10 ก.ค. 2565 440 0

เกรท วอลล์ มอเตอร์ จัดงาน “HAVAL: DRIVE TO THE FUTURE” ฉลองครบรอบ 1 ปี HAVAL H6 ในไทย พร้อมเดินหน้าประกาศกลยุทธ์ 6S สร้างความเชื่อมั่นด้านการขายและบริการ ตอกย้ำการก้าวสู่การเป็นผู้นำด้านยานยนต์ไฟฟ้าของไทย

เกรท วอลล์ มอเตอร์ จัดงาน “HAVAL: DRIVE TO THE FUTURE” ฉลองครบรอบ 1 ปี HAVAL H6 ในไทย พร้อมเดินหน้าประกาศกลยุทธ์ 6S  สร้างความเชื่อมั่นด้านการขายและบริการ ตอกย้ำการก้าวสู่การเป็นผู้นำด้านยานยนต์ไฟฟ้าของไทย

เกรท วอลล์ มอเตอร์ ฉลองครบรอบ 1 ปีของการเปิดตัว HAVAL H6 ในประเทศไทย จัดงาน HAVAL: DRIVE TO THE FUTURE” แทนคำขอบคุณลูกค้าที่ให้เสียงตอบรับอย่างล้นหลาม พิสูจน์ได้จากยอดขายมากกว่า 4,859 คัน นับตั้งแต่เปิดตัวในประเทศไทยเมื่อปลายเดือนมิถุนายนปี 2564 จนถึงปลายเดือนมิถุนายน 2565 เดินหน้าประกาศกลยุทธ์ 6S เพื่อเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า สะท้อนภาพลักษณ์ในฐานะบริษัทเทคโนโลยีอัจฉริยะระดับโลกที่มุ่งสร้างประสบการณ์การบริการที่มีลูกค้าเป็นศูนย์กลาง (User-centric)

ลอดระยะเวลา 
ปีที่ผ่านมา All New HAVAL H6 Hybrid SUV ได้เข้ามาสร้างความคึกคักให้กับวงการยานยนต์ประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ด้วยฟังก์ชั่นอัจฉริยะรอบด้าน สมรรถนะของรถยนต์ ระบบการช่วยเหลือผู้ขับขี่และระบบความปลอดภัยที่เหนือชั้น แพลตฟอร์มโมดูล่าร์อัจฉริยะอย่าง L.E.M.O.N. ตลอดจนราคาที่จับต้องได้ ส่งผลให้ All New HAVAL H6 Hybrid SUV สามารถชนะใจผู้บริโภคชาวไทย ครองยอดขายอันดับ 1 ในกลุ่มรถยนต์คอมแพคเอสยูวีติดต่อกันถึง 3 เดือนซ้อน ตั้งแต่เดือนสิงหาคมถึงตุลาคมปีที่ผ่านมา อีกทั้งยังสามารถครองยอดขายเป็นอันดับ ในกลุ่มรถยนต์คอมแพคเอสยูวีได้ถึง เดือนซ้อนตั้งแต่ต้นปี 2565 (มกราคม – มิถุนายน) โดย All New HAVAL HHybrid SUV ยังนับเป็นรถยนต์รุ่นแรกที่ผลิตโดย โรงงาน เกรท วอลล์ มอเตอร์ แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จังหวัดระยอง ซึ่งเป็นโรงงานอัจฉริยะ (Smart Factory) เต็มรูปแบบแห่งที่ 2 นอกประเทศจีนอีกด้วย ปัจจุบัน เกรท วอลล์ มอเตอร์ ได้ส่งมอบ All New HAVAL HHybrid SUV ให้กับลูกค้าทั่วประเทศไปแล้วเป็นจำนวนทั้งสิ้น 4,859 คัน

นายณรงค์ สีตลายน กรรมการผู้จัดการ เกรท วอลล์ มอเตอร์ (ประเทศไทย)
 กล่าวว่า “HAVAL H6 ถือเป็นรถยนต์รุ่นที่ประสบความสำเร็จของเกรท วอลล์ มอเตอร์ ตั้งแต่มีการเปิดตัวสู่ตลาดในประเทศจีนจวบจนถึงปัจจุบัน มียอดขายสะสมกว่า 3.5 ล้านคัน และสร้างสถิติรถเอสยูวีที่มียอดขายรายเดือนสูงสุดในเซ็กเมนต์ 9 ปีติดต่อกัน สำหรับประเทศไทย นับตั้งแต่วันแรกที่ All New HAVAL H6 Hybrid SUV ได้เข้ามาโลดแล่นอยู่ในตลาดจนถึงปัจจุบัน เกรท วอลล์ มอเตอร์ ได้ต้อนรับสมาชิกชาวไทยเข้าสู่ครอบครัว HAVAL H6 แล้วเกือบ 5,000 ครอบครัว ต้องขอขอบคุณลูกค้าชาวไทยทุกท่านสำหรับความไว้วางใจและความสนับสนุนที่มอบให้กับ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ตลอด ปีที่ผ่านมา HAVAL H6 ครองยอดขายอันดับหนึ่งในตลาดคอมแพคเอสยูวีอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2565 เรายังคงรักษาแชมป์ไว้ได้อย่างแข็งแกร่ง โดยมีส่วนแบ่งทางการตลาดโดยเฉลี่ยต่อเดือนกว่า 30% ความสำเร็จของ HAVAL H6 ในประเทศไทยสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและความตั้งใจของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ได้เป็นอย่างดี

เกรท วอลล์ มอเตอร์จะยังเดินหน้าดำเนินธุรกิจภายใต้ กลยุทธ์หลัก ได้แก่ 1) การเป็นผู้นำด้านยานยนต์พลังงานไฟฟ้า กับ Mission “in 3” ที่จะนำรถยนต์รุ่นต่างๆ เข้ามาทำการตลาดในประเทศไทยอย่างน้อย 9 รุ่น ในระยะเวลา 3 ปี 2Consumer Voice Focus การรับฟังเสียงของผู้บริโภค และ 3New User Experience การสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับลูกค้า โดยนำเสียงของผู้บริโภคและคำแนะนำต่าง ๆ มาออกแบบเป็นประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้กับผู้บริโภค ควบคู่ไปกับกลยุทธ์ “4 in 1” ที่มุ่งดำเนินงานผ่านแพลตฟอร์มออฟไลน์และออนไลน์ ผสาน GWM Experience Center, GWM Direct Store, GWM Partner Store และ GWM app ไว้ด้วยกัน และเพื่อให้สอดคล้องกับกลยุทธ์หลักดังกล่าว เกรท วอลล์ มอเตอร์ ยินดีเป็นอย่างยิ่งในการแนะนำ กลยุทธ์ 6S ซึ่งให้ความสำคัญกับการการขายและการบริการเพื่อสร้างความเชื่อมั่นและยกระดับประสบการณ์ลูกค้า ควบคู่ไปกับการเพิ่มจำนวนเครือข่ายการให้บริการ เพื่อเป็นอีกหนึ่งพลังในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยสู่อนาคตที่ยั่งยืน ตอกย้ำการก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้านยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยต่อไป

กลยุทธ์ 
6S ประกอบไปด้วย Sales, Service, Spare parts, Survey, Social & Share ที่สะท้อนรูปแบบการดำเนินธุรกิจที่ชัดเจนของเกรท วอลล์ มอเตอร์ที่เน้นการดำเนินงานแพลตฟอร์มออนไลน์และออฟไลน์ และการรับฟังเสียงของผู้บริโภค โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

  • บริการด้านการขายที่น่าประทับใจ (Sales)เกรท วอลล์ มอเตอร์ จะยังคงเชื่อมต่อประสบการณ์ลูกค้าการสื่อสารระหว่างแบรนด์กับผู้ใช้และการขายในรูปแบบ Online-to-Offline (O2O) ผ่าน GWM Application ทั้งการจอง การทดลองขับ การชำระเงิน และการดูสถานะของรถที่สั่งซื้อ ควบคู่ไปกับการขยายเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างความเชื่อมั่นและอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าในการเข้าถึงสินค้าและบริการ ยกระดับประสบการณ์การเลือกซื้อรถยนต์ด้วยนโยบายการกำหนดราคาเดียวเงื่อนไขเดียวทั่วประเทศในทุกช่องทาง (One Price Policy) พร้อมทั้งปรับเปลี่ยนรูปแบบธุรกิจของดีลเลอร์แบบเดิมให้เป็นผู้ให้บริการ (Service Provider) ตอกย้ำความมุ่งมั่นที่จะยกระดับประสบการณ์ของลูกค้าให้ดียิ่งขึ้นอย่างแท้จริง
  • บริการหลังการขายที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการ (Service)เกรท วอลล์ มอเตอร์ มุ่งมั่นที่จะตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคในยุคดิจิทัลให้ได้รับความสะดวก รวดเร็ว และประหยัดเวลา โดยลูกค้าสามารถดูสถานะการให้บริการ อนุมัติงานซ่อม ชำระเงิน ตรวจสอบประวัติการรับบริการ และข้อมูลการใช้จ่ายได้ทุกที่ทุกเวลาผ่าน GWM application ซึ่งแสดงถึงความโปร่งใสและความจริงใจในการให้บริการ บริษัทยังได้นำเทคโนโลยีเข้ามายกระดับประสบการณ์ของลูกค้าไปอีกขั้นในการเชื่อมต่อประสบการณ์ระหว่าง Smart Vehicle กับ Smart Application Smart System และ Smart Device เพื่อสร้าง Smart Store  ไม่ว่าจะเป็นการนำระบบ License plate recognition system เข้ามาทำงานร่วมกับระบบ Dealer management system ทำให้ศูนย์บริการทำความรู้จักกับลูกค้าได้ตั้งแต่ก่อนพบหน้า นำระบบ Dealer assistant application เข้ามาใช้ควบคู่กับอุปกรณ์ Service tablet เพื่อลดขั้นตอนและระยะเวลาในการให้บริการ ยิ่งไปกว่านั้น ยังได้พัฒนาและติดตั้ง Vehicle status board ในห้องรับรองเพื่อให้ลูกค้าสามารถติดตามสถานะการซ่อม อีกทั้งยังสามารถทราบตำแหน่งรถยนต์ที่กำลังรับบริการอยู่ได้ตลอดเวลาผ่านกล้อง CCTV อีกด้วย
  • การบริหารจัดการอะไหล่อย่างมีประสิทธิภาพ (Spare parts)ในปีนี้ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ได้ขยายพื้นที่คลังอะไหล่เพื่อรองรับปริมาณอะไหล่ให้พร้อมกับปริมาณรถยนต์ที่เพิ่มมากขึ้น รวมถึงเตรียมพร้อมสำหรับรถยนต์รุ่นใหม่ ๆ ที่จะเปิดตัวในอนาคต โดยเกรท วอลล์ มอเตอร์ จะเพิ่มปริมาณการจัดเก็บอะไหล่จากเดิมประมาณ 3,700 SKU เป็น 5,300 SKU หรือเพิ่มขึ้นกว่า 40% ลูกค้าทุกคนสามารถมั่นใจและอุ่นใจได้ว่าบริษัทจะดำเนินงานบริหารจัดการอะไหล่อย่างมีประสิทธิภาพและมีการสั่งซื้ออะไหล่ตามจำนวนและระยะเวลาที่เหมาะสม โดยบริษัทสามารถจัดส่งอะไหล่ในเขตกรุงเทพและปริมณฑลได้ภายในวันเดียวกัน และจัดส่งอะไหล่ไปยังศูนย์บริการทั่วประเทศได้ภายใน 2 วันทำการ ในอนาคตศูนย์บริการของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ จะเพิ่มประสิทธิภาพในการให้ข้อมูลแก่ลูกค้า ให้สามารถตรวจสอบจำนวนอะไหล่ได้แบบเรียลไทม์
  • การศึกษาและรับฟังเสียงตอบรับของผู้บริโภค (Survey): เกรท วอลล์ มอเตอร์ ดำเนินธุรกิจโดยรับฟังเสียงของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง เพื่อนำมาปรับปรุงและพัฒนาผลิตภัณฑ์และการให้บริการให้ดียิ่งขึ้นอยู่เสมอ เช่น การสอบถามความคิดเห็นเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ และนำมาจัดแสดงตามคำเรียกร้องของผู้บริโภคในงานจัดแสดงรถยนต์ การจัดเตรียมทีมงานคอยอำนวยความสะดวกลูกค้าบนโซเชียลมีเดียตั้งแต่ 7.00-24.00 น. ตลอด 7 วัน การรับฟังและนำปัญหาของลูกค้ามาแก้ไขปัญหาและพัฒนาการบริการ การจัดกิจกรรม Let's Talk by GWM ให้ลูกค้าร่วมแบ่งปันประสบการณ์การขับขี่และมุมมองในฐานะผู้บริโภคกับผู้บริหารระดับสูงเพื่อนำความคิดเห็นและข้อเสนอแนะไปพัฒนาการดำเนินธุรกิจในมิติต่าง ๆ อย่างครอบคลุม นอกจากนี้ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ยังจัดตั้ง User Committee กลุ่มตัวแทนลูกค้าที่จะเข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินงาน รวบรวมเสียงของผู้ใช้และนำเสนอข้อคิดเห็น รวมถึงจัดกิจกรรมต่าง ๆ ร่วมกัน
  • การสร้างสรรค์กิจกรรมให้ลูกค้ามีส่วนร่วม (Social & Share): เกรท วอลล์ มอเตอร์ ให้ความสำคัญกับการสร้างสังคมผู้ใช้ที่แข็งแกร่ง รวมถึงแบ่งปันประสบการณ์ที่ดีระหว่างกัน ซึ่งจะทำให้แบรนด์และลูกค้าเดินเคียงข้างและเติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืนผ่านกิจกรรม ส่วน ได้แก่
    • GWM application ซึ่งมีผู้ใช้รวมทั้งสิ้นกว่า 100,000 ท่าน และมีผู้เข้ามาใช้งานมากกว่า 10,000 คนต่อวันเพื่อแบ่งปันประสบการณ์ สอบถามข้อมูล แชร์สาระน่ารู้ระหว่างกัน และสะสมคะแนนเพื่อแลกรับสินค้าและบริการต่าง ๆ
    • การจัดกิจกรรมออฟไลน์ระหว่างกลุ่มผู้ใช้ เพื่อสร้างปฏิสัมพันธ์และเปิดโอกาสให้ผู้ใช้ได้พบปะสังสรรค์ รวมถึงมีประสบการณ์ที่ดีกับผลิตภัณฑ์และแบรนด์ ตอกย้ำความมุ่งมั่น ในการสร้างสังคมผู้ใช้ที่แข็งแกร่งและยั่งยืนตามหลักการดำเนินธุรกิจที่เน้นผู้ใช้เป็นศูนย์กลาง (User-Centric) โดยในช่วง เดือนที่ผ่านมา เกรท วอลล์ มอเตอร์ได้จัดกิจกรรมที่ GWM Experience Center มากกว่า 160 กิจกรรม มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมมากกว่า 4,600 คน และมีผู้เข้าเยี่ยมชมกว่า 134,000 คน นอกจากนั้น เกรท วอลล์ มอเตอร์ยังได้เริ่มให้บริการด้านสถานที่แก่เจ้าของรถยนต์ GWM ทุกคน โดยพวกเขาสามารถเข้ามาใช้บริการพื้นที่ของ GWM Experience Center ไอคอนสยาม เพื่อจัดกิจกรรมส่วนตัวได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย และจะขยายบริการให้ครอบคลุม GWM Store ทั่วประเทศต่อไป

 

ปัจจุบัน เกรท วอลล์ มอเตอร์มี GWM Store ทั้งรูปแบบที่เป็นเครือข่ายการขายและบริการหลังการขาย และมีเป้าหมายที่จะเปิดตัว GWM Store ทั้งรูปแบบ GWM Direct Store และ GWM Partner Store ให้ครบ 80 แห่งภายในปีนี้ โดย ณ สิ้นไตรมาสที่สอง เกรท วอลล์ มอเตอร์มีจำนวนเครือข่ายทั้งสิ้น 49 แห่ง และในไตรมาสที่สามวางแผนว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 63 แห่ง จนจบสิ้นปี 2565 จะขยายให้ครบ 80 แห่งทั่วประเทศอย่างแน่นอน นอกจากนี้ บริษัทยังมีเป้าหมายในการขยายสถานีชาร์จประจุไฟฟ้า หรือ G-Charge ให้ได้ 55 แห่งภายในสิ้นปี 2565 นี้  โดยจะแบ่งเป็นภายในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล 70% และต่างจังหวัด 30% ซึ่งสถานีชาร์จทั้งหมดของบริษัทจะติดตั้งเครื่องอัดประจุไฟฟ้าแบบ DC Fast Charge กำลังสูง เริ่มต้นที่ 120 kW และมีรูปแบบหัวชาร์จแบบ CCS2 ซึ่งเป็นมาตรฐานสากล G-Charge จึงถือเป็นแพลตฟอร์มให้บริการสถานีชาร์จที่ครบวงจรและทันสมัยมากที่สุดแพลตฟอร์มหนึ่งในประเทศไทย ทั้งความสามารถในการจ่ายไฟกำลังสูงและการเข้าถึงบริการได้ตลอด 24 ชั่วโมงและทุกวัน  สามารถใช้บริการผ่าน GWM application ด้วยฟังก์ชั่นการค้นหาสถานี นำทาง การจอง และชำระเงิน ใน App เดียว

นอกจากนี้ เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการขับขี่ทุกเส้นทาง เกรท วอลล์ มอเตอร์ได้มีการรวบรวมสถานีอัดประจุไฟฟ้าที่มีอยู่ในประเทศมากกว่า 
500 แห่ง มาอยู่ในแผนที่การชาร์จใน GWM app ครอบคลุมสถานีชาร์จสาธารณะของไทยมากกว่า 55% และจะเร่งดำเนินการเพื่อรวบรวมสถานีชาร์จให้ครอบคลุม 80% ภายในปีนี้ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้บริโภคชาวไทยทุกคนที่ใช้งานรถยนต์ไฟฟ้า สะท้อนให้เห็นถึงความตั้งใจของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ในการผลักดันอุตสาหกรรมยานยนต์พลังงานไฟฟ้าให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งและเป็นรูปธรรม

เกรท วอลล์ มอเตอร์ ในฐานะ “บริษัทที่ให้บริการเทคโนโลยีระดับโลก”​
(Global Intelligent Technology Company) จะยังคงมุ่งมั่นรับฟังเสียงผู้บริโภค เพื่อสร้างสรรค์และพัฒนาผลิตภัณฑ์ บริการที่อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย ปลอดภัย และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ควบคู่ไปกับการยึดถือผู้บริโภคเป็นศูนย์กลาง เพื่อส่งมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ยอดเยี่ยมตอบโจทย์ทุกความต้องการ และเคียงข้างเติบโตไปด้วยกันกับลูกค้า พันธมิตรทางธุรกิจ และสังคม เพื่อเป็นอีกหนึ่งกำลังในการขับเคลื่อนการเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าและเศรษฐกิจไทยให้ก้าวต่อไปอย่างมั่นคงและยั่งยืน