2 ก.ย. 2565 500 0

LINE จับมือ ก.พ.ร. ร่วมให้ความรู้บุคลากรภาครัฐต่อเนื่อง เสริมความรู้ใหม่ ใช้ดิจิทัลขับเคลื่อนประสิทธิภาพบริการภาครัฐ ยกระดับบริการประชาชนไทย

LINE จับมือ ก.พ.ร. ร่วมให้ความรู้บุคลากรภาครัฐต่อเนื่อง เสริมความรู้ใหม่ ใช้ดิจิทัลขับเคลื่อนประสิทธิภาพบริการภาครัฐ ยกระดับบริการประชาชนไทย

LINE ในฐานะผู้นำแพลตฟอร์มดิจิทัลของไทย ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้จากสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) ภายใต้หัวข้อ ขับเคลื่อนประสิทธิภาพภาครัฐ ยกระดับบริการประชาชน” มุ่งพัฒนาระบบราชการไทย เสริมศักยภาพด้านดิจิทัล ยกระดับบริการภาครัฐ ให้ความสะดวก ตอบโจทย์ความต้องการประชาชนในปัจจุบัน

เมื่อเร็วๆ นี้ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ หรือ ก.พ.ร. ได้จัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เรื่อง 
ขับเคลื่อนประสิทธิภาพภาครัฐ ยกระดับบริการประชาชน” เพื่อให้ความรู้ด้านการนำเทคโนโลยีดิจิทัลไปใช้ แก่บุคลากรจากหลากหลายหน่วยงานภาครัฐ เพื่อยกระดับการให้บริการประชาชน พร้อมแลกเปลี่ยนประสบการณ์จากหน่วยงานรัฐที่ประสบความสำเร็จ รวมถึงผู้เชี่ยวชาญจากแพลตฟอร์มดิจิทัล ซึ่ง LINE ประเทศไทย ได้รับเกียรติให้ร่วมแบ่งปันข้อมูล อัพเดทความรู้และเทคโนโลยีใหม่ๆ ในครั้งนี้ด้วย



ฤทธิชัย วานิชย์หานนท์ หัวหน้าที่ปรึกษาธุรกิจหน่วยงานภาครัฐ รถยนต์ และพลังงาน 
LINE ประเทศไทย กล่าวว่า ที่ผ่านมาหน่วยงานต่างๆ ของภาครัฐมุ่งให้บริการประชาชนอย่างเต็มที่ เราในฐานะประชาชนได้เห็นการพัฒนาอยู่อย่างต่อเนื่อง และเมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงในยุคในดิจิทัล หลายๆ หน่วยงานได้เดินหน้าสู่การใช้เทคโนโลยีมาเสริมในการให้บริการ อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่ภาครัฐต้องคำนึงถึงเมื่อต้องการออกแบบ E-Service เพื่อยกระดับบริการ มี เรื่องสำคัญ คือ (1) การให้บริการที่ Seamless มุ่งเน้นในเรื่องการลดขั้นตอนการทำงาน ให้หลายหน่วยงานของรัฐมีการทำงานร่วมกันมากขึ้น และ (2) การเพิ่ม Touchpoint หรือการมีทางเลือกให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการของภาครัฐได้อย่างหลากหลาย ง่ายและสะดวกมากขึ้น

นอกจากนั้น การที่จะสร้างเครื่องมือบริการที่มีประสิทธิภาพ จะต้องออกแบบให้สอดรับกับสภาพสังคมและพฤติกรรมของประชาชนคนไทย ซึ่งปัจจุบัน สังคมไทยได้กลายเป็นสังคมผู้สูงอายุ ผู้ใช้งานส่วนมากจึงเป็นผู้ที่มีอายุ 
40 ปีขึ้นไป ดังนั้นหน่วยงานภาครัฐต้องเลือกเทคโนโลยีที่คนกลุ่มนี้ใช้เป็นและเข้าถึงง่าย อีกทั้งการกระจุกตัวของประชากรในเมือง ทำให้เกิดปัญหาความล่าช้าเมื่อประชาชนเข้ารับบริการ เทคโนโลยีที่สามารถช่วยบริหารการนัดหมาย เช่น การจองคิว ลงทะเบียนล่วงหน้า จะเป็นเทคโนโลยีที่มีประโยชน์มาก เมื่อมองในด้านของพฤติกรรมการใช้งานอินเตอร์ของคนไทย กว่า 98% เป็นผู้ใช้งานสมาร์ทโฟน มีการใช้งาน Social Media เฉลี่ยมากถึงกว่า ชม.ต่อวัน และผู้ใช้งานมือถือส่วนมาก ใช้งานแบบ Pre-paid จึงมีข้อจำกัดในการดาวน์โหลดดาต้า ซึ่งถือเป็นต้นทุนในการดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นต่างๆ ดังนั้น จะเป็นเรื่องดีที่สุด หากหน่วยงานภาครัฐสามารถรวมบริการไว้บนแอปฯ เดียว โดยไม่ต้องให้ประชาชนดาวน์โหลดแอปฯ ของทุกหน่วยงานภาครัฐแยกกัน



LINE พร้อมตอบโจทย์หน่วยงานภาครัฐ ด้วยจำนวนผู้ใช้งานคนไทยมากกว่า 53 ล้านคน และเครื่องมืออันทรงพลังอย่าง LINE Official Account หรือ LINE OA ที่พร้อมเชื่อมต่อทุกบริการของภาครัฐด้วย LINE API ง่ายต่อการเข้าถึงของผู้ใช้งาน LINE ทุกคน ไม่ต้องดาวโหลดแอปฯ ใหม่เพิ่ม พร้อมให้ภาครัฐสร้างบริการบนโลกออนไลน์ที่สะดวก ง่าย และเป็นที่คุ้นเคยสำหรับผู้ใช้งานคนไทย ซึ่งที่ผ่านมา หลากหลายหน่วยงานภาครัฐได้ใช้งานและประสบความสำเร็จมาแล้ว อาทิ

·       
LINE OA หมอพร้อม ให้บริการครอบคลุมความต้องการใช้งานของคนไทยในเรื่องวัคซีนป้องกันโควิด 19 ตั้งแต่การลงทะเบียน การจองคิว การแจ้งเตือน การทำแบบประเมิน และการออกใบรับรอง และวันนี้กำลังจะยกระดับเป็นศูนย์ข้อมูลสุขภาพ เพิ่มฟีเจอร์การให้บริการที่มากขึ้นให้กับคนไทย ถือเป็นการบริการภาครัฐที่เข้าถึงง่าย สะดวก สร้างความพึงพอใจให้กับประชาชนอย่างมาก ปัจจุบันมีผู้ติดตามและใช้งานถึง 14.5 ล้านคน
·       LINE OA การประปาส่วนภูมิภาค ให้บริการตั้งแต่การแจ้งเตือนพื้นที่หยุดจ่ายน้ำ ตรวจสอบค่าน้ำ ขอบาร์โคดการชำระเงิน และแจ้งปัญหาการใช้บริการ รวมถึงการจองคิวการติดต่อบริการในสำนักงาน ซึ่งบริการเหล่านี้ ตอบโจทย์ประชาชนในจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ ช่วยแก้ปัญหา ลดความแออัดและความล่าช้าในการให้บริการ เนื่องจากมีผู้เข้ามาขอรับบริการจำนวนมาก รวมถึงแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนที่บาร์โคดในหน้าบิลหมดอายุไปแล้ว ให้สามารถขอบาร์โคดชำระเงินผ่าน LINE ได้ จนปัจจุบันมีผู้ติดตามและใช้งานถึง 1.67 ล้านคน

นอกจากนี้ ยังมีหน่วยงานอื่นๆ อาทิ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ 
(กบข.) ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ สำนักงานประกันสังคม ไปรษณีย์ไทย เป็นต้น โดยกลุ่มเหล่านี้ ได้ใช้ LINE OA เป็น Touchpoint ที่ให้ผู้ใช้บริการเข้าถึงบริการยอดนิยม และทำธุรกรรมที่ต้องการได้ทันที โดยไม่จำเป็นต้องดาวน์โหลดแอปฯ ของหน่วยงานเพิ่มเติม ซึ่ง LINE OA ได้กลายเป็นศูนย์ให้บริการครบวงจรหรือ One-Stop Service ของแต่ละหน่วยงานภาครัฐได้เป็นอย่างดี



“LINE มีความพร้อมเป็นอย่างยิ่งที่ได้นำเครื่องมือทรงพลังของเราอย่าง LINE OA มาต่อยอดให้กับบริการภาครัฐ    อย่างไม่มีข้อจำกัด โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยพัฒนาบริการภาครัฐด้วยเทคโนโลยีทันสมัย เพื่อสร้างความพึงพอใจยกระดับบริการภาครัฐไปพร้อมๆ กับคุณภาพชีวิตของคนไทยในยุคดิจิทัลไปพร้อมๆ กัน” ฤทธิชัย วานิชย์หานนท์ หัวหน้าที่ปรึกษาธุรกิจหน่วยงานภาครัฐ รถยนต์และพลังงาน LINE ประเทศไทย กล่าวสรุป

สำหรับหน่วยงานภาครัฐที่ต้องการรับคำปรึกษาเพื่อการใช้งานและพัฒนาบริการภาครัฐบนแพลตฟอร์ม 
LINE สามารถติดต่อได้ที่ dl_th-age@linecorp.com