2 ก.ย. 2565 498 30

ผลสำรวจเผยผู้บริโภคในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มากกว่าครึ่ง ค้นหาสินค้าโดยตรงจากแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ

ผลสำรวจเผยผู้บริโภคในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มากกว่าครึ่ง ค้นหาสินค้าโดยตรงจากแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ
  • ผลสำรวจโดยลาซาด้า พบว่า 57% ของนักช้อปในภูมิภาคค้นหาสินค้าจากแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซโดยตรง ทำให้ช่องทางอีคอมเมิร์ซกลายเป็นหนึ่งในเครื่องมือค้นหาหลักที่ผู้บริโภคนิยมใช้
  • ลาซาด้าเดินหน้าลงทุนด้านเทคโนโลยีและข้อมูลเชิงลึกของผู้บริโภค เพื่อสร้างคุณค่าให้กับแบรนด์ ผู้ขาย และผู้บริโภค สอดคล้องกับเป้าหมายของบริษัทฯ ที่มุ่งเน้นการเติบโตทางธุรกิจในระยะยาว
  • LazMall เป็นแพลตฟอร์มสำคัญที่ลาซาด้าจะลงทุน เพื่อมุ่งเน้นการมีส่วนร่วมของลูกค้าและการรักษาฐานลูกค้า

ลาซาด้าเผยแพร่รายงานผลสำรวจผู้นำทางความคิดด้านการโปรโมทสินค้าผ่านโซลูชันของลาซาด้า (Lazada Sponsored Solutions หรือ LSS) ในหัวข้อ “พลิกโฉมการช้อปปิงในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จากการค้นหาสู่การจัดส่ง” (Transforming Southeast Asia: From Discovery to Delivery) ในงาน LazMall Brands Future Forum (BFF) 2022 ที่จัดขึ้น ณ รีสอร์ทเวิลด์ เซนโตซ่า

งาน LazMall Brands Future Forum (BFF) จัดขึ้นเป็นปีที่ 3 โดยเป็นงานเพื่อกลุ่มธุรกิจที่รวบรวมผู้นำในอุตสาหกรรมและพันธมิตรของลาซาด้าจากทั่วทั้งภูมิภาคมาแลกเปลี่ยนมุมมองและนวัตกรรมที่มีเป้าหมายเพื่อช่วยให้แบรนด์และผู้ขายสร้างการเติบโตทางธุรกิจ และมอบประสบการณ์ค้าปลีกที่แตกต่างในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ภายในงานมีการนำเสนอข้อมูลโดยผู้บริหารลาซาด้า รวมถึงบูธรูปแบบอินเทอร์แอคทีฟที่แสดงเทคโนโลยีเพื่อสร้างประสบการณ์การช้อปปิงของลาซาด้า

มีการคาดการณ์ว่าจำนวนผู้ใช้อีคอมเมิร์ซจะเพิ่มขึ้นเป็น 413 ล้านคนในปี 2568 ทำให้รูปแบบการช้อปปิงมีความหลากหลายมากขึ้น โดยผลสำรวจนี้พบว่า กว่า 57% ของนักช้อปในภูมิภาคค้นหาสินค้าบนแพลตฟอร์ม อีคอมเมิร์ซโดยตรง ต่างจากเดิมที่ผู้ใช้งานมักค้นหาผ่านเสิร์ชเอนจิน นับเป็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญต่อโซลูชันการตลาดของอีคอมเมิร์ซและการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาต่อยอดในธุรกิจต่าง ๆ ที่ต้องปรับตัวได้ตามสถานการณ์และมีความใกล้ชิดกับลูกค้า ท่ามกลางสภาวะอันท้าทายจากอัตราดอกเบี้ยและเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้นทั่วโลก


เจมส์ ตง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ลาซาด้า กรุ๊ป กล่าวระหว่างการเปิดงานว่า “แพลตฟอร์ตอีคอมเมิร์ซอย่างลาซาด้าทำได้เหนือกว่าโซเชียลมีเดียและเสิร์ชเอนจินไปสู่การเป็นช่องทางการค้นพบทางเลือก พฤติกรรมและกรอบความคิดที่เปลี่ยนแปลงไปในช่วงสองปีที่ผ่านมา ได้ผลักดันให้กลุ่มผู้บริโภคคุณภาพสูงที่มองหาผลิตภัณฑ์ของแท้คุณภาพดี และประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยม หันมาใช้งานบนแพลตฟอร์ม LazMall มากขึ้น     ทำให้แบรนด์ต่าง ๆ มีโอกาสนำเสนอแนวคิดและเชื่อมโยงกับผู้บริโภคโดยการใช้เครื่องมือต่าง ๆ ของลาซาด้า เพื่อเร่งการเติบโตในพื้นที่อีคอมเมิร์ซและสร้างการมีส่วนร่วมกับกลุ่มเป้าหมายได้อย่างตรงจุด”


เจมส์ ชาง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายธุรกิจ และบริจิตต์ ดอบรีย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายลูกค้า ลาซาด้า กรุ๊ป ให้ข้อมูลว่า LazMall ยังคงเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มหลักที่ลาซาด้าจะสร้างการเติบโตและลงทุนอย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับประสบการณ์ของลูกค้า สร้างการมีส่วนร่วม และรักษาฐานลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น

เจมส์ ชาง ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า อุตสาหกรรมอีคอมเมิร์ซในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เติบโตขึ้นอย่างมหาศาลระหว่างปี 2561-2564 อันเป็นผลมาจากการที่ผู้ซื้อหันมาช้อปปิงออนไลน์มากขึ้นในช่วงการแพร่ระบาดของ   โควิด-19 แม้ว่าปัจจุบัน ผู้บริโภคเริ่มกลับไปใช้ชีวิตเช่นเดียวกับช่วงก่อนเกิดโรคระบาด ลาซาด้ายังคงเชื่อมั่นว่าผู้ซื้อจะยังคงซื้อสินค้าบนช่องทางออนไลน์อย่างต่อเนื่อง โดยผู้บริโภค 8 ใน 10 คนยังคงช้อปปิงออนไลน์ เนื่องจากความสะดวกสบาย แม้ว่ายอดซื้อสินค้าเฉลี่ยต่อรายจะลดลงเมื่อเทียบกับช่วงสองปีก่อน  LazMall ยังมีจำนวนผู้ซื้อเพิ่มขึ้นกว่าที่คาด และต่อจากนี้ลาซาด้าจะยังคงให้ความสำคัญกับการสร้างการมีส่วนร่วมและรักษาฐานลูกค้ามากกว่าการเน้นเรื่องราคาและโปรโมชันเป็นหลัก


บริจิตต์ ดอบรีย์ เน้นย้ำถึงความสำคัญในการทำความเข้าใจลูกค้าเชิงลึกเพื่อสร้างคุณค่าที่เหนือกว่าให้แก่นักช้อป และเพื่อมอบประสบการณ์การค้าปลีกที่แตกต่างจากร้านค้าออฟไลน์และผู้เล่นอื่น ๆ ในอุตสาหกรรม

ผลสำรวจของลาซาด้าพบว่า การรักษาฐานลูกค้าให้เหนียวแน่นมักมาจากการมีตัวเลือกของประเภทสินค้าที่หลากหลาย ราคาที่ดึงดูด ความสะดวกสบายที่เพิ่มขึ้นและตัวเลือกการใช้งานที่หลากหลาย ตลอดจนประสบการณ์การช้อปปิงที่ออกแบบเฉพาะบุคคล

รายงานด้านการโปรโมทสินค้าผ่านโซลูชันของลาซาด้า (LSS) ยังแสดงให้เห็นว่า การค้นพบสินค้าจากการค้นหาและสินค้าแนะนำช่วยสนับสนุนผู้บริโภคในกระบวนการตัดสินใจซื้อ โดย 94% ของนักช้อปใช้ฟังก์ชันค้นหาเพื่อมองหาสินค้าบนลาซาด้า และ 94% ตัดสินใจซื้อสินค้าที่พวกเขาพบจากฟังก์ชั่นค้นหา นอกจากนี้ 71% ของนักช้อปยังซื้อสินค้าที่แสดงในฟีเจอร์ “สินค้าแนะนำ” ที่ลาซาด้าคัดสรรมาให้ตรงตามความสนใจของผู้ใช้แต่ละคน


โฮเวิร์ด หวัง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายเทคโนโลยี ลาซาด้า กรุ๊ป อธิบายว่า เทคโนโลยีอันล้ำสมัยของลาซาด้า ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากโครงสร้างพื้นฐานระบบคลาวด์ของอาลีบาบา ช่วยทำให้ระบบต่าง ๆ ที่อยู่เบื้องหลังแพลตฟอร์มเกิดขึ้นได้จริง ไม่ว่าจะเป็นการสนับสนุนการมีส่วนร่วมของลูกค้า โปรแกรมที่ช่วยให้ผู้ขายประสบความสำเร็จ และการทำงานร่วมกับพาร์ตเนอร์ นอกจากนี้ ข้อมูลอัจฉริยะของบริษัทยังช่วยให้แบรนด์และผู้ขายสามารถกำหนดกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ และเพิ่มการซื้อได้มากขึ้น โดยลาซาด้ายังนำเทคโนโลยี Augmented Reality (AR) มาใช้ ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของผลลัพธ์ทางธุรกิจและยกระดับประสบการณ์ของนักช้อปที่มีต่อแบรนด์ให้ดียิ่งขึ้น

โฮเวิร์ดยังพูดถึงเทคโนโลยี AR ของลาซาด้า ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ความงามได้แบบเรียลไทม์และได้ผลลัพธ์ที่สมจริง ทำให้แบรนด์ต่าง ๆ สามารถมอบประสบการณ์การช้อปปิงแบบเสมือนจริงที่ปรับแต่งได้ตามความต้องการของลูกค้า และมอบความสมจริงได้อย่างเหนือชั้น ฟีเจอร์ Virtual Try On (VTO) มีฟังก์ชันมากมายที่ช่วยให้ผู้บริโภคสามารถเลือกและลองใช้ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เช่น อายแชโดว์ อายไลเนอร์ รองพื้น และบลัชได้จากทุกที่ ฟีเจอร์ดังกล่าวยังช่วยให้แบรนด์พันธมิตรด้านความงามบน LazMall ประสบความสำเร็จในการขายอย่างมาก ส่งผลให้เกิดการซื้อเพิ่มขึ้นถึง 3.1 เท่า และมูลค่าการสั่งซื้อเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 11%


เพื่อเป็นการฉลองความร่วมมือและการเติบโตของ LazMall ร่วมกับแบรนด์พันธมิตร ภายในงาน ยังมีการประกาศรางวัล BFF 2022 Awards  ซี่งเป็นรางวัลที่มอบให้กับแบรนด์ระดับโลกและแบรนด์ระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้บน LazMall ที่ทำผลงานได้ดีเยี่ยมและโดดเด่นเรื่องนวัตกรรม รางวัลดังกล่าวยังเป็นการสนับสนุนความเป็นเลิศในแวดวงการค้าปลีกออนไลน์ ตลอดจนความคล่องตัว ในการปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจเพื่อตอบสนองต่อสภาพแวดล้อมของธุรกิจการค้าที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างไม่หยุดยั้ง