ยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วส่งผลให้หนุ่มสาวยุคใหม่ต้องก้าวตามให้ทัน เมื่อในแต่ละวันที่เรามีเวลาคนละ 24 ชั่วโมงเท่ากัน การ work อย่างไรให้ Smart กว่าคนอื่นๆ จำเป็นต้องหาตัวช่วยระดับ One-stop device ที่มีไว้ติดตัวแล้วสามารถปิดจบทุกงานและความท้าทายได้ทุกรูปแบบไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม อย่างแท็บเล็ตที่กำลังมาแรงที่สุดตัวหนึ่งในเวลานี้ HUAWEI MatePad Pro 11-inch หน้าจอ OLED 120Hz FullView Display พร้อมประสิทธิภาพสำหรับการทำงานอย่างมืออาชีพเสมือนพีซีระดับโปรเคลื่อนที่ได้ ครบเครื่องยิ่งกว่าด้วยอุปกรณ์เสริมทั้ง HUAWEI M-Pencil 2nd generation และ HUAWEI Smart Magnetic Keyboard ทลายทุกข้อจำกัดของไลฟ์สไตล์การทำงาน ไปติดตามกันต่อได้เลยว่าการใช้แท็บเล็ตเรือธงรุ่นล่าสุดจากหัวเว่ยตัวนี้ให้หมาะกับแต่ละสายงานมีอะไรบ้าง
สายนักธุรกิจ พนักงานออฟฟิศ ต้องทำงานสไตล์ multitask ได้ดั่งใจ
สำหรับคนที่เวลาเป็นสิ่งมีค่าอย่างนักธุรกิจที่คิวรัดตัวและคนวัยทำงานที่ต้องทำงานให้เสร็จทันตามกำหนด สกิลหลักที่จำเป็นต้องมีคือการ Manage ซึ่งจะดีกว่าไหม ถ้ามีดีไวซ์เจ๋งๆ ที่สามารถช่วยประมวลผลหลายโปรแกรมในเวลาเดียวกันก็จะยิ่งทุ่นแรงและเวลาได้มากขึ้น ซึ่งในเรื่องนี้ HUAWEI MatePad Pro 11-inch พร้อมซัพพอร์ตด้วยฟีเจอร์ App Multiplier สามารถเปิดหน้าแอปฯ เพื่อดูข้อมูลประกอบการทำงานได้พร้อมกันแบบสองหน้าต่าง[1] อย่าง WPS Office แอปฯ สารพัดประโยชน์ของงานสายออฟฟิศ ที่ช่วยให้เราจัดการได้อยู่หมัดทั้งเอกสาร ทำพรีเซนเทชัน คำนวณตัวเลขบัญชี และยังมีฟีเจอร์ Multi-Window สำหรับจัดระเบียบหน้าต่างลอยเพื่อการทำงานได้อย่างรวดเร็วเป็นระบบ เก็บซ่อนหน้าต่างลอยได้สูงสุดถึง 10 หน้าต่างและสามารถเปิดใช้งาน 4 แอปพลิเคชันพร้อมกันได้
นอกจากนี้ผู้ใช้งาน HUAWEI MatePad Pro 11-inch ยังสะดวกสบายไปกับการออกแบบเลย์เอาต์บนหน้าจอหลักทั้งการรวบแอปที่ใช้งานบ่อยๆ ไว้บนพื้นที่ที่ง่ายต่อการเรียกใช้ ลากแอปที่กระจัดกระจายมาจัดกลุ่มให้เป็นระเบียบ หรือจะแยกแอปฯ ตามสีไอคอนหรือประเภทการใช้งานก็ไม่ยากจนเหมือนมีเส้นทางลัดในแบบฉบับของตัวเอง ร่วมด้วยแอปฯ ที่ช่วยให้การจดโน็ตระหว่างการประชุมเป็นเรื่องง่ายกว่าที่เคยอย่าง HUAWEI Notes ซึ่งมาพร้อมฟอร์มการบันทึกที่หลากหลาย รวมถึงฟังก์ชัน Annotate ที่แค่เคาะ HUAWEI M-Pencil 2nd Generation 2 ครั้ง แล้วเลือกใช้งานฟังก์ชันดังกล่าวก็ขีดเขียนลงบนสไลด์หรือเอกสารพร้อมให้กดบันทึกเก็บเป็นไฟล์ภาพได้เลย นอกจากนั้นตัวปากกายังความหน่วงที่ต่ำถึง 2 ms (มิลลิวินาที) จึงจดบันทึกหรือขีดเขียนได้อย่างอิสระ รวดเร็ว และไหลลื่น ที่สำคัญ HUAWEI MatePad Pro 11-inch จัดเต็มด้วยระบบปฏิบัติการ HarmonyOS 3.0 อันทรงพลังซึ่งรองรับ HUAWEI Super Device[2] เชื่อมต่อดีไวซ์ให้เป็นหนึ่งเดียวได้อย่างว่องไวและไร้รอยต่อ พร้อมยกระดับการทำงานขึ้นอีกหลายเสต็ปเพื่อให้เราสามารถจบงานกลับบ้านได้ก่อนใคร
สายอาร์ต ต้องมีตัวช่วยสำหรับเสกงานโปรดักชัน ดีไซน์ และสร้างสรรค์ได้แบบมือโปร
สายงานที่ต้องถ่ายทอดความคิดสร้างสรรค์ออกมาเป็นชิ้นงานอยู่เป็นประจำจะได้ประโยชน์เต็มๆ จากหน้าจอ HUAWEI FullView Display แบบ OLED ขนาดใหญ่เต็มตา 11 นิ้ว ของ HUAWEI MatePad Pro 11-inch ที่มีความละเอียด 2560 x 1600 พิกเซล สะท้อนความจัดจ้านและสมจริงขณะแสดงผลได้ถึง 1.07 พันล้านสี คมชัดทุกอณูแม้อยู่ในที่มืด พร้อมด้วยคุณสมบัติความแม่นยำของสี △E <1>
ตอกย้ำคอนเซปต์ PC-Like Pro ด้วยความคล่องตัวในการใช้งาน HUAWEI MatePad Pro 11-inch ถึง 3 โหมด ประกอบด้วย Laptop mode ที่ให้ความรู้สึกเหมือนใช้พีซี Split mode ปรับองศาการมองได้ตามความถนัดด้วยการแยกตัวคีย์บอร์ดออกจากจอ และ Studio mode ช่วยปรับแก้ไขงานได้สะดวกยิ่งขึ้นเมื่อจับคู่กับอุปกรณ์เสริมที่เข้ามายกระดับการทำงานอย่างมืออาชีพทั้ง HUAWEI Smart Magnetic Keyboard กับระยะกดบนแป้น 1.5 มิลลิเมตร พร้อมที่เก็บ HUAWEI M-Pencil 2nd generation ที่ให้มาเป็นแถบแม่เหล็ก พกพาติดตัวได้สะดวกกว่าเดิม ส่วน HUAWEI M-Pencil 2nd generation ก็เพิ่มฟังก์ชันพิเศษ Cross-app colour capture[4] ดูดสีที่ตรงใจบนภาพจากหน้าต่างอื่นที่ต้องการมาใช้เป็นสีอ้างอิงกับงานตัวเองได้สบาย
สายชีพจรลงเท้าไลฟ์สไตล์ on-the-go ต้องจัดการได้ทั้งงานและการประชุมแบบไม่กลัว deadline
สำหรับหลากหลายโมเมนต์ของไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ที่ต้องเดินทางบ่อยๆ และทำงานนอกสถานที่ตลอดเวลาคงต้องอาศัยดีไวซ์ขนาดกะทัดรัด พกพาสะดวก พร้อมฟังก์ชันพิเศษและอุปกรณ์เสริมที่ช่วยให้งานเสร็จไวขึ้น หมดห่วงได้เลยหากมี HUAWEI MatePad Pro 11-inch อยู่ในมือ เพราะแท็บเล็ตรุ่นนี้บางเพียง 5.9 มิลลิเมตร ขณะที่น้ำหนักของรุ่น Wifi อยู่ที่ 449 กรัม[5] นอกจากนี้กล้องหน้าความคมชัด 16MP ยังมีเทคโนโลยี FollowCam ติดตามบุคคลที่อยู่ในกล้องโดยไม่ต้องปรับมุมมองเอง และ AI Noise Cancellation (ANC) ตัดเสียงรบกวนรอบข้างโดยเน้นเพียงเสียงพูดของผู้ใช้ให้ชัดแจ๋วในทุกการประชุม พร้อมแบตเตอรี่อึด 8300 mAh รองรับการทำงานและการประชุมที่ยาวนาน โดยความจุแบตฯ เท่านี้สามารถเล่นวิดีโอ 1080P ได้ต่อเนื่องถึง 11.5 ชั่วโมง[6] เลยทีเดียว และไม่ต้องกลัวว่าชีวิตจะสะดุดเพราะมีระบบชาร์จไว 66W HUAWEI SuperCharge ในรุ่น LTE และ 40W HUAWEI SuperCharge ในรุ่น WIFI[7]
สำหรับคนที่สนใจแท็บเล็ตหน้าจอ OLED 120Hz ประสิทธิภาพการสร้างสรรค์ระดับโปร สามารถเป็นเจ้าของ HUAWEI MatePad Pro 11-inch ได้แล้วทั้งรุ่น WIFI (8 GB+128GB) ราคา 24,990 บาท และรุ่น LTE (8GB+256GB) ราคา 29,990 บาท พร้อมข้อเสนอสุดคุ้มค่าที่หัวเว่ยขยายเวลาโปรโมชันให้แบบยาวๆ หากสั่งซื้อตั้งแต่วันที่ 27 สิงหาคม 2565 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2565 รับฟรี! HUAWEI Smart Magnetic Keyboard, HUAWEI M-pencil 2nd generation และสิทธิประโยชน์มากมายจาก HUAWEI AppGallery อาทิ บริการ HUAWEI Cloud ฟรี 3 เดือน บริการ HUAWEI Music ฟรี 3 เดือน บริการ HUAWEI Video ฟรี 1 เดือน และใช้งาน WPS Office ฟรี 3 เดือน เป็นต้น รวมมูลค่าของสมนาคุณ 12,282 บาท โดยสามารถซื้อได้ที่ร้าน HUAWEI Experience Store และร้านค้าตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการ รวมถึงช่องทางออนไลน์อย่างเว็บไซต์ HUAWEI Store ร้านค้าอย่างเป็นทางการของหัวเว่ยบนแอปพลิเคชัน Shopee, Lazada, JD Central และ Thisshop และแอปพลิเคชัน My HUAWEI
ติดตามอัปเดตข่าวสารล่าสุดก่อนใครได้ทางเฟซบุ๊กแฟนเพจ HUAWEI Mobile TH สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการซื้อสินค้า คอมมิวนิตี้ และบริการ ง่ายๆ ในคลิกเดียว เพียงดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน My HUAWEI ใน AppGallery
#SuperDeviceSuperCreativity #HUAWEISmartOffice
#HUAWEIMatePadPro #CreatedbyMatePad #ประสิทธิภาพการทำงานระดับโปร