9 ก.ย. 2565 1,291 65

ดร.ดนันท์ กับเกมรุกไปรษณีย์ไทย 'แข่งขันด้วยคุณภาพ' ชูความยั่งยืนและความได้เปรียบสูงสุดบนคาบสมุทร 'เรดโอเชียน'

ดร.ดนันท์ กับเกมรุกไปรษณีย์ไทย 'แข่งขันด้วยคุณภาพ' ชูความยั่งยืนและความได้เปรียบสูงสุดบนคาบสมุทร 'เรดโอเชียน'

เกมรุกธุรกิจในตลาดส่งด่วนที่ฟาดฟันกันด้วยกลยุทธ์การแข่งขันราคาที่ดุเดือดที่สุดในรอบทศวรรษ ซึ่งภาคธุรกิจขนส่งเอกชนหลากสีต่างสู้กันหมัดต่อหมัดด้วยการลดอัตราค่าบริการส่งพัสดุต่อชิ้น จากราคามาตรฐานโดยเฉลี่ยเริ่มต้นที่ 35 บาท ทุบราคาลดลงไปกว่า 50% ดิ่งลงไปเหลือเพียง 15 บาท แต่กลยุทธ์ดังกล่าวอาจเป็นอาวุธดาบสองคม ที่สามารถใช้ได้ในช่วงระยะเวลาสั้นๆ เพียงเท่านั้น จึงเป็นที่มาของคำถามว่า “หากร่วมลงแข่งในสนามราคาแล้วจะสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปอย่างยั่งยืนได้หรือไม่…”  มาร่วมหาคำตอบกับซีอีโอมากความสามารถในแวดวงธุรกิจสื่อสารและโลจิสติกส์ พี่บิ๊ก ดร.ดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด กับการสู้ศึกบริการส่งพัสดุด้วยวิสัยทัศน์ที่ยืนหยัดแนวคิดการพัฒนาคุณภาพในหลากมิติ

อ่านเกมรุกธุรกิจส่งด่วนกับระบบนิเวศทางธุรกิจอีคอมเมิร์ซ  

ดร.ดนันท์ อธิบายว่า ธุรกิจโลจิสติกส์ในปัจจุบันนี้มีความเกี่ยวพันกับตลาดอีคอมเมิร์ซเป็นสำคัญ ซึ่งในขณะนี้เรียกได้ว่าเป็นยุคเศรษฐกิจระยะหลังการระบาดใหญ่ของโควิด – 19 ที่กระแสพฤติกรรมของผู้บริโภคในการซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์นั้น อาจไม่ได้เติบโตเห็นเป็นตัวเลขกราฟที่พุ่งสูงเท่ากับช่วงที่มีการแพร่ระบาดในระยะแรก ๆ ที่ผู้คนส่วนใหญ่หลีกเลี่ยงการออกจากบ้าน และนิยมสั่งซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคผ่านทางช่องทางออนไลน์ แตกต่างกับทุกวันนี้ที่ผู้บริโภคในยุคดิจิทัลเองก็เริ่มคิดถึงการใช้ชีวิต นอกบ้าน บวกกับช่วงหลังที่เริ่มมีมาตรการคลายล็อกของภาครัฐบาลเข้ามาส่งเสริมและกระตุ้นเศรษฐกิจการค้ายิ่งทำให้ทิศทางการจับจ่ายใช้สอยนอกบ้านเพิ่มสูงขึ้น โดยกระแสพฤติกรรมดังกล่าวจะตรงกับหลักการทางเศรษฐศาสตร์ที่เรียกว่า “Pent-Up Demand”  หรืออุปสงค์ความต้องการของผู้บริโภคต่อการตัดสินใจซื้อสินค้าหรือบริการที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

จึงไม่แปลกที่ตลาดธุรกิจส่งด่วนหรือธุรกิจเดลิเวอรี รวมถึงภาคขนส่ง-โลจิสติกส์ครบวงจรจะมี  การแย่งชิงส่วนแบ่งชิ้นเค้กกันอย่างหนักหน่วง เนื่องด้วยสัดส่วนของปริมาณชิ้นงานที่ไม่ถล่มทลายมากเท่ากับช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในระลอกแรก และยังได้รับผลกระทบจากอัตราราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้นซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญด้านต้นทุนดำเนินการ ทำให้ภาคการขนส่งตั้งแต่มือสมัครเล่นรายใหม่ ตลอดจนถึงรายใหญ่ ต่างก็เจ็บตัวจากการขาดทุนในสมรภูมิแข่งขัน และยังต้องเผชิญกับสงครามราคาอยู่เช่นนี้อย่างไม่รู้จบ 

จุดยืนของไปรษณีย์ไทย กับกลยุทธ์บนน่านน้ำการตลาดทะเลเดือด

หากกล่าวถึงเกมสมรภูมิราคาที่ใช้กลยุทธ์ในน่านน้ำสีแดง ในแวดวงการแข่งขันของตลาดส่งพัสดุ ไปรษณีย์ไทยยังคงมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจภายใต้ความเป็นรัฐวิสาหกิจที่ใส่ใจและจริงใจต่อประชาชนโดยไม่ได้แสวงหาผลกำไรเป็นปัจจัยหลัก ผ่านการนำเสนอสินค้า - บริการในราคายุติธรรมที่คงไว้ด้วยคุณภาพมาตรฐาน และยังตั้งเป้าที่จะพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง เพราะเราเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าเหนือกว่าเรื่องราคาคือเรื่องคุณภาพบริการที่ลูกค้าควรได้รับการส่งมอบอย่างดีที่สุด เพื่อตอบแทนในความไว้วางใจที่ประชาชนมีให้กับไปรษณีย์ไทย และด้วยความผูกพันขององค์กรที่อยู่เคียงคู่คนไทยมาอย่างยาวนานผ่านการมีบุคลากรเครือข่ายบุรุษไปรษณีย์ที่แข็งแกร่ง เข้าถึงทุกตรอกซอกซอย จึงอาจเรียกได้ว่าเป็นแต้มต่อทางธุรกิจที่เราใช้เป็นทั้งจุดแข็งและโอกาสในการสร้างจุดขายใหม่ ๆ ของแบรนด์อย่างมีเอกลักษณ์ที่ไม่สามารถลอกเลียนแบบได้ง่ายๆ 

ความยั่งยืนของคุณภาพบริการโลจิสติกส์ที่คู่ขนานกับราคา

เพราะสิ่งของทุกรูปแบบไม่สามารถถูกจัดส่งผ่านกระบวนการโลจิสติกส์ในรูปแบบเดียวกันได้ทั้งหมด เราจึงให้ความสำคัญของกระบวนการจัดส่งด้วยกลยุทธ์ Parcel Centric ที่คำนึงถึงห่วงโซ่ธุรกิจตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ซึ่งเป็นหัวใจหลักที่นิยามคำว่า “โลจิสติกส์” สำหรับไปรษณีย์ไทย โดยได้มีการปรับปรุงระบบให้สอดคล้องกับผลิตภัณฑ์ที่ใส่ใจในทุกรายละเอียด ตั้งแต่บรรจุภัณฑ์ กระบวนการคัดแยกสินค้าตลอดจนถึงขั้นตอนนำจ่าย ซึ่งเรียกได้ว่าโจทย์สำคัญที่เป็นภารกิจหลักของเราคือการจัดส่งพัสดุและไปรษณีย์ภัณฑ์ให้ไปถึงตามเวลาที่คาดหมายในสภาพสมบูรณ์ เพื่อสร้างความประทับใจให้ผู้ใช้บริการรู้สึกคุ้มค่า กลับมาใช้ซ้ำ และเกิดเป็นแบรนด์รอยัลตี้ ที่ไม่เพียงแต่ใช้กลยุทธ์ลดราคาแบบผิวเผิน

“สำหรับปี 2565 นี้ ไปรษณีย์ไทย มีเป้าหมายที่จะให้ผู้ประกอบการร้านค้า และประชาชนคนไทยทุกภาคส่วน สามารถเข้าถึงบริการของเราได้อย่างทั่วถึงมากยิ่งขึ้น โดยมีแผนการขยายเครือข่ายสาขาของไปรษณีย์ที่สู่กลุ่มธุรกิจโมเดิร์นเทรด รวมถึงการให้บริการผ่านกลุ่มพันธมิตร ร้านค้าปลีกในรูปแบบของจุดบริการฝากส่งด่วนพิเศษ “EMS Point” เพื่อเพิ่มความครอบคลุมในการอำนวยความสะดวกและตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ และอีกสิ่งหนึ่งที่เรามุ่งเน้นที่จะพัฒนาคุณภาพบริการอย่างต่อเนื่อง คือเรื่องของแพล็ตฟอร์มที่จะเข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกเรื่องการบริหารจัดการหลังบ้านสำหรับกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ ที่ไม่ว่าร้านค้าจะอยู่ในแพลตฟอร์มใด ไปรษณีย์ไทยก็จะเข้าไปเชื่อมต่อระบบหลังบ้านด้วยการให้บริการคลังสินค้า Fulfillment เก็บ แพ็ก ส่ง เก็บเงินปลายทาง”

ดร.ดนันท์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ไปรษณีย์ไทยทำหน้าที่มากกว่าการจัดส่งพัสดุตามคอนเซ็ปต์ “Beyond Logistics” จึงได้เล็งเห็นถึงโอกาสในการก้าวเข้าสู่ธุรกิจค้าปลีก ผ่านการใช้ช่องทางบนเว็บไซต์ Thailandpostmart เข้ามาเชื่อมโยงธุรกิจเดลิเวอรีที่น่าสนใจในอนาคต รวมถึงวางแนวทางในการพัฒนาระบบให้สามารถจัดส่งสินค้าถึงจุดหมายแบบ “Next Day Delivery” อย่างไร้รอยต่อ ให้สามารถครอบคลุมได้ทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ภายใต้แคมเปญโปรโมชัน “ส่งด่วน ราคาเดียวทั่วไทย ส่งได้ทุกวัน” ด้วยอัตราการคำนวณราคามาตรฐานเดียวทุกปลายทางทั่วไทย ไม่บวกเพิ่มค่าขนส่งในพื้นที่ห่างไกล และไม่จำกัดจำนวนชิ้น 

ติดตามข่าวสารไปรษณีย์ไทยเพิ่มเติมได้ที่ 

เว็บไซต์ : www.thailandpost.co.th 

เฟซบุ๊ก : บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด

ทวิตเตอร์ : @Thailand_Post

ไลน์ออฟฟิเชียล : @Thailand Post

COMMENTS