โครงการ Seeds for the Future 2022 ระดับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งบริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมกับมูลนิธิอาเซียนและการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เป็นเจ้าภาพ สิ้นสุดลงอย่างเป็นทางการแล้วด้วยพิธีปิดอย่างยิ่งใหญ่ในประเทศไทย โดยมีจุดประสงค์เพื่อตอบโจทย์ด้านการขาดแคลนบุคลากรดิจิทัลในไทยและภูมิภาคอาเซียน รองรับการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลด้วยการแข่งขันและการฝึกอบรมเยาวชนรุ่นใหม่ตามพันธกิจของหัวเว่ย ทั้งนี้ หัวเว่ยจะต่อยอดการแข่งขันสำหรับทีมชนะในประเทศสิงคโปร์และบนเวทีโลก เพื่อผลักดันสตาร์ทอัพหน้าใหม่ในเอเชียให้ประสบความสำเร็จในระดับนานาชาติ
โครงการ Seeds for the Future 2022 ในปีนี้จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ในประเทศไทย และเป็นครั้งแรกในระดับภูมิภาคอาเซียน โดยมีนักศึกษาเข้าร่วมมากกว่า 120 คน จาก 16 ประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และยังมีการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมเป็นเจ้าภาพในโครงการ Seeds for the Future มุ่งส่งมอบประสบการณ์การท่องเที่ยวที่มีความหมายและน่าจดจำ ผ่านโครงการในระดับภูมิภาคให้แก่เยาวชน โดยผู้เข้าร่วมโครงการได้เยี่ยมชมสถานที่สำคัญในจังหวัดกรุงเทพฯ เช่น พระบรมมหาราชวังและวัดพระศรีรัตนศาสดาราม เพื่อสัมผัสถึงเรื่องราว วัฒนธรรมและขนบธรรมเนียมแบบไทยๆ ซึ่งสร้างความประทับใจที่ดีให้กับผู้เข้าร่วมโครงการทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ทั้งนี้ นักศึกษาที่เข้าร่วมโครงการยังได้เยี่ยมชมศูนย์กลางในระดับภูมิภาคขององค์การสหประชาชาติ งานนิทรรศการ Metaverse Expo และออฟฟิศของหัวเว่ยในประเทศไทย อีกทั้งร่วมกิจกรรมแลกเปลี่ยนศิลปะวัฒนธรรมเพื่อเพิ่มความสนิทสนมกันระหว่างนักศึกษาด้วยกัน โดยในปีนี้ นักศึกษาไทยได้นำเสนออาหารท้องถิ่นไทยให้นักศึกษาประเทศอื่นๆ และเข้าร่วมการแข่งขัน Tech4Good เรียนรู้เทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านดิจิทัลพาวเวอร์ 5G คลาวด์และ
รับฟังจากรุ่นพี่ที่เคยเข้าร่วมโครงการในปีก่อน ที่อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ทั้งนี้ โครงการ Seeds for the Future 2022 ได้จัดพิธีปิดโครงการในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ณ โรงแรมแกรนด์ ฟอร์จูน กรุงเทพฯ เมื่อวันเสาร์ที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2565 ที่ผ่านมา คัดทีมผู้ชนะเหลือ 7 ทีม ได้แก่ กัมพูชา เกาหลีใต้ เนปาล บังกลาเทศ สิงคโปร์ และกลุ่มประเทศจากมูลนิธิอาเซียนอีก 2 ทีม โดยในปีนี้เด็กไทยได้คว้ารางวัล The best supporter และทีมที่เข้ารอบจะได้สิทธิ์เดินทางไปเข้าค่าย Accelerator camp และเยี่ยมชมสถานที่สำคัญ ณ ประเทศสิงคโปร์ ในวันที่ 29 สิงหาคมถึง 4 กันยายน พ.ศ. 2565 ซึ่งผู้เข้าร่วมโครงการจะได้พบกับเหล่าผู้บริหารและนักลงทุนชั้นนำ รวมทั้งได้แข่งขันต่อเพื่อคัดเลือกให้เหลือเพียง 1 ทีมสุดท้ายในการแข่งขันบนเวทีโลก ซึ่งจะจัดขึ้นในเดือนมกราคม พ.ศ. 2566
เพื่อตอบโจทย์ความท้าทายด้านการขาดแคลนบุคลากรด้านดิจิทัลในประเทศไทย บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำด้านการส่งมอบเทคโนโลยีไอซีทีและโครงสร้างพื้นฐานในระดับโลก จัดโครงการ Seeds for the Future ในประเทศไทยเมื่อปี พ.ศ. 2551 และมอบทุนการศึกษาประจำปีที่รวบรวมเยาวชนชั้นแนวหน้าด้านไอซีทีจากมหาวิทยาลัยชั้นนำ มาเข้าร่วมค่ายการศึกษา แลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม โดยจุดประสงค์ของโครงการดังกล่าวไม่ได้จำกัดอยู่แค่การค้นหาเยาวชนที่มีศักยภาพเท่านั้น แต่ยังมอบโอกาสในการเรียนรู้เทคโนโลยีอัจฉริยะใหม่ล่าสุด เพื่อให้พวกเขานำไปใช้เสริมสร้างอนาคตด้านดิจิทัลให้แก่ประเทศของตัวเองได้
นส. ปราเกีย มาลลิก นักศึกษาระดับปริญญาตรีชั้นปีที่ 4 คณะวิศวกรรมศาสตร์ไฟฟ้า ด้านการศึกษา มหาวิทยาลัยกาฐมาณฑุ ประเทศเนปาล กล่าวถึง โครงการ Seeds for the Future ในปีนี้ว่า “ตอนที่ได้รับเลือกเป็นตัวแทนจากประเทศเนปาลเพื่อเข้าร่วมโครงการ Seeds for the Future รู้สึกตื่นเต้นจนไม่อาจบรรยายได้ ที่ได้ยืนเคียงข้างเพื่อนร่วมทีมในโครงการระดับนานาชาติ ได้รับความรู้ความเข้าใจจากผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม และได้รับประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิตแบบที่ไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน เราได้ไปเยี่ยมชมสถานที่สำคัญในกรุงเทพฯ รวมถึงออฟฟิศของหัวเว่ย และยังได้เรียนรู้เทคโนโลยี 5G คลาวด์ AI และดิจิทัลพาวเวอร์ นอกจากนี้ เรายังได้เข้าร่วมการแข่งขัน Tech4Good เพื่อหาทางแก้ไขปัญหาด้านสังคมและสิ่งแวดล้อมด้วยการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี หัวเว่ยได้มอบสิ่งต่างๆ ให้ฉันมากมายและยังมอบเป้าหมายให้กับฉันด้วย”
นอกจากนี้ ดัสติน คอนเนอร์ เบอร์รี นักศึกษาชั้นปีที่ 3 คณะวิศวกรรมมัลติมีเดียและเอ็นเตอร์เทนเมนต์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ให้สัมภาษณ์ว่าขอขอบคุณหัวเว่ยที่จัดโครงการ Seeds for the Future 2022 ระดับเอเชียแปซิฟิกในครั้งนี้ เพราะทำให้ได้รับโอกาสในการทำงานร่วมกับเพื่อนจากมหาวิทยาลัยอื่นๆ ได้พบกับเพื่อนใหม่จากหลายๆ ประเทศ และเป็นประสบการณ์ดีที่สุดในชีวิตที่ได้สร้างความชื่นชอบและเป้าหมายใหม่ในชีวิตให้กับเขา
ด้าน ดร.ชวพล จริยาวิโรจน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงโครงการว่า “ปัจจุบันโครงการ Seeds For the Future ได้ขยายไปยัง 150 ประเทศและภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลก ซึ่งมีนักศึกษาเข้าร่วมโครงการกว่า 120,000 คน จากมหาวิทยาลัยมากกว่า 500 สถาบันชั้นนำของประเทศ โครงการดังกล่าวเริ่มดำเนินการในประเทศไทยครั้งแรกในปี พ.ศ.2551 โดยหัวเว่ยสังเกตเห็นแนวโน้มถึงการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยีดิจิทัล เราเชื่อว่าการแบ่งปันองค์ความรู้และข้อมูลใหม่ๆ ให้แก่นักศึกษาจะเป็นหนทางในการอุดช่องโหว่ของการทักษะความรู้ความเข้าใจ เราจึงเปิดตัวโครงการ Seeds for the Future เมื่อ 14 ปีที่แล้ว เพื่อช่วยฝึกอบรมและฝึกฝนทักษะดิจิทัล (Digital Talent) พร้อมเติมเต็มช่องว่างระหว่างภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ ที่จำเป็น เพื่อพัฒนาผู้ที่มีทักษะด้านดิจิทัลและผู้นำรุ่นใหม่ให้สามารถขับเคลื่อนการพัฒนาในภาคอุตสาหกรรมต่างๆ ได้
เขายังกล่าวเสริมว่าโครงการ APAC Seeds for the Future 2022 และแคมเปญ "Tech4Good" เปิดโอกาสให้นักเรียนที่เข้าร่วมได้เรียนรู้ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับ 5G คลาวด์และ AI รวมถึงหลักสูตรทางเลือกที่หลากหลายเพื่อให้เข้าใจเทรนด์ของไอซีทีและแอปพลิเคชันต่างๆ รวมถึงบ่มเพาะทักษะความเป็นผู้นำและการทำงานเป็นทีม ด้วยการฝึกฝน การแข่งขันกันระหว่างกลุ่ม และการพูดคุยกับผู้ที่เคยเข้าร่วมโครงการ ซึ่งบริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) ยังคงสนับสนุนและผลักดันประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางด้านดิจิทัลของอาเซียน ด้วยการช่วยพัฒนาทักษะเพื่อเพิ่มบุคลากรที่มีความสามารถ ส่งเสริมความเข้าใจที่ดีมากขึ้นสำหรับคนรุ่นต่อไปของประเทศไทย รวมทั้งส่งเสริมการมีส่วนร่วมในภาคโทรคมนาคมและชุมชนดิจิทัล
โลกของเรากำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างต่อเนื่อง นวัตกรรมด้านดิจิทัลและเทคโนโลยีกลายเป็นรากฐานสำคัญในการดำเนินชีวิต และยังส่งมอบความสะดวกสบายรวมไปถึงบริการรูปแบบต่างๆ ในช่วงเวลาที่โลกกำลังวิวัฒนาการไปอย่างต่อเนื่องและอนาคตแห่งดิจิทัลกำลังกลายเป็นความจริง ซึ่งปัจจุบันทุกประเทศรวมถึงประเทศไทยต้องเตรียมความพร้อมเยาวชนหน้าใหม่ในการวิวัฒนาการไปพร้อมกันสำหรับยุคใหม่แห่งดิจิทัล หัวเว่ย ในฐานะผู้นำด้านโทรคมนาคม พันธมิตรชั้นนำด้านไอซีที และผู้ขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล มุ่งมั่นที่จะเพิ่มทักษะให้กับคนรุ่นต่อไปในอนาคต และมอบนวัตกรรมผ่านการทำงานร่วมกันกับภาครัฐและพันธมิตรเพื่อทำให้โลกของเราน่าอยู่ยิ่งขึ้น รวมทั้งนำดิจิทัลมาสู่ทุกคน ทุกบ้าน ทุกองค์กร โดยหัวเว่ยจะมุ่งมั่นทำงานร่วมกับพันธมิตรต่างๆ ในประเทศไทยเพื่อเสริมสร้างภารกิจของเราในการ “เติบโตในประเทศไทย มีส่วนร่วมกับประเทศไทย” เพื่อทำให้ประเทศไทยเป็นดิจิทัล สะอาดอย่างยั่งยืนไปด้วยกัน
เกี่ยวกับหัวเว่ย
หัวเว่ย ผู้นำด้านโครงสร้างพื้นฐานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารและสมาร์ทดีไวซ์ ด้วยโซลูชั่นที่ผสมผสานในสี่กลุ่มหลัก คือ เครือข่ายโทรคมนาคม, ไอที, สมาร์ทดีไวซ์ และบริการคลาวด์ บริษัทมีความมุ่งมั่นที่จะนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาสู่การใช้งานทุกระดับเพื่อทุกผู้คน ทุกครัวเรือน และทุกองค์กร เพื่อขับเคลื่อน โลกอัจฉริยะที่เชื่อมโยงถึงกันอย่างเต็มรูปแบบ ผลิตภัณฑ์ โซลูชั่นและบริการที่ครบวงจรของหัวเว่ยเปี่ยมด้วยศักยภาพด้านการแข่งขันและเชื่อถือได้ จากการทำงานร่วมกับพันธมิตรในระบบนิเวศแบบเปิด หัวเว่ยสามารถสร้างมูลค่า ระยะยาวให้กับลูกค้า เสริมสมรรถนะของผู้คน ช่วยให้การใช้ชีวิตที่บ้านมีความสะดวกสบาย และสร้างแรงบันดาลใจให้เกิดนวัตกรรมในองค์กร ทุกรูปแบบและทุกขนาด นวัตกรรมของหัวเว่ยเน้นตอบสนองตามความต้องการของลูกค้า เราทุ่มงบประมาณจำนวนมหาศาลในด้านการวิจัย เน้นค้นหานวัตกรรมด้านเทคนิคใหม่ๆ ที่จะช่วยขับเคลื่อนโลกของเราให้ก้าวไปข้างหน้า เรามีพนักงานกว่า 194,000 คน ดำเนินธุรกิจในกว่า 170 ประเทศทั่วโลก หัวเว่ยก่อตั้งขึ้นในปี 2530 และเป็นบริษัทเอกชนที่มีพนักงานเป็นผู้ถือหุ้นทั้งหมด
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ของหัวเว่ย ได้ที่ www.huawei.com
ติดตามเราได้ที่
http://www.linkedin.com/company/Huawei