19 ก.ค. 2565 856 0

เมตาเวิร์ส และมุมมองสู่บอร์ดบริหาร

เมตาเวิร์ส และมุมมองสู่บอร์ดบริหาร

ดร. ศุภมิตร เตชะมนตรีกุล ประธานกรรมการ บริการสอบบัญชี | ดีลอยท์ ประเทศไทย  

ในขณะที่นักเทคโนโลยีและนักกลยุทธ์ให้ความสำคัญกับการขยายกรอบการใช้งานจากเมตาเวิร์สให้กว้างขวางขึ้น บทบาทของบอร์ดคือการดึงให้เกิดบทสนทนาที่พูดถึงยุทธศาสตร์และความเสี่ยง แนวคิดที่ครั้งหนึ่งเคยพบเฉพาะในนิยายวิทยาศาสตร์และวิดีโอเกมกำลังเข้าสู่โลกแห่งความจริงในวันนี้ โดยมีศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงแง่มุมต่าง ๆ ของการมีปฏิสัมพันธ์ทางธุรกิจและส่วนบุคคล

เมตาเวิร์ส คืออินเทอร์เน็ตยุคถัดไป โดยมีเนื้อหาที่ล้ำหน้าจากข้อความเป็นกราฟิกไปจนถึงวิดีโอที่มีการสอดผสานการตอบสนองทางดิจิทัลที่สมจริง เป็นการเชื่อมโยงโลกเสมือนเข้ากับประสบการณ์ในโลกแห่งความเป็นจริงได้อย่างแนบเนียน

สิ่งที่ขับเคลื่อนเมตาเวิร์ส 2 ปัจจัยหลัก คือ ความล้ำหน้าทางเทคโนโลยีที่ส่งเสริมการเชื่อมต่อและประสบการณ์สมจริงผ่านเครือข่ายความเร็วสูง รวมถึงพฤติกรรมผู้บริโภคที่ใช้เวลาในการสื่อสารและมีปฏิสัมพันธ์ผ่านระบบดิจิทัลมากขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงการแพร่ระบาดของโรคติดต่อ สำหรับภาคธุรกิจที่เตรียมพร้อมสำหรับการใช้เมตาเวิร์สจะต้องปรับตัวให้มีความสามารถในการประมวลผลแบบ edge computing การเชื่อมต่อที่เร็วขึ้น เซิร์ฟเวอร์ เครือข่ายฮาร์ดแวร์ อุปกรณ์ต่าง ๆ - ชุดหูฟัง ถุงมือ กล้องที่รองรับได้ เซ็นเซอร์ และอุปกรณ์ต่อพ่วงอื่นๆ เพื่อรองรับระบบนิเวศนี้

เมตาเวิร์สมีศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงรูปแบบธุรกิจได้หลายวิธี ซึ่งมีการใช้งานที่เป็นไปได้ดังนี้

การทำงานร่วมกัน การทำงานแบบไฮบริด เช่น การประชุมเสมือนจริงผ่านอวตาร และมีส่วนร่วมในการสนทนาแบบดิจิทัลที่สมจริงมากขึ้น

การผลิตและการขนส่ง บริษัทต่าง ๆ สามารถใช้ digital twins เพื่อจำลองกระบวนการผลิต และการขนส่งภายในเมตาเวิร์ส ซึ่งอาจช่วยลดต้นทุนด้วยการวางแผนและบำรุงรักษาล่วงหน้า

การศึกษาและการฝึกอบรม การใช้อวตารมาผสมผสานกับประสบการณ์ออนไลน์สามารถขยายขอบเขตการเรียนรู้และการทำงานร่วมกันได้ อวตารตัวเดียวสามารถเคลื่อนที่ไปมาในพื้นที่ต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดาย ตั้งแต่ห้องบรรยาย ห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์ ไปจนถึงห้องผ่าตัด ซึ่งนักศึกษาแพทย์อาจได้โอกาสฝึกทักษะผ่านอวตารก่อนใช้ทักษะกับผู้ป่วยจริง

ผู้บริโภค ธุรกิจและผู้บริโภคสามารถดำเนินการในพื้นที่ที่ผู้คนอยู่อาศัย ทำงาน และซื้อของในโลกเสมือนจริง ซึ่งสามารถขยายขอบเขตของการโต้ตอบและการทำธุรกรรมได้

ภาครัฐ เมตาเวิร์สสามารถถูกใช้เป็นพื้นที่ให้ประชาชนมีส่วนร่วมทางการเมือง รวมถึงภาครัฐเองก็สามารถใช้เพื่อเข้าถึงกลุ่มผู้สนับสนุนได้สะดวกมากขึ้น รวมถึงยกเอากิจกรรมทางการเมืองสำคัญต่าง ๆ ไปไว้ในโลกเสมือนได้ด้วย ซึ่งจะช่วยให้เกิดการใช้จ่ายงบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพในการให้บริการประชาชน

สุขภาพ ความเป็นอยู่ที่ดี Telehealth ในปัจจุบันสามารถพัฒนาไปสู่การดูแลเสมือนจริงเพื่อสร้างประสบการณ์แบบตัวต่อตัว เมตาเวิร์สสามารถปลดล็อกนวัตกรรมการดูแลสุขภาพตั้งแต่สุขภาพจิตและการจัดการความเจ็บปวดไปจนถึงการผ่าตัด ฟิตเนส กายภาพบำบัด และ การดูแลผู้ป่วย โรงยิมในบ้านสามารถได้รับการอัพเกรดที่สำคัญอีกอย่างหนึ่ง

บทบาทของบอร์ดในการพิจารณาเมตาเวิร์ส


การที่บอร์ดคุ้นเคยต่อนวัตกรรมนี้จะเป็นประโยชน์กับองค์กรในภาพรวม เช่น กรรมการที่เข้าร่วมประชุมบอร์ดแต่ละคนสามารถสวมแว่นตาที่สามารถซ้อนทับข้อมูลดิจิทัลบนสภาพแวดล้อมที่เป็นทางกายภาพ โดยสามารถแสดงวาระการประชุมที่เสมือนกับฉายขึ้นผนัง รวมถึงเอกสารต่าง ๆ ที่ให้ข้อมูลเสริมหรือข้อมูลย้อนหลังเพื่อเปรียบเทียบได้ หรือแม้แต่การประชุมผู้ถือหุ้น ระบบสามารถแสดงประวัติของบุคคลที่กำลังจะพูดใส่ไมโครโฟนโดยอัตโนมัติโดยที่ไม่ต้องเสียเวลาแนะนำตนเองได้อีกด้วย เป็นต้น

แม้ว่าแนวคิดนี้อาจยังไม่เกิดขึ้นเร็ววัน แต่แนวคิดดังกล่าวสามารถเข้าถึงได้แล้วในปัจจุบ้น ซึ่งบอร์ดควรพิจารณาถึงความไม่แน่นอน ความเสี่ยง และ โอกาสต่าง ๆ เพื่อทำความเข้าใจ และ สำรวจความเป็นไปได้ เช่น

โมเดลธุรกิจ วิธีการทำงานแบบใหม่ อาจนำไปสู่โมเดลธุรกิจและโอกาสใหม่ ๆ รวมถึงสิ่งที่ยังไม่ค้นพบ

การจัดการระบบนิเวศ การเลือกแพลตฟอร์มและเทคโนโลยีในเมตาเวิร์ส อาจเป็นแบบฝึกหัดที่ซับซ้อนสำหรับหลาย ๆ บริษัท โดยเฉพาะบริษัทที่เพิ่งเริ่มต้น

การมีส่วนร่วม และ นโยบายต่อสังคม การให้ประสบการณ์แบบมีส่วนร่วมและการจัดการพฤติกรรมของประชาชนอาจเป็นสิ่งที่ท้าทายในสภาพแวดล้อมเสมือนได้เหมือนกับที่จะเกิดขึ้นในสภาพแวดล้อมทางกายภาพจริง

ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว เมตาเวิร์สยังมีแนวโน้มที่จะชี้ช่องโหว่ทางไซเบอร์ใหม่และความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลประจำตัวและการฉ้อโกงทางดิจิทัล ธุรกิจต่าง ๆ และรัฐบาลอาจให้ความสำคัญกับการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล รวมทั้งระบุและจัดการกับความเสี่ยงทางไซเบอร์ที่เกิดขึ้นใหม่ในขณะเดียวกัน

คำถามที่บอร์ดอาจพิจารณาต่อเมตาเวิร์ส

1. บริษัทมีการพิจารณาที่จะใช้เมตาเวิร์สอย่างไร และเมตาเวิร์สจะนำไปสู่โอกาสในการเติบโตทางธุรกิจ นวัตกรรม และการพัฒนาความรู้ของพนักงานอย่างไร

2. บริษัทควรพัฒนาเมตาเวิร์สด้วยตนเอง หรือควรมีพันธมิตร หุ้นส่วน สมาคมอุตสาหกรรม หรือความสัมพันธ์ทางธุรกิจอื่น ๆ เมื่อเห็นถึงโอกาสหรือไม่

3. บริษัทมีการควบคุมหรือกระบวนการใดในการสำรวจโอกาสและความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับเมตาเวิร์ส

4. บริษัทควรตั้งคณะกรรมการเทคโนโลยีเพื่อแสวงหาโอกาสและความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นต่อประสิทธิภาพของบริษัทหรือไม่

5. บริษัทมีนโยบายหรือกระบวนการใดบ้างที่เกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัลและสกุลเงินดิจิทัล ถ้ามีแล้วต้องมีการพิจารณาปรับปรุงใหม่หรือไม่

6. ความเสี่ยงใดที่อาจเกิดขึ้นจากกรณีต่าง ๆ ของเมตาเวิร์ส รวมทั้งผลกระทบด้านจริยธรรมของเทคโนโลยีและประสบการณ์ดิจิทัลมีหรือไม่

7. ความเสี่ยงใดที่อาจเกิดขึ้นจากการเป็นผู้ใช้งานตั้งแต่แรกเริ่ม หรือการเป็นผู้ตาม

8. หน่วยงานทางการใดมีอำนาจในการกำกับดูแลเกี่ยวกับเมตาเวิร์ส และจะส่งผลต่อโอกาสในการใช้เมตาเวิร์สของบริษัทอย่างไร

9. บริษัทอื่น ๆ กำลังมีบทบาทหรือทำอะไรกับการใช้ประโยชน์จากเมตาเวิร์ส รวมทั้งการลงทุนในเมตาเวิร์ส

10. บริษัทมีกระบวนการอะไรบ้างเพื่อติดตามสภาพแวดล้อมของเมตาเวิร์สที่กำลังพัฒนาและเชื่อมโยงสู่โอกาสและความเสี่ยงอย่างต่อเนื่อง

เมตาเวิร์สอาจแสดงให้เห็นถึงโอกาสทางธุรกิจที่ยิ่งใหญ่และสดใส และ เปิดช่องทางใหม่ในการโต้ตอบและจำลองเหตุการณ์ด้วยข้อจำกัดที่น้อยลง อย่างไรก็ตาม เช่นเดียวกับเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นใหม่อื่น ๆ ผลประโยชน์มักมาพร้อมกับความเสี่ยงที่ธุรกิจต้องสำรวจในแต่ละกรณีการใช้งาน ดังนั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญที่บอร์ดบริหารจะต้องรับผิดชอบในการช่วยให้บริษัท ยังคงให้ความสำคัญกับช่วงการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีที่สามารถยกระดับให้บรรลุตามกลยุทธ์และภารกิจของบริษัทได้ และร่วมมือกับผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อขับเคลื่อนบริษัทให้เดินหน้าต่อไป

อ้างอิงจาก Deloitte US | On the Board’s Agenda: What’s all the buzz about the metaverse?

Deloitte refers to one or more of Deloitte Touche Tohmatsu Limited (“DTTL”), its global network of member firms, and their related entities (collectively, the “Deloitte organization”). DTTL (also referred to as “Deloitte Global”) and each of its member firms and related entities are legally separate and independent entities, which cannot obligate or bind each other in respect of third parties. DTTL and each DTTL member firm and related entity is liable only for its own acts and omissions, and not those of each other. DTTL does not provide services to clients. Please see www.deloitte.com/about to learn more.

Deloitte Asia Pacific Limited is a company limited by guarantee and a member firm of DTTL. Members of Deloitte Asia Pacific Limited and their related entities, each of which are separate and independent legal entities, provide services from more than 100 cities across the region, including Auckland, Bangkok, Beijing, Hanoi, Hong Kong, Jakarta, Kuala Lumpur, Manila, Melbourne, Osaka, Seoul, Shanghai, Singapore, Sydney,Taipei and Tokyo.

About Deloitte Thailand

In Thailand, services are provided by Deloitte Touche Tohmatsu Jaiyos Co., Ltd. and its subsidiaries and affiliates.

This communication contains general information only, and none of Deloitte Touche Tohmatsu Limited (“DTTL”), its global network of member firms or their related entities (collectively, the “Deloitte organization”) is, by means of this communication, rendering professional advice or services. Before making any decision or taking any action that may affect your finances or your business, you should consult a qualified professional adviser. 

No representations, warranties or undertakings (express or implied) are given as to the accuracy or completeness of the information in this communication, and none of DTTL, its member firms, related entities, employees or agents shall be liable or responsible for any loss or damage whatsoever arising directly or indirectly in connection with any person relying on this communication. DTTL and each of its member firms, and their related entities, are legally separate and independent entities.

© 2022 Deloitte Touche Tohmatsu Jaiyos Co., Ltd.