ภาพยนตร์จาก Netflix เรื่อง Seoul Vibe: ซิ่งทะลุโซล (Seoul
Vibe) พร้อมแล้วที่จะพาเราย้อนไปสู่เกาหลีใต้ในช่วงเวลาที่ผู้คนกำลังวิ่งไล่ตาม
American Dream ในรูปแบบของเกาหลีเอง โดยมี
“ซังกเยดงซูพรีมทีม” แก๊งนักซิ่งวัยรุ่นสุดฮิปแห่งยุคสมัย มาเป็นตัวหลักในการเดินเรื่อง
หลังจากพวกเขาได้รับข้อเสนอที่ไม่อาจปฏิเสธได้จากอัยการอัน
และจับพลัดจับผลูเข้าไปพัวพันกับคดีเงินทุนสกปรกของกลุ่มคนระดับวีไอพี
Seoul Vibe: ซิ่งทะลุโซล (Seoul Vibe) เป็นมากกว่าภาพยนตร์ที่โดดเด่นด้วยงานภาพ
เพราะยังใส่ลูกเล่นเป็นเสียงเพลงที่ติดหูและฉากซิ่งรถสุดเร้าใจ
ดังที่ผู้กำกับมุนฮยอนซองกล่าวว่า “ภาพยนตร์เรื่องนี้เหมือนกับบิบิมบับ”
ที่ผสมผสานหลากหลายองค์ประกอบไว้สำหรับทุกคน
รับรองว่าเราจะได้โยกตามเสียงเพลงในมิกซ์เทปและพุ่งทะยานไปบนถนนพร้อมๆ
กับแก๊งซังกเยดงซูพรีมทีมตั้งแต่ต้นจนจบ ก่อนที่จะได้รับชม Seoul Vibe: ซิ่งทะลุโซล (Seoul Vibe) พร้อมกันทั่วโลก 26 สิงหาคมนี้ ลองไปดู “เพลงประกอบ”
ที่เราเลือกมาบอกเล่าเหตุผลที่ไม่ควรพลาดชมภาพยนตร์เรื่องนี้กันได้เลย
# Track 1: ปี 1988
ช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นที่สุดของเกาหลีใต้ในยุคสมัยใหม่
กรุงโซลในปี 1988
เป็นยุคสมัยแห่งเสรีภาพและการแสดงออก
นอกจากกำลังจะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกแล้ว
เกาหลีใต้ยังอยู่ในช่วงคาบเกี่ยวของการสิ้นสุดรัฐบาลทหาร
และการเริ่มเบ่งบานของดนตรีและแฟชั่น ภาพยนตร์เรื่อง Seoul Vibe: ซิ่งทะลุโซล (Seoul Vibe) เริ่มต้นขึ้นจากผู้กำกับมุนฮยอนซองที่จินตนาการถึงอาชญากรรมครั้งใหญ่อันน่าเหลือเชื่อที่เกิดขึ้นในวันเดียวกับพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก
ในขณะที่ทุกคนต่างวุ่นวายกับหน้าที่ของตนเอง ผู้กำกับมุนฮยอนซองเลือกใช้เพลงฮิปฮอป
โดยที่ไม่ได้เป็นแค่ดนตรีประกอบภาพยนตร์เท่านั้น แต่ฮิปฮอปยังเป็น “วัฒนธรรมย่อย”
ที่ได้รับความนิยมในยุคนั้น และเป็นภาพแทนแห่งยุคสมัยได้อีกด้วย
ตัวละครหลักทั้งห้า
ซึ่งโดดเด่นด้วยบุคลิกที่แตกต่างและเป็นตัวของตัวเอง
จะแสดงให้เห็นทั้งภาพของรถยนต์ที่เคยครองถนนในปี 1988
ดนตรีฮิปฮอปสุดมัน และแฟชั่นเรโทรที่ยังคงดูเท่แม้มองจากสายตาของคนในปัจจุบัน
ตัวละครเหล่านี้ปักหลักอยู่ในถนนซังกเยดง
ย่านที่ตกสำรวจไปจากแผนพัฒนาเมืองในช่วงก่อนการแข่งขันโอลิมปิก
พวกเขาใฝ่ฝันถึงสหรัฐอเมริกา ดินแดนแห่งวัฒนธรรมที่โอบรับเสรีภาพ ความสามารถ
และจิตวิญญาณอันเปี่ยมชีวิตชีวา เราจะได้เห็นทีมเวิร์กที่สมบูรณ์แบบของชาวแก๊ง
ซึ่งมุ่งมั่นปฏิบัติหน้าที่ของตนเองและรวมทีมกันจัดการกับภารกิจที่มีชีวิตเป็นเดิมพัน
# Track 2: เปิดโลก “ฮิปโทร” สีสันแห่งรถยนต์-แฟชั่น-ดนตรี
จุดเริ่มต้นของภาพยนตร์เรื่องนี้คือเพลงฮิปฮอป
ดังที่ผู้กำกับมุนฮยอนซองกล่าวว่า “หัวใจของ Seoul Vibe: ซิ่งทะลุโซล (Seoul Vibe) ก็คือเสียงเพลง”
เขาเผยว่าการได้ศิลปิน ซงมินโฮ (MINO) มาร่วมแสดงในภาพยนตร์
ยิ่งทำให้ความหมายตรงนี้สมบูรณ์แบบขึ้น
และเพลงประกอบที่ซงมินโฮทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ยิ่งสร้างความตื่นเต้นขึ้นไปอีกขั้นหลังได้แง้มให้ได้ฟังกันใน
ตัวอย่างอย่างเป็นทางการ
แม้ทีมผู้สร้างจะเลือกใช้องค์ประกอบย้อนยุคธรรมดาทั่วไป
แต่ Seoul
Vibe: ซิ่งทะลุโซล (Seoul Vibe) ก็มีเอกลักษณ์ที่แตกต่างอย่างชัดเจนจากภาพยนตร์เรื่องอื่นที่มีฉากหลังเป็นยุค
80 ด้วยตัวละครในสไตล์ที่เรียกว่า “ฮิปโทร” (ฮิปฮอป-เรโทร)
กับเครื่องแต่งกายสีสันจัดจ้านในโทนสี RGB ที่ขับเน้นบุคลิกเฉพาะตัวของชาวแก๊งแต่ละคนได้เป็นอย่างดี
และยังทำให้เราได้เห็นแฟชั่นของศิลปินฮิปฮอประดับโลกในยุคนั้น รวมถึงสไตล์อื่นๆ
ที่เคยฮิตติดกระแสในเกาหลียุค 80 อีกด้วย
เนื่องจากภารกิจของแก๊งซังกเยดงซูพรีมทีมต้องมีเอี่ยวกับการแข่งรถในหลายฉากตอน
ยูอาอินซึ่งรับบทเป็น ดงอุค นักดริฟต์รถมือหนึ่ง ต้องไปฝึกทักษะการขับรถเป็นพิเศษ
และต้องเรียนรู้ท่วงท่าที่จะเกิดขึ้นจากการแข่งรถ
เพื่อให้เขาถ่ายทอดฉากแอคชั่นในภาพยนตร์ออกมาได้อย่างสมจริง
รถยนต์วินเทจที่เคยครองถนนกรุงโซลเมื่อปี 1988 จะกลับมาสร้างความตื่นตาตื่นใจในฉากแอคชั่นซิ่งรถสุดมันเหมือนที่เราได้เห็นกันภาพยนตร์ฮอลลีวูดจำนวนมาก
# Track 3: ส่วนผสมที่ลงตัวของชาวแก๊งซังกเยดงซูพรีมทีม!
ภาพยนตร์แอคชั่นเรื่อง
Seoul
Vibe: ซิ่งทะลุโซล (Seoul Vibe) ถ่ายทอดโดยเหล่านักซิ่งและนักแต่งรถสุดเฟี้ยวที่เปี่ยมด้วยความฝันและมีดนตรีในหัวใจ
พวกเขารวมตัวกันภายใต้ชื่อแก๊ง “ซังกเยดงซูพรีมทีม”
· ยูอาอิน รับบทเป็น
ดงอุค มือขับระดับพระกาฬที่เป็นหัวโจกของแก๊ง เขามองว่าตัวละครนี้แปลกใหม่และมีเสน่ห์
จนเขาเองรู้สึก “ได้แรงบันดาลใจอย่างมาก” ที่จะพลิกโฉมตัวเองมารับบทนี้ “ดงอุคเป็นคนที่มีความฝันที่ยิ่งใหญ่
และเป็นเสียงที่พูดแทนวัยรุ่นในยุคนั้นได้เลยครับ”
ในขณะที่ผู้กำกับมุนฮยอนซองกล่าวว่า “ผมนึกภาพดงอุคที่ไม่ใช่ยูอาอินไม่ออกเลยครับ
มันวิเศษมากๆ ที่ได้ร่วมงานกับเขา”
· โกคยองพโย ซึ่งรับบทเป็น
จอห์น อู นักศึกษาบัณฑิตวิทยาลัยที่ผันตัวมาเป็นดีเจประจำแก๊งที่รับหน้าที่เป็นสายลับสอดแนมให้ทีม
ระบุว่าเขารู้สึกยินดีที่ได้มารับบทในภาพยนตร์ที่มีฉากหลังเป็นยุคเดียวกันกับผลงานเรื่องก่อนหน้า
แต่มีเสน่ห์ในแบบที่แตกต่างออกไปโดยสิ้นเชิง “ปี 1988
ใน Seoul Vibe: ซิ่งทะลุโซล (Seoul Vibe) ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นอีกโลกที่แตกต่างจากในเรื่อง วันวาน 1988 (Reply 1988) เลยครับ”
· อีคยูฮยอง รับบทเป็น
บกนัม คนขับรถแท็กซี่ที่เชี่ยวชาญประหนึ่งระบบนำทาง รู้จักทุกซอกทุกมุมของกรุงโซล อีคยูฮยองนับเป็นนักแสดงที่มีผลงานหลากหลาย
ประสบความสำเร็จทั้งในผลงานมิวสิคัล ละครเวที ละครโทรทัศน์ และภาพยนตร์
อีคยูฮยองได้ใส่ทั้งเสน่ห์และอารมณ์ขันอันเป็นเอกลักษณ์ให้กับตัวละครในภาพยนตร์เรื่องนี้อีกด้วย
· พัคจูฮยอน รับบทเป็น
ยุนฮี นักบิดสาวสุดเก่งกาจ
เธอเป็นสมาชิกแก๊งที่โดดเด่นที่สุดด้วยเสน่ห์อันแสนเป็นธรรมชาติ
ทั้งในแง่ของหน้าตาและนิสัย ผู้กำกับมุนฮยอนซองกล่าวว่าเขามั่นใจในตัวเธอ โดยระบุว่า
“บุคลิกของพัคจูฮยอนเข้ากับตัวละครได้ดีมากจนแทบไม่ต้องเพิ่มหรือลดอะไรมากเลยครับ”
· องซองอู
รับบทเป็น จุนกี นักดัดแปลงรถมือดีประจำแก๊ง
องซองอูเริ่มก้าวเข้าสู่การเป็นนักแสดงและสร้างผลงานที่น่าประทับใจออกมาอย่างต่อเนื่อง
เขารู้สึกตื่นเต้นกับบทบาทของตนเองในเรื่องนี้ โดยกล่าวว่า “เป็นโอกาสที่ดีมากเลยครับที่ผมจะได้แสดงพลังและด้านที่สนุกสนานของผมในตัวละครที่ฮิปๆ
และมีมิติแบบนี้” ในฐานะวัยรุ่นคนหนึ่ง องซองอูหลงใหลทั้งเพลงฮิปฮอป
แฟชั่นเรโทร และสเก็ตบอร์ด ด้วยความรู้สึกเหล่านี้เอง
เขาจึงอินไปกับองค์ประกอบรอบๆ ตัว และพัฒนาตัวละครของเขาขึ้นมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ “ผมคิดว่าการสนุกไปกับการแสดงและปล่อยไปตามอารมณ์
จะทำให้จุนกีเป็นตัวละครที่ลึกและมีมิติมากขึ้นครับ” เขากล่าว
ทั้งเสียงเพลง
รถยนต์คลาสสิก ฉากซิ่งรถ และแฟชั่นของ Seoul Vibe: ซิ่งทะลุโซล (Seoul
Vibe)
จะพาเราย้อนกลับไปสู่ยุคของเหล่าวัยรุ่นฮิปสเตอร์เกาหลีในปี 1988 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นที่สุดในประวัติศาสตร์เกาหลีใต้ยุคใหม่
เตรียมออกซิ่งไปกับภาพยนตร์แอคชั่นแนวแข่งรถที่มันระเบิดและมากับสไตล์สุดจ๊าบกับ
Seoul
Vibe: ซิ่งทะลุโซล (Seoul Vibe) พรีเมียร์พร้อมกันทั่วโลก
26 สิงหาคมนี้ที่ Netflix เท่านั้น
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับภาพยนตร์
ชื่อเรื่อง: Seoul Vibe: ซิ่งทะลุโซล (Seoul Vibe)
กำกับโดย:
มุนฮยอนซอง
นำแสดงโดย: ยูอาอิน, โกคยองพโย,
อีคยูฮยอง, พัคจูฮยอน, องซองอู,
โอจองเซ, จองอุงอิน, มุนโซรี
และอื่นๆ
อำนวยการผลิตโดย: ยูฮยองซอก, ควอนโอฮยอน
ผลิตโดย: ANDMARQ STUDIO
ร่วมผลิตโดย: UAA
เผยแพร่โดย: Netflix