3 ส.ค. 2565 816 0

แอลจี (LG) เผยผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 2 ปี 2565 เติบโตจากยอดขายเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านระดับพรีเมียมและชิ้นส่วนยานยนต์

แอลจี (LG) เผยผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 2 ปี 2565 เติบโตจากยอดขายเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านระดับพรีเมียมและชิ้นส่วนยานยนต์

แอลจี อีเลคทรอนิคส์ อิงค์ (แอลจี) ประกาศผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 2 สูงสุดเป็นประวัติการณ์ สะท้อนถึงยอดขายที่แข็งแกร่งจากผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านของแอลจีในภูมิภาคที่สำคัญต่าง ๆ และการเติบโตของผลกำไรจากกลุ่มธุรกิจชิ้นส่วนยานยนต์ของแอลจี ในขณะที่อุตสาหกรรมยานยนต์ทั่วโลกกำลังฟื้นตัว

แอลจีประกาศผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 2 ของปี พ.ศ. 2565 ที่ 19.5 ล้านล้านวอน (หรือประมาณ 5.46 แสนล้านบาท) เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันในปีที่ผ่านมาถึง 15 เปอร์เซ็นต์ โดยมีผลกำไรจากการดำเนินงาน อยู่ที่ 792.2 พันล้านวอน (หรือประมาณ 2.2 หมื่นล้านบาท) ลดลงจากไตรมาสเดียวกันในปีที่ผ่านมา 12 เปอร์เซ็นต์ โดยมีสาเหตุหลักมาจากความท้าทายด้านซัพพลายเชนและต้นทุนด้านโลจิสติกส์ที่เพิ่มขึ้น

เมื่อพิจารณาถึงผลกระทบต่อธุรกิจจากโรคระบาดและภาวะเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงไป แอลจีรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าวด้วยการสร้างผลประโยชน์จากทุกกลุ่มธุรกิจที่อยู่ภายใต้การดำเนินการของบริษัท ด้วยการเพิ่มยอดขายให้กับผลิตภัณฑ์ทั้งในระดับพรีเมียมไปจนถึงผลิตภัณฑ์เพื่อผู้บริโภคทั่วไป รวมถึงสร้างการเติบโตในการทำธุรกิจแบบ B2B (business-to-business) เช่น กลุ่มผลิตภัณฑ์ชิ้นส่วนยานยนต์ เป็นต้น

กลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านและเครื่องปรับอากาศ รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสดังกล่าวที่ 8.07 ล้านล้านวอน (หรือประมาณ 2.26 แสนล้านบาท) ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของแอลจีที่กลุ่มผลิตภัณฑ์เพียงกลุ่มเดียวสามารถสร้างผลประกอบการประจำไตรมาสได้มากกว่า 8 ล้านล้านวอน (หรือประมาณ 2.24 แสนล้านบาท) ได้สำเร็จ โดยผลกำไรจากการดำเนินงานอยู่ที่ 432.2 พันล้านวอน (หรือประมาณ 1.21 หมื่นล้านบาท) ทั้งนี้ ผลประกอบการดังกล่าวเพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันในปีที่ผ่านมา 18 เปอร์เซ็นต์ โดยมีปัจจัยขับเคลื่อนที่สำคัญมาจากยอดขายที่แข็งแกร่งของผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านระดับพรีเมียมและจากหมวดหมู่ผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ เช่น ผลิตภัณฑ์ที่ส่งเสริมสุขอนามัยด้วยการใช้เทคโนโลยีไอน้ำ ในภูมิภาคที่สำคัญของอเมริกาเหนือและลาตินอเมริกา โดยกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านและเครื่องปรับอากาศวางแผนที่จะรักษาระดับการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ด้วยการพัฒนาความสามารถในการแข่งขันในกลุ่มผลิตภัณฑ์ระดับพรีเมียม พร้อมเสริมความแข็งแกร่งในกลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อผู้บริโภคทั่วไปมากยิ่งขึ้น

กลุ่มผลิตภัณฑ์โฮมเอ็นเตอร์เทนเมนต์ มีรายได้ที่ 3.46 ล้านล้านวอน (หรือประมาณ 9.69 หมื่นล้านบาท) โดยมีผลขาดทุนจากการดำเนินงาน 18.9 พันล้านวอน (หรือประมาณ 5.29 ร้อยล้านบาท) สะท้อนถึงการลงทุนด้านการตลาดที่เพิ่มขึ้นเพื่อตอบสนองการแข่งขันที่เข้มข้นในตลาด กลยุทธ์ด้านโฮมเอ็นเตอร์เทนเมนต์ของแอลจีจะมุ่งเน้นที่การจัดการงบประมาณการตลาดอย่างมีประสิทธิภาพและมุ่งสร้างการเติบโตของกลุ่มทีวีพรีเมียม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูกาลที่ทำยอดขายได้สูงสุดอย่างช่วง FIFA World Cup และช่วงวันหยุดยาว

กลุ่มผลิตภัณฑ์ชิ้นส่วนยานยนต์ ทำรายได้ประจำไตรมาสสองอยู่ที่ 2.03 ล้านล้านวอน (หรือประมาณ 5.68 หมื่นล้านบาท) เพิ่มขึ้น 19 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ทำให้กลุ่มธุรกิจนี้ทำกำไรได้เป็นครั้งแรก ยอดขายที่สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเป็นผลจากการที่แอลจีตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นจากผู้ผลิตรถยนต์ด้วยการจัดการซัพพลายเชนอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยปัจจัยความไม่แน่นอนที่เกิดจากอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้นประกอบกับความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ บริษัทจะเดินหน้าสร้างความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งกับผู้ผลิตรถยนต์ทั่วโลก พร้อมกับการบริหารจัดการโครงสร้างต้นทุนที่แข็งแกร่งเพื่อทำกำไรให้เพิ่มเติมในอนาคต

กลุ่มธุรกิจโซลูชันสำหรับองค์กร ทำยอดขายที่แข็งแกร่งในไตรมาสที่ผ่านมาอยู่ที่ 1.54 ล้านล้านวอน (หรือประมาณ 4.31 หมื่นล้านบาท) โดยมีกำไรจากการดำเนินงาน 14.3 พันล้านวอน (หรือประมาณ 4 ร้อยล้านบาท) มีรายได้เพิ่มขึ้น 19 เปอร์เซ็นต์จากปีที่ผ่านมา ส่วนใหญ่เป็นผลจากการฟื้นตัวของกลุ่มธุรกิจ B2B ทำให้บริษัทตั้งเป้าดำเนินธุรกิจเชิงรุกเจาะกลุ่มลูกค้าในธุรกิจดังกล่าว โดยการพัฒนาโซลูชันที่ออกแบบมาเพื่อลูกค้ามากขึ้น และเพิ่มตัวเลือกในกลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อการเติบโตที่มั่นคง

กลุ่มธุรกิจที่ยุติลง ผลประกอบการในไตรมาสที่ 2 จากธุรกิจแผงโซลาร์เซลล์ของแอลจี ซึ่งได้ถูกปิดตัวลงเมื่อเดือนมิถุนายนตามที่ประกาศไว้ก่อนหน้านี้ ถือเป็นผลขาดทุนจากการดำเนินธุรกิจที่ถูกยกเลิกไปแล้ว

ข้อมูลเกี่ยวกับอัตราการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศของไตรมาสที่ 2 ปี 2565  

รายได้ที่ยังไม่ได้รับการตรวจสอบด้านบัญชีประจำไตรมาสของ แอลจี อีเลคทรอนิคส์ เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของ IFRS (International Financial Reporting Standards) สำหรับช่วงสามเดือน สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2565 ทั้งนี้ อัตราแลกเปลี่ยนของเงินบาทไทยต่อวอนเกาหลีจะเท่ากับอัตราแลกเปลี่ยนเฉลี่ยของสามเดือนในไตรมาสเดียวกัน โดยอัตราแลกเปลี่ยน ณ 

ไตรมาสที่ 2 ปี 2565 อยู่ที่ 1 บาทต่อ 0.028 วอน (ตามอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราของธนาคารแห่งประเทศไทย)

เกี่ยวกับ แอลจี อีเลคทรอนิคส์

แอลจี อีเลคทรอนิคส์ อิงค์ เป็นผู้สร้างนวัตกรรมระดับโลกทั้งด้านเทคโนโลยีและการผลิตใน 140 แห่ง พร้อมพนักงานมากกว่า 70,000 คนทั่วโลก ในปี 2018 ยอดขายทั่วโลกอยู่ที่ 54.4 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยแอลจีประกอบด้วยกลุ่มธุรกิจห้ากลุ่ม คือ เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านและโซลูชั่นส์เครื่องปรับอากาศ โฮมเอ็นเตอร์เทนเมนต์ โทรศัพท์มือถือ โซลูชั่นส์ผลิตภัณฑ์ชิ้นส่วนยานยนต์ และกลุ่มธุรกิจลูกค้าองค์กร ทั้งนี้ แอลจีถือเป็นผู้ผลิตชั้นนำระดับโลกสำหรับผลิตภัณฑ์ที ตู้เย็น เครื่องปรับอากาศ เครื่องซักผ้า และโทรศัพท์มือถือ รวมถึงกลุ่มผลิตภัณฑ์พรีเมียมอย่าง LG SIGNATURE และ LG ThinQ ที่มาพร้อมกับปัญญาประดิษฐ์หรือ AI สำหรับข้อมูลข่าวสารล่าสุดของแอลจี สามารถเยี่ยมชมได้ที่ www.LGnewsroom.com      

เกี่ยวกับ แอลจี อีเลคทรอนิคส์ ในประเทศไทย    

บริษัทแอลจี อีเลคทรอนิคส์ ประเทศไทย (จำกัด) หนึ่งในผู้นำด้านการผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าและกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านภายใต้แบรนด์ แอลจี โดยมีวิสัยทัศน์ที่จะก้าวขึ้นสู่ความเป็นแบรนด์ชั้นนำของเมืองไทยที่จะเติมเต็มชีวิตของผู้บริโภคชาวไทยด้วยนวัตกรรมระดับโลกโดยในประเทศไทยนั้น ประกอบไปด้วย 3 หน่วยธุรกิจสำคัญ ได้แก่ ธุรกิจผลิตภัณฑ์โฮมเอ็นเตอร์เทนเมนต์ ธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน ธุรกิจเครื่องปรับอากาศและโซลูชั่นด้านพลังงานแอลจีเป็นผู้นำด้านการผลิตทีวีจอแบน อุปกรณ์ภาพและเสียง เครื่องปรับอากาศ เครื่องซักผ้า และตู้เย็นที่มีคุณภาพระดับโลก นอกจากผลิตภัณฑ์ที่มีความโดดเด่นทั้งด้านดีไซน์ เทคโนโลยีและคุณภาพที่วางใจได้แล้ว แอลจียังมุ่งมั่นในการสร้างแบรนด์ผ่านกิจกรรมทางการตลาดในรูปแบบที่น่าสนใจและหลากหลายเพื่อให้สอดคล้องกับสโลแกน “Life’s Good”     

ติดตามข่าวสารเกี่ยวกับแอลจีได้ที่ www.LGnewsroom.com และศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแอลจี ประเทศไทย ได้ที่  www.lg.com/th