18 ส.ค. 2565 489 0

อเมซอน โกลบอล เซลลิ่ง ผลักดัน โครงการใหม่เพื่อเร่งการเติบโตอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดนในปี 2565 และกระตุ้นเศรษฐกิจไทย

อเมซอน โกลบอล เซลลิ่ง ผลักดัน โครงการใหม่เพื่อเร่งการเติบโตอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดนในปี 2565 และกระตุ้นเศรษฐกิจไทย

บริษัทร่วมมือกับรัฐบาลไทย เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งผู้ประกอบการขนาดกลาง ขนาดย่อม และรายย่อยให้ขยายฐานธุรกิจไปทั่วโลก เติบโต และกระตุ้นเศรษฐกิจไทย

อเมซอน โกลบอล เซลลิ่ง (Amazon Global Selling) ทำงานร่วมกับหน่วยงานรัฐบาลไทยอย่างใกล้ชิดเพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการไทยได้รับโอกาสจากอีคอมเมิร์ซระหว่างประเทศมากขึ้น สอดคล้องกับเป้าหมายรัฐบาลที่ต้องการสนับสนุนให้ผู้ประกอบการขนาดกลาง ขนาดย่อม และรายย่อย (MSMEs) ขยายฐานธุรกิจไปทั่วโลก และสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจไทย

ผู้ประกอบการไทยมีโอกาสที่เปิดกว้างอย่างมากจากอีคอมเมิร์ซระหว่างประเทศ ในปี พ.ศ. 2564 ผู้ขายจากประเทศไทยสามารถสร้างรายได้ประมาณ 110,000 ล้านบาทผ่านอีคอมเมิร์ซที่ขายตรงให้ผู้บริโภค และอาจเพิ่มขึ้นเป็น 219,800 ล้านในปีพ.ศ. 2569  บาท หากเป็นไปตามแนวโน้มการเติบโตในปัจจุบัน การวิจัยจาก AlphaBeta ระบุว่า หากผู้ประกอบการ MSMEs ของไทยสามารถเร่งอัตราการส่งออกผ่านอีคอมเมิร์ซได้มากขึ้น รายได้ของผู้ประกอบการที่ขายให้กับผู้บริโภคผ่านอีคอมเมิร์ซอาจเพิ่มเป็น  485,000 ล้านบาทต่อปีภายในปีพ.ศ.2569

ผู้ประกอบการไทยแสดงความสนใจในการยกระดับธุรกิจโดยการขยายตลาดไปทั่วโลก และต้องการการสนับสนุน ทั้งนี้ อเมซอนตอบรับความต้องการนี้โดยการกระชับความร่วมมือในประเทศไทย ตลอดจนปรับปรุงบริการสนับสนุนสำหรับ MSMEs ไทย เมื่อเร็วๆ นี้ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม และอเมซอน โกลบอล เซลลิ่ง ได้ร่วมกันจัดกิจกรรมเต็มวัน เชิญให้ผู้ประกอบการ เจ้าของแบรนด์ และผู้ผลิต ทั้งสิ้นกว่า 210 ราย รวมถึงผู้ชมอีกหลายร้อยท่านผ่านช่องทางออนไลน์ เพื่อสร้างความรู้ และแนะนำแนวทางในการประกอบธุรกิจอีคอมเมิร์ซข้ามประเทศ ตลอดจนแบ่งปันประสบการณ์จากผู้ขายที่ประสบความสำเร็จแล้ว


ดร.ณัฐพล รังสิตพล อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวว่า ตลาดอีคอมเมิร์ซ ถือเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูงและมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยโดยในปีที่ผ่านมา มูลค่าเติบโตขึ้นถึงร้อยละ 75 คิดเป็นมูลค่า 693,000 ล้านบาท ส่วนหนึ่งเพราะพฤติกรรมของผู้บริโภคที่นิยมเลือกใช้ในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 จึงเป็นโอกาสสำหรับผู้ประกอบการในการสร้างรายได้จากช่องทางนี้ ซึ่งนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ได้สั่งการให้ดีพร้อม ส่งเสริมทักษะสำหรับผู้ประกอบการเอสเอ็มอี และวิสาหกิจชุมชนในการเข้าถึงตลาดออนไลน์ตั้งแต่ระลอกแรกของการแพร่ระบาด ซึ่งช่วยให้หลายกิจการมีรายได้เพิ่มขึ้นท่ามกลางสภาวะวิกฤต


เจมี่ เบรนแนน หัวหน้าทีมของ อเมซอน โกลบอล เซลลิ่ง ในประเทศไทย กล่าวว่า อเมซอน โกลบอล เซลลิ่ง จะเดินหน้าสร้างโอกาสใหม่ๆ เพื่อความเข้มแข็งให้กับผู้ประกอบการไทย และสนับสนุนโครงการที่ดีพร้อมกำลังทำอย่างต่อเนื่อง เราต้องการที่จะช่วยให้ผู้ขายชาวไทยเร่งปรับตัวสู่ระบบดิจิทัล และนำเสนอสินค้าและแบรนด์ไทยที่มีเอกลักษณ์สู่ลูกค้าทั่วโลกมากยิ่งขึ้น เราจะร่วมมือมากขึ้นกับรัฐบาลไทยในการขับเคลื่อนอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดนในประเทศไทย


ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมกิจกรรมกับ อเมซอน โกลบอล เซลลิ่ง จะมีสิทธิเข้าร่วมโครงการบ่มเพาะธุรกิจ (Business Accelerator Programs) และหากลงทะเบียนกับอเมซอนโกลบอลเซลลิ่งภายใน 90 วัน จะมีโอกาสเข้าร่วมโครงการ Jumpstart Program ซึ่งออกแบบให้ผู้ขายสร้างยอดขายสูงได้ในปีแรกของการทำธุรกิจกับอเมซอน ทีมงานของอเมซอน โกลบอล เซลลิ่ง ในประเทศไทยทุ่มเทที่จะให้ความช่วยเหลือผู้ขายที่ต้องการสร้างแบรนด์กับอเมซอน ในช่วงแรกของการทำธุรกิจผ่านอีคอมเมิร์ซระหว่างประเทศ นอกจากนั้นผู้ขายไทยรายใหม่จะได้รับสิทธิใช้บริการ Fulfillment by Amazon (FBA) เพื่อจัดส่งและฝากสินค้าไว้ที่คลังสินค้าของอเมซอน เมื่อส่งสินค้าครั้งแรกในมูลค่า 200 ดอลลาร์สหรัฐ


นอกจากนี้ อเมซอน โกลบอล เซลลิ่งได้ร่วมแบ่งปันความคิดเห็นใน มหกรรมอีคอมเมิร์ซแห่งประเทศไทย” ที่จัดโดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ในเดือนกรกฎาคม และ สิงหาคมปีนี้ ทีมงาน อเมซอน โกลบอลเซลลิ่ง ในประเทศไทยหวังว่าการสนับสนุนโครงการเหล่านี้ และโครงการที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตจะได้เป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนรัฐบาลไทยขับเคลื่อนการพัฒนาอุตสาหกรรม และบริการตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี เพื่อสร้างเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนโดยผู้ประกอบการยุคใหม่



กรุณาอ่านที่ https://sell.amazon.co.th/ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม