“บ้าน” สำหรับใครหลายคนอาจมองว่าเป็
เช่นเดียวกับ เอนก แก้วผา หรือ เป็ด อายุ 42 ปี เจ้าของน้ำพริกจิ้งหรีดบ้านฉัน เล่าว่าเขาเป็นคนกรุงเทพฯ โดยกำเนิด อาศัยอยู่ที่ชุมชนบางพลัดในกั
เอนกเริ่มเข้าใกล้ยาเสพติดอี
วังวนยาเสพติด
เมื่อเข้าสู่ช่วงชั้นมัธยมศึ
ชีวิตของเอนกเข้าๆ ออกๆ อยู่ในวังวนยาเสพติดตลอดช่วงชี
“ความรู้สึกในการเข้าเรือนจำครั้
เมื่อครบกำหนด เอนกออกมาตั้งต้นชีวิตใหม่ ขายกุยช่าย ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นแคะ แต่ด้วยกิตติศัพท์อันเลื่องชื่
เข้าออกเรือนจำ 6 ครั้ง
ในช่วงนั้น เขาได้รับการยอมรับในสังคม (นักเลง) อย่างสูง ด้วยวีรกรรมอันเลื่องชื่อทั้
“ตั้งแต่เข้าเรือนจำครั้งที่ 2 ผมก็เข้าๆ ออกๆ ถึง 5 ครั้ง ยังไม่รวมถึงการโดนจับประปรายนั
ทว่าการเข้าเรือนจำครั้งนี้
“ช่วงนั้นผมสิ้นหวังมาก ไม่อยากออกจากเรือนจำเลย เพราะไม่รู้ว่าจะไปอยู่ที่ไหน อย่างน้อยที่เรือนจำยังมีที่กิน มีที่อยู่ที่นอน แต่ออกไปผมไม่เหลืออะไรแล้ว เงิน ทอง ครอบครัว” จนมูลนิธิบ้านพระพร องค์กรไม่แสวงหากำไรเพื่อช่
“กินข้าวหรือยัง” นั่นคือประโยคแรกที่เจ้าหน้าที่
มองอนาคตด้วยการแหงนหน้าขึ้น
ในวันนั้นมูลนิธิบ้านพระพรส่
ระหว่างที่เขาใช้ชีวิตตั้งหลั
เมื่อเจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ เห็นท่าไม่ดีจึงได้เข้ามาแก้
โลกออนไลน์ = โอกาสใหม่
นับจากวันแรกที่เข้ามาสู่มูลนิ
อเนก เล่าเสริมว่า กว่าจะมาถึงวันนี้ไม่ใช่เรื่
แต่ด้วยข้อจำกัดด้านทุนทรัพย์ การเช่าแผงขายในรูปแบบเดิมๆ จึงเป็นเรื่องยาก ทางมูลนิธิฯ จึงแนะนำเขาว่าควรโกออนไลน์ด้
แต่อีกสิ่งหนึ่งที่ท้
วันนี้ น้ำพริกบ้านฉันแม้จะไม่ได้มี
จากการปฏิเสธลูกพี่ในวันนั้น จนถึงวันนี้ ทุกก้าวเดินมีแรงกดดัน ทั้งการพัฒนาศักยภาพตัวเอง ระบบธุรกิจ มูลนิธิส่งเอนกไปเรียนตามที่ต่
“คำว่าโอกาส ได้ทำให้ผมเข้