลใหม่นี้กับ Qualcomm® FastConnect™ 7800 Wi-Fi 7/Bluetooth Systems และระบบ Snapdragon® 5G Modem-RF Systems เพื่อใช้งานบนอุปกรณ์ที่รัน Snapdragon® Connect. หรือใช้ชิป 3rd party Wi-Fi และ Bluetooth
สำหรับโมดูลใหม่นี้กำลังพัฒนา ส่วนการใช้งานในเชิงพาณิชย์ คาดว่าจะได้ใช้ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2022 นี้
ข้อมูลเพิ่มเติม Qualcomm® FastConnect™ 7800