ที่งาน VMware Explore 2022 บริษัท วีเอ็มแวร์ จำกัด (VMware, Inc. หรือ NYSE: VMW) เปิดตัวนวัตกรรม บริการ ข้อเสนอใหม่ และขยายความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์เพื่อสานต่อความมุ่งมั่นในการช่วยให้ลูกค้าใช้งานและเติบโตในมัลติคลาวด์ในปัจจุบัน ลูกค้ายังคงพัฒนาและปรับธุรกิจของตนให้เป็นดิจิทัลเพื่อสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ รวดเร็วและให้บริการลูกค้าของตนเองได้ดียิ่งขึ้น VMware และระบบนิเวศของพาร์ทเนอร์ช่วยให้ธุรกิจต่างๆ เลือกระบบคลาวด์ที่เหมาะสมกับแอปได้ดียิ่งขึ้น
รากู รากูราม ซีอีโอของ VMware กล่าวว่า “ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้มาใหม่ที่เกิดและเติบโตในคลาวด์หรือผู้ให้บริการที่เป็นที่ยอมรับ
เป้าหมายสูงสุดสำหรับลูกค้าคือระบบมัลติคลาวด์ที่ช่วยให้พวกเขาเร่งการสร้างนวัตกรรมดิจิทัลได้ดียิ่งขึ้น
– ทั้งหมดขับเคลื่อนโดยรูปแบบการดำเนินงานที่สอดคล้องกันซึ่งขยายไปทั่วทุกคลาวด์ ที่
VMware
Explore เราร่วมกับพาร์ทเนอร์นำเสนอเทคโนโลยีขั้นสูงเพื่อช่วยให้ลูกค้าได้รับประโยชน์ด้วยแนวทาง
Cloud-Smart”
คลิกเพื่อ อ่านบล็อกโพสต์ของ
รากู รากูราม หัวข้อ จาก Cloud Chaos สู่ Cloud Smart
ความสามารถใหม่เหล่านี้สร้างขึ้นจากบริการ VMware Cross-Cloud™
ที่เปิดตัวในงาน VMworld 2021
ปีที่แล้ว ซึ่งได้รับการออกแบบมาเพื่อให้องค์กรมีข้อได้เปรียบเชิงกลยุทธ์
Cloud-Smartเมื่อธุรกิจเพิ่มจำนวนคลาวด์เพื่อบรรลุเป้าหมายทางธุรกิจ พวกเขาเผชิญกับความซับซ้อนในการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้น
โดย VMware Cross-Cloud เป็นบริการแบบ unified service ซึ่งมีแนวทางที่เรียบง่ายในการสร้าง การใช้งาน การเข้าถึง และการรักษาความปลอดภัยแอปพลิเคชันบนคลาวด์ที่ใช้งานบนอุปกรณ์ต่างๆ
- สำหรับทุกแอปแพลตฟอร์ม และรองรับการทำงานจากทุกๆ ที่
เร่งการเปลี่ยนแปลงของคลาวด์ระดับองค์กร Enterprise Cloud
VMware เปิดตัวโซลูชั่นโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์และเอดจ์ ที่ช่วยให้ธุรกิจเร่งการทรานส์ฟอร์มคลาวด์องค์กร และช่วยให้ลูกค้าสามารถรัน ปรับขนาด
และรักษาความปลอดภัยเวิร์กโหลดขององค์กรได้ดียิ่งขึ้นทั้งบนไพรเวทคลาวด์ พับบลิกคลาวด์และที่เอดจ์
โดย VMware และพับบลิกคลาวด์พาร์ทเนอร์ยังช่วยเหลือลูกค้าในการโยกย้ายและรันเวิร์กโหลดเหล่านั้นบนพับบลิกคลาวด์ที่พวกเขาเลือก
นอกจากนี้ VMware ยังเปิดตัวนวัตกรรมด้านเครือข่ายและความปลอดภัย เพื่อช่วยให้ลูกค้าใช้งานคลาวด์อย่างปลอดภัยโซลูชั่นที่เปิดตัวในงานได้แก่:
VMware vSphere 8 คือก้าวใหม่ของการประมวลผลที่รองรับ DPU (Data Processing Units) ควบคู่ไปกับ CPU และ GPU ทำให้มีโครงสร้างพื้นฐานที่ทันสมัยและทุกองค์กรสามารถใช้งานได้ vSphere 8 จะเพิ่มประสิทธิภาพให้กับเวิร์กโหลดของลูกค้า ปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงานและประสิทธิภาพด้านไอที
เร่งนวัตกรรมสำหรับ DevOps และอื่นๆ ด้วยแพลตฟอร์มสตอเรจแห่งอนาคตที่ปรับให้เหมาะสมกับฮาร์ดแวร์สมัยใหม่ที่มีโครงสร้างพื้นฐานแบบไฮเปอร์คอนเวิร์จ
VMware
vSAN 8 นำเสนอประสิทธิภาพที่ล้ำหน้าและคุณภาพสูง
สถาปัตยกรรมการจัดเก็บข้อมูล vSAN Express ใหม่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน
การจัดเก็บข้อมูล การปกป้องข้อมูล และการจัดการ vSAN ที่ทำงานบนอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลรุ่นล่าสุด
- VMware Cloud Foundation+ จะเปิดตัวสถาปัตยกรรมที่เชื่อมต่อกับคลาวด์สำหรับการจัดการและใช้งาน HCI แบบ full
stack ในดาต้าเซ็นเตอร์
- VMware Edge Compute Stack 2 จะช่วยให้ลูกค้าทำงานได้ง่ายและปรับขนาดที่เอดจ์ได้ รวมถึงรองรับขนาดคลัสเตอร์ที่เล็กลงเพื่อเรียกใช้คอนเทนเนอร์อย่างมีประสิทธิภาพบนฮาร์ดแวร์
COTS ที่มีขนาดเล็กลง
- Project Northstar พรีวิวความก้าวหน้าครั้งสำคัญของแพลตฟอร์ม VMware NSX สำหรับเครือข่ายมัลติคลาวด์ ความปลอดภัย และการมองเห็นแบบ end-to-end
- Project Watch แนวทางใหม่ของเครือข่ายมัลติคลาวด์และการรักษาความปลอดภัยที่จะให้การควบคุมนโยบายแอปไปยังแอปขั้นสูงเพื่อช่วยในการประเมินความเสี่ยงและการปฏิบัติตามข้อกำหนดอย่างต่อเนื่อง
ความสามารถในการปรับขยายระบบปฏิบัติการของแพลตฟอร์ม Cloud Native
VMware ยังคงช่วยลูกค้ารักษาความปลอดภัย รัน และจัดการแอปบนคลาวด์ทั้งหมด ความสามารถใหม่ๆ ในพอร์ตโฟลิโอ VMware Tanzu ปลดล็อกประสิทธิภาพการทำงานของนักพัฒนา ส่งมอบการรักษาความปลอดภัยแบบ end-to-end ตั้งแต่เริ่มจนเข้าสู่กระบวนการทำงาน และเปิดใช้งานการทำงานแบบมัลติคลาวด์ที่มีความปลอดภัยมากขึ้นครอบคลุมคลาวด์ทุกขนาด ไม่ว่าองค์กรจะอยู่ที่ใดในเส้นทางของ Kubernetes นอกจากนี้ VMware ยังเปิดตัวพอร์ตโฟลิโอการจัดการมัลติคลาวด์ตัวล่าสุด—VMware Aria—ชุดโซลูชั่นแบบ end-to-end สำหรับการจัดการแอปพลิเคชั่นและโครงสร้างพื้นฐานบนคลาวด์เนทีฟ ข้อเสนอใหม่นี้จะช่วยลูกค้าจัดการต้นทุน ขณะที่สามารถทำงาน กำหนดค่า และส่งมอบไพรเวทคลาวด์และพับบลิกคลาวด์สาธารณะได้อย่างประสิทธิภาพ โซลูชั่นที่เปิดตัวในงาน ได้แก่
- VMware Tanzu สำหรับ Kubernetes Operations—ซึ่งรวมถึง VMware Tanzu Mission Control, VMware Aria
Operations for Apps และ VMware Tanzu
Kubernetes Grid จะทำให้สามารถส่งมอบและจัดการได้ง่ายขึ้น
ขณะที่สร้างความน่าเชื่อถือแก่ Kubernetes
ได้
- ความสามารถใหม่ใน VMware Tanzu
Mission Control จะขยายและเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการ
Kubernetes
แบบมัลติคลาวด์และมัลติคลัสเตอร์
การเปิดตัวในครั้งนี้ยังโชว์พรีวิวไลฟ์ไซเคิลของคลัสเตอร์ Amazon
Elastic Kubernetes Service (EKS) การผสานรวมกับ
VMware
Aria Automation การจัดการไลฟ์ไซเคิลของคลัสเตอร์ได้อย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอผ่าน
GitOps
และสร้างความน่าเชื่อถือแก่แอปพลิเคชันด้วยการสำรองและกู้คืนข้ามคลัสเตอร์ได้
- VMware Aria
Graph
เทคโนโลยีการจัดเก็บข้อมูลแบบกราฟที่จะลดความซับซ้อนของมัลติคลาวด์ รองรับการทำงานทั้งบนคลาวด์
แอปและสไตล์การทำงานของทุกคน
- VMware Aria Hub หรือชื่อเดิมคือ Project Ensemble ซึ่งจะให้มุมมองและการควบคุมแบบรวมศูนย์เพื่อจัดการสภาพแวดล้อมแบบมัลติคลาวด์ทั้งหมด
และใช้ประโยชน์จาก VMware Aria Graph เพื่อกำหนดมาตรฐานทั่วไปหรือ common definition ให้กับแอปพลิเคชัน ทรัพยากร หน้าที่ และบัญชีต่างๆ
เสริมพลังให้กับ Hybrid Workforce
ลูกค้ายังคงต้องการประสบการณ์การทำงานที่ปลอดภัยและราบรื่นไม่ว่าจะอยู่ในหรือนอกออฟฟิศ VMware Anywhere Workspace ได้เพิ่มความสามารถด้าอุปกรณ์ของพนักงานขององค์กร ซึ่งช่วยให้ทีมไอทีทำสิ่งต่างๆ ได้มากขึ้นโดยใช้เวลาน้อยลง การปรับปรุงรวมถึง
- The next
generation of VMware Horizon Cloud that will enable multi-cloud
agility and flexibility
- VMware
Horizon Cloud รุ่นต่อไป จะเพิ่มความสามารถให้ใช้งานมัลติคลาวด์ได้คล่องตัวและยืดหยุ่นมากขึ้น
- ความสามารถในการจัดการอุปกรณ์บนโซลูชัน
Digital
Employee Experience ที่ล้ำกว่า Workspace
ONE UEM โดยโซลูชันจะประกอบด้วย VMware
Horizon และ บริหารจัดการ third-party และอุปกรณ์ยังไม่ได้จัดการ
- ส่วนขยายของ Workspace
ONE Freestyle Orchestrator ไปยังอุปกรณ์โมบายล์ และแอป นอกองค์กรสำหรับการออโตเมชั่นและ
orchestration สำหรับมัลติแพลตฟอร์ม
ติดตามข่าวสารล่าสุดและข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวทางที่
VMware นำเสนอเส้นทางสู่ระบบคลาวด์ที่รวดเร็วและฉลาดยิ่งขึ้นสำหรับธุรกิจดิจิทัล
รวมถึงข่าวประกาศความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ต่างๆ ได้ที่ VMware
Explore 2022
ทั้งนี้ ข้อมูลสัมภาษณ์เพิ่มเติมจาก เอกภาวิน สุขอนันต์ ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท วีเอ็มแวร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวกับ Adslthailand ว่า การใช้งานทางด้านดิจิตอลโดยเฉพาะในย่านอาเซียนสูงกว่าทั่วโลก 49% ซึ่งผู้ให้บริการที่ใช้งานอยู่ไม่มีประสิทธิภาพลูกค้าสามารถที่จะเปลี่ยนผู้ให้บริการได้อย่างทันที เราจึงต้องมีการพัฒนาบริการอย่างต่อเนื่องและเราต้องพร้อมที่จะช่วยเหลือลูกค้าโดยผ่านบริการที่ดีที่สุดแบ่งออกเป็น 3 ประเภทดังต่อไปนี้
1. โครงสร้างพื้นฐานคลาวด์และเอดจ์ ที่ช่วยให้ธุรกิจเร่งการทรานส์ฟอร์มคลาวด์องค์กรและช่วยให้ลูกค้าสามารถรับโครงสร้างพื้นฐานระบบไอทีได้ง่าย ผ่านบริการใหม่ล่าสุดอย่าง VMware vSphere 8 สามารถบริหารจัดการแบบคราวและสามารถช่วยให้นักพัฒนาสามารถปรับปรุงระบบได้อย่างง่ายดายขึ้น
2. Hybrid Workforce ช่วยนักพัฒนาสามารถที่จะแยกข้อมูลส่วนบริษัทและข้อมูลของลูกค้าออกจากกันหากนักพัฒนาต้องทำงานจากที่บ้าน บริการดังกล่าวจะช่วยด้านรักษาความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกได้อย่างรวดเร็ว
3. VMware Explore สามารถช่วยยกระดับ โดยการแยกข้อมูลส่วนบุคคลกับระบบการรักษาความปลอดภัยของผู้พัฒนาผ่าน VMware Aria และ Tanzu ที่จะช่วยให้ผู้พัฒนาสามารถดำเนินการแอพพลิเคชั่นที่ต้องการทุกที่ตลอดเวลา
เป้าหมายสำหรับการให้บริการในประเทศไทยสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการช่วยเหลือลูกค้าให้สามารถทำการเปลี่ยนถ่ายเชื่อมโยงข้อมูลไปสู่ระบบดิจิตอล ได้เร็วและประสบความสำเร็จให้มากที่สุด ที่ผ่านมาเราจะเห็นได้ว่าทางรัฐบาลได้เชื่อมต่อข้อมูลและนโยบายต่างๆผ่านระบบดิจิตอลจึงทำให้ระบบดิจิตอลต้องสามารถรองรับปริมาณข้อมูลของประชาชนชาวไทยเพิ่มมากขึ้น ส่วนกรณีบริษัทเอกชนเราจะเห็นได้ว่าธนาคารได้ใช้ระบบดิจิตอล ในการบริหารจัดการความต้องการของลูกค้าโดยไม่ผ่านพนักงานของทางธนาคารเพื่อทำให้เกิดความสะดวกรวดเร็วของผู้ใช้บริการเราจึงเห็นว่าปริมาณในการรับส่งข้อมูลที่อยู่ในประเทศไทยมีปริมาณสูงสิ่งนี้เราต้องเข้าไปช่วยเหลือลูกค้าให้มากที่สุด
"เราเชื่อว่าด้วยความต้องการของผู้บริโภคที่พร้อมใช้งานบริการดิจิตอลจากภาครัฐและภาคเอกชนมีปริมาณสูงดังนั้นแม้ว่าจะเกิดวิกฤติเศรษฐกิจอย่างไรก็ตามบริการของเราจึงมีความจำเป็นอย่างมากต่อการดำเนินธุรกิจและการให้บริการข้อมูลภาครัฐ"