SYMC เผยผลประกอบการครึ่งปีแรกของปี 2565 โดยมีรายได้รวม 832.1 ล้านบาทและกำไรสุทธิ 79.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17% และ 64% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลมาจากการขยายตัวเพื่อรองรับการขับเคลื่อนของธุรกิจโทรคมนาคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการบริการเชื่อมต่อด้านข้อมูล เตรียมรับดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชั่นขององค์กร และความต้องการใช้บริการคลาวด์ที่เพิ่มมากขึ้น
นายอเล็กซ์ โลท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท ซิมโฟนี่ คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการโครงข่ายโทรคมนาคมชั้นนำหรือ SYMC กล่าวว่า ธุรกิจโดยรวมของซิมโฟนี่ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องท่ามกลางความผันผวนทางเศรษฐกิจและผลกระทบจากสถานการณ์สงครามรัสเซีย-ยูเครน รวมถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดที่คงยังดำเนินอยู่อย่างต่อเนื่องและค่าครองชีพที่เพิ่มสูงขึ้นจากภาวะเงินเฟ้อ แต่บริษัทฯ ยังคงรักษารายได้เป็นตัวเลขสองหลักและสร้างการเติบโตของรายได้ในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ไว้ได้ ทั้งนี้มาจากรายได้ค่าบริการเชื่อมต่อโครงข่ายที่ขยายตัวเติบโตขึ้นทั้งตลาดในประเทศและตลาดต่างประเทศที่เริ่มกลับกลับเข้าสู่สถานการณ์ปกติและส่งสัญญาณการขยายตัวทางด้านความต้องการบริการเชื่อมต่อข้อมูลที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
โดยในไตรมาสที่สองของปี 2565 บริษัทมีรายได้โดยรวมเพิ่มขึ้น 16.2% และกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 78.5% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการบริหารงานที่มีประสิทธิภาพและการเติบโตอย่างต่อเนื่องทางธุรกิจที่มุ่งเน้นให้บริการลูกค้าเพื่อครอบคลุมในทุกด้าน อาทิ บริการโครงข่ายการเชื่อมต่อทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ บริการอินเทอร์เน็ต บริการคลาวด์ บริการด้าน ICT Solutions และ บริการดาต้าเซ็นเตอร์
“ในช่วงครึ่งหลังของปี 2565 บริษัทได้รับอานิสงค์จากความต้องการที่เพิ่มขึ้นในด้านเทคโนโลยีดิจิทัล พร้อมกับการที่หลายองค์กรในประเทศไทยเร่งนำบริการคลาวด์มาใช้ในการดำเนินธุรกิจ และเพื่อให้สอดคล้องกับนโยบาย Thailand 4.0 ตามแนวทางที่แผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีของรัฐบาลได้กำหนดไว้ เพื่อเข้าสู่ยุคของดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชั่น โดยประเทศไทยนับเป็นประเทศที่มีความน่าสนใจและดึงดูด “ผู้ให้บริการคลาวด์ระดับ Hyperscaler” จำนวนมากมาขยายโครงสร้างพื้นฐานเพื่อให้บริการในภูมิภาคอาเซียนเพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับบริการคลาวด์คอมพิวติ้ง (Cloud Computing) ขณะเดียวกันยังรองรับด้วยการเชื่อมต่อโครงข่ายบริการที่มีความยืดหยุ่นและและเชื่อถือได้ทั้งในประเทศและทั่วโลกด้วยโครงข่ายคุณภาพของซิมโฟนี่ คอมมูนิเคชั่น”
นายอเล็กซ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “บริษัทมีความมั่นใจในการเสริมระบบดิจิทัลในอนาคต เนื่องจากลูกค้าจำนวนมากจะมีการเปลี่ยนแปลงวิถีการทำงาน โดยบริหารจัดการและรวมระบบการทำงานขึ้นไปบนคลาวด์มากขึ้น ซึ่งต้องอาศัยบริการการเชื่อมต่อโครงข่ายที่มีคุณภาพ เพื่อทำให้การดำเนินการด้านดิจิทัลและการทำงานสามารถดำเนินการร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยโครงข่ายบริการของซิมโฟนี่ คอมมูนิเคชั่น ช่วยให้มั่นใจได้ว่าองค์กรต่าง ๆ จะได้รับประโยชน์จากการใช้งานโครงข่ายที่มีความปลอดภัยและมีความหลากหลายในการขับเคลื่อนระบบดิจิทัลได้อย่างราบรื่นไร้รอยต่อทั้งบริการในระดับประเทศและในระดับโลก”
ทั้งนี้ บริษัทยังคงเดินหน้าในการพัฒนาและปรับปรุงโครงข่ายบริการเพื่อสร้างความแข็งแกร่งในด้านการบริการที่มีคุณภาพและมีความยืดหยุ่น รวมถึงหาแนวทางเพื่อต่อยอดธุรกิจในด้านดิจิทัล โซลูชั่นส์อื่น ๆ บริการคลาวด์และบริการด้านการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ (Cybersecurity) กับบรรดาพันธมิตรเพื่อสร้างบริการและประสบการณ์ใหม่ ๆ ทางด้านดิจิทัลให้กับลูกค้าทุกกลุ่มธุรกิจอย่างต่อเนื่อง