5 ต.ค. 2565 903 53

Xiaomi เปิดตัวสมาร์ทโฟนเรือธง Xiaomi 12T Series ปลดล็อคความคิดสร้างสรรค์ไปอีกขั้น พร้อมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ AIoT รุ่นใหม่

Xiaomi เปิดตัวสมาร์ทโฟนเรือธง Xiaomi 12T Series ปลดล็อคความคิดสร้างสรรค์ไปอีกขั้น พร้อมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ AIoT รุ่นใหม่

เสียวหมี่เปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ล่าสุด Xiaomi 12T Series จัดเต็มด้วยประสิทธิภาพระดับเรือธงที่มาพร้อมกับระบบการถ่ายภาพที่ยอดเยี่ยมเพื่อช่วยคุณปลดล็อคความคิดสร้างสรรค์ไปอีกขั้น พร้อมให้ลูกค้าชาวไทยเป็นเจ้าของแล้ว โดยวางจำหน่าย 2 รุ่น ได้แก่ Xiaomi 12T Pro (รุ่นความจุ 12GB + 256GB) ราคา 25,990 บาท และ Xiaomi 12T (รุ่นความจุ 8GB + 256GB) ราคา 17,990 บาท พิเศษ! สำหรับลูกค้า Xiaomi 12T Series จำนวน 1,500 คนแรก ที่สั่งจองในระหว่างวันที่ 8 – 21 ตุลาคม 2565 รับของสมนาคุณ Xiaomi Watch S1 Active มูลค่า 5,490 บาท ฟรี1! นอกจากนี้ เสียวหมี่ยังเปิดตัวทัพผลิตภัณฑ์ AIoT มากมาย ได้แก่ แท็บเล็ต Redmi Pad, สมาร์ทแบนด์ Xiaomi Smart Band 7 Pro, หูฟัง Redmi Buds 4 Pro, หุ่นยนต์ทำความสะอาด Xiaomi Robot Vacuum X10+, เครื่องทำความสะอาด Xiaomi Truclean W10 Pro Wet Dry Vacuum, กล้อง Mi Dash Cam 2 และ Xiaomi Smart Doorbell 3

สมาร์ทโฟน Xiaomi 12T Series ชูคอนเซ็ปต์ Make moments mega

สมาร์ทโฟนเรือธง Xiaomi 12T Series มาพร้อมกล้องระดับโปรที่มอบประสบการณ์การถ่ายภาพที่ยอดเยี่ยมแก่ผู้ใช้งาน โดย Xiaomi 12T Pro ให้ภาพความคมชัดสูงด้วยระบบภาพระดับโปร 200 ล้านพิกเซลที่ประกอบด้วยฮาร์ดแวร์อันล้ำสมัยและอัลกอริทึม AI ขั้นสูงจากเสียวหมี่ นอกจากนี้ยังช่วยให้คุณสามารถเก็บรายละเอียดภาพได้อย่างดีแม้ในสภาวะแสงน้อย หรือเมื่อถ่ายภาพวัตถุที่เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วโดยไม่สูญเสียการโฟกัส กล้องของ Xiaomi 12T Pro มาพร้อมเซ็นเซอร์ที่ซูมได้ถึง 2 เท่า โดยคุณสมบัตินี้ทำให้ผู้ใช้สามารถใช้ความประโยชน์จากเซ็นเซอร์ขนาดใหญ่ 1/1.22 นิ้ว เพื่อถ่ายภาพบุคคลได้ออกมาอย่างที่ต้องการ และ Xiaomi 12T Pro ยังมาพร้อม Xiaomi ProCut และ Ultra burst ที่จะช่วยให้คุณครอปและสร้างสรรค์เนื้อหาได้อย่างมืออาชีพ ทั้งยังปลดล็อกสกิลความคิดสร้างสรรค์ในถ่ายทำภาพยนตร์ Xiaomi 12T Pro นั้นยังรองรับวิดีโอความละเอียด 8K อีกด้วย สำหรับ Xiaomi 12T นั้น มาพร้อมกล้องสามตัว โดยมีกล้องหลักระดับโปรความละเอียด 108 ล้านพิกเซล กล้องอัลตร้าไวด์ 8 ล้านพิกเซล และกล้องมาโคร 2 ล้านพิกเซล และยังสามารถถ่ายภาพในสภาวะแสงน้อยได้อย่างดี ทำให้ได้ภาพที่สว่างคมชัดแม้ในสภาพแสงที่ท้าทาย

สำหรับด้านประสิทธิภาพการประมวลผลนั้น Xiaomi 12T Pro มาพร้อมโปรเซสเซอร์ Snapdragon® 8+ Gen 1 ด้วยกระบวนการผลิต 4nm TSMC ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของ CPU และ GPU ได้มากถึง 16.7% และ 11% ตามลำดับ เมื่อเทียบกับ Snapdragon 8 Gen 1 และลดการใช้พลังงานของแต่ละตัวลงถึง 33% และ 30%2 นอกจากนี้ยังมีระบบระบายความร้อนที่ประกอบไปด้วยส่วนห้องไอน้ำที่ใหญ่ขึ้นถึง 65% และมีการใช้วัสดุกันความร้อนที่คลอบคลุมตัวอุปกรณ์มากกว่า Xiaomi 11T Pro ถึง 125% Xiaomi 12T Pro จึงมอบประสบการณ์การใช้งานที่ราบรื่นและประสิทธิภาพพลังงานที่ยอดเยี่ยมโดยที่คุณไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องความร้อนสูงเกินอีกต่อไป และสำหรับ Xiaomi 12T นั้น ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 8100-Ultra ซึ่งสร้างขึ้นจากกระบวนการผลิต 5nm TSMC ตัวชิปนั้นได้รับการอัปเกรดด้วยโครงสร้าง GPU ใหม่ทั้งหมด จึงเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิภาพการใช้พลังงานได้ถึง 30% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อน ตลอดจนความเร็วนาฬิกา แคช และการจัดเก็บ ทำให้ผู้ใช้งานได้รับประสบการณ์การใช้งานที่รวดเร็วยิ่งขึ้น2 ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายภาพและวิดีโอ การดูภาพยนตร์ หรือเล่นโซเชียลมีเดีย Xiaomi 12T ก็ให้คุณใช้งานด้วยประสิทธิภาพสูงสุดในทุกๆ ช่วงเวลาของคุณ

ในส่วนของแบตเตอรี่ Xiaomi 12T Series ยกระดับอายุการใช้งานแบตเตอรี่ได้อย่างน่าทึ่ง ทั้ง Xiaomi 12T Pro และ Xiaomi 12T มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5000mAh และมี เทคโนโลยีการชาร์จเร็วแบบ HyperCharge 120W ซึ่งสามารถชาร์จให้เต็ม 100% ได้ภายในเวลาเพียง 19 นาทีเท่านั้น และสามารถใช้งานบนหน้าจอได้สูงสุด 13.5 ชั่วโมง3 นอกจากนี้ Xiaomi AdaptiveCharge จะทำการเรียนรู้กิจวัตรการชาร์จในแต่ละวันของผู้ใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานของแบตเตอรี่ในระยะยาวอีกด้วย

นอกจากนี้ ผู้ใช้ยังสัมผัสกับประสบการณ์การรับชมแบบจุใจเต็มตาไปกับหน้าจอแสดงผลแบบ CrystalRes AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว บน Xiaomi 12T Series ที่มีความละเอียดถึง 1220p และสีมากกว่า 68 พันล้านสี สมาร์ทโฟนทั้งสองรุ่นนั้นได้รับการออกแบบมาอย่างสมบูรณ์แบบเพื่อให้เกิดสมดุลระหว่างความคมชัด เก็บทุกรายละเอียดแห่งสีสัน และประสิทธิภาพการใช้พลังงาน หน้าจอแสดงผลยังได้รับการปรับปรุงด้วยคุณสมบัติอัจฉริยะ เช่น AdaptiveSync ซึ่งสามารถปรับอัตราการรีเฟรชแบบไดนามิกตามเนื้อหาที่รับชม และ Xiaomi 12T Series ยังเต็มไปด้วยการออกแบบระดับพรีเมียมอันเป็นเอกลักษณ์ ด้านหลังโค้งมนช่วยลดรอยนิ้วมือที่พื้นผิวด้านหลัง พร้อมสัมผัสที่กระชับมือทั้งด้านหน้า ด้านหลัง และจากบนลงล่าง นี่คือสุดยอดของการออกแบบเรือธงที่สมบูรณ์แบบ

Xiaomi 12T Series มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Black, Silver และ Blue โดยจะวางจำหน่ายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการในวันที่ 22 ตุลาคม 2565 ที่ Xiaomi Store และร้านตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการทั่วประเทศ รวมถึงช่องทางร้านค้าออนไลน์ทุกแพลตฟอร์ม

Xiaomi 12T Pro รุ่นความจุ 12GB+256GB วางจำหน่ายในราคา 25,990 บาท

Xiaomi 12T รุ่นความจุ 8GB+256GB วางจำหน่ายในราคา 17,990 บาท

พิเศษ! สำหรับลูกค้า 1,500 คนแรกที่สั่งซื้อ Xiaomi 12T Series ล่วงหน้าระหว่างวันที่ 8 - 21 ตุลาคม 2565 รับฟรี! นาฬิกาอัจฉริยะ Xiaomi Watch S1 Active มูลค่า 5,490 บาท1

ผลิตภัณฑ์ AIoT รุ่นใหม่มากมาย ช่วยให้คุณใช้ชีวิตแบบสมาร์ทไลฟ์

Redmi Pad ให้คุณสนุกครบจบในเครื่องเดียว


Redmi Pad มีหน้าจอแสดงผลขนาด 10.61 นิ้ว ซึ่งมีอัตรารีเฟรชสูงถึง 90Hz ทั้งยังมาพร้อมลำโพงสี่ตัวและรองรับ Dolby Atmos® แท็บเล็ต Redmi Pad ขับเคลื่อนด้วยโปรเซสเซอร์ Media Tek Helio G99 และมีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 8000 mAh (typ) ที่มาพร้อมการชาร์จเร็ว 18W และที่ชาร์จในกล่อง 22.5W ทั้งหมดนี้อยู่บนการออกแบบ unibody ระดับเรือธงที่เรียบหรูมีสไตล์

Redmi Pad มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Graphite Gray, Moonlight Silver และ Mint Green โดยวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 5 ตุลาคม 2565 เป็นต้นไป

Redmi Pad รุ่นความจุ 6GB+128GB วางจำหน่ายในราคา 8,499 บาท ที่ Xiaomi Store และร้านตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการทั่วประเทศ รวมถึงช่องทางร้านค้าออนไลน์ทุกแพลตฟอร์ม

Redmi Pad รุ่นความจุ 4GB+128GB วางจำหน่ายในราคา 7,499 บาท บนช่องทางร้านค้าออนไลน์ Shopee, Lazada, JD Central และ Thisshop

Xiaomi Smart Band 7 Pro ยกระดับสไตล์ของคุณ


Xiaomi Smart Band 7 Pro ให้หน้าจอ AMOLED ขนาด 1.64 นิ้วทรงเหลี่ยม โดยมาพร้อมคุณสมบัติต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นโหมดกีฬาให้เลือกมากกว่า 110 โหมด การตรวจสอบการนอนหลับไป ตลอดจนการติดตามบันทึกข้อมูลด้านสุขภาพและการเล่นออกกำลังกาย นอกจากนี้ Xiaomi Smart Band 7 Pro ยังมีระบบการติดตั้ง GNSS ที่จะช่วยระบุตำแหน่งได้เร็วขึ้นและติดตามเส้นทางได้แม่นยำยิ่งขึ้น และอุปกรณ์นี้สามารถกันน้ำได้ถึง 5ATM4 และอายุการใช้งานแบตเตอรี่ยาวนานสูงสุด 12 วัน

Xiaomi Smart Band 7 Pro มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีดำและสีขาว จะวางจำหน่ายในราคา 2,990 บาท ที่ Xiaomi Store และร้านตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการทั่วประเทศ รวมถึงช่องทางร้านค้าออนไลน์ทุกแพลตฟอร์ม

พิเศษ! สำหรับลูกค้าที่ซื้อในระหว่างวันที่ 5-31 ตุลาคม 2565 สามารถซื้อได้ในราคาพิเศษเพียง 2,490 บาทเท่านั้น

Redmi Buds 4 Pro มอบเสียงคุณภาพที่คุณต้องการ


Redmi Buds 4 Pro ได้รับการรับรองคุณภาพเสียง Hi-Res Audio Wireless มอบคุณภาพเสียงระดับพรีเมี่ยม ด้วยระบบ dual driver ขนาด 10 มม. + 6 มม. Redmi Buds 4 Pro ยังมาพร้อมการรองรับระบบการแปลงสัญญาณเสียงแบบ LDAC5 ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้เพลิดเพลินไปกับเสียงไร้สายคุณภาพสูงผ่านบลูทูธได้อย่างเต็มที่ ทั้งยังมอบระบบเสียงอันสมจริงซึ่งสามารถกำหนดตำแหน่งเสียงรอบตัวผู้ใช้และมอบประสบการณ์เสียงที่สมจริงให้แก่ผู้ใช้ได้ดื่มด่ำไปกับเนื้อหาและช่วยยกระดับประสบการณ์การฟังได้ดียิ่งขึ้น

นอกจากนี้ Redmi Buds 4 Pro ยังมีระบบตัดเสียงรบกวน (ANC) แบบไฮบริดแอกทีฟ6 สูงสุด 43dB พร้อมช่วงความถี่กว้าง 30-3000Hz7 ดังนั้นเสียงต่างๆ อาทิ เสียงของการพิมพ์บนแป้นพิมพ์ หรือเสียงแตรรถ จะถูกกำจัดเสียงออกไป ทั้งนี้ผู้ใช้ยังสามารถเลือกระดับการตัดเสียงรบกวน ANC ได้ด้วยตัวเองในสามระดับ (โหมดเบา-Light Mode, โหมดสมดุล-Balanced Mode และโหมดลึก-Deep Mode) หรือเลือกใช้โหมดปรับเองโดยอัตโนมัติ (Adaptive Mode) ซึ่งจะตรวจจับเสียงรบกวนรอบข้างแล้วเลือกระดับการตัดเสียงรบกวนที่เหมาะสมที่สุด Redmi Buds 4 Pro ให้ความสะดวกมากขึ้น โดยถูกออกแบบให้สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ได้พร้อมกัน 2 อุปกรณ์ (dual-device connectivity) ทำให้ผู้ใช้สามารถใช้งานสลับไปมาระหว่างอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อทั้งสองเครื่องได้อย่างง่ายดาย การชาร์จครั้งเดียวของ Redmi Buds 4 Pro รองรับการใช้งานต่อเนื่องได้ยาวนานสูงสุดถึง 9 ชั่วโมง และเมื่อจับคู่กับเคสชาร์จจะสามารถใช้งานได้ยาวถึง 36 ชั่วโมง8

Redmi Buds 4 Pro มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Moon white และ Midnight Black วางจำหน่ายในราคา 2,290 บาท ตั้งแต่วันที่ 5 ตุลาคม 2565 ที่ Xiaomi Store และร้านตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการทั่วประเทศ รวมถึงช่องทางร้านค้าออนไลน์ทุกแพลตฟอร์ม

Xiaomi Robot Vacuum X10+ ที่สุดของการทำความสะอาดด้วยระบบอัตโนมัติที่เหนือชั้น


Xiaomi Robot Vacuum X10+ หุ่นยนต์ดูดฝุ่นรุ่นล่าสุดของเสียวหมี่ได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยให้การทำความสะอาดเป็นเรื่องง่ายยิ่งขึ้น เมื่อจับคู่กับสเตชั่น (ฐานที่ตั้ง) อุปกรณ์สามารถเทขยะลงในถังขยะของตัวอง ทำความสะอาดแผ่นซับ เติมน้ำในถัง เก็บผ้าถูพื้นให้ชื้น และแห้งเองเพื่อหลีกเลี่ยงการกักเก็บความชื้นและกลิ่นเมื่อไม่ได้ใช้งานเครื่อง คือระบบอัตโนมัติอย่างแท้จริง ทำให้ทุกครัวเรือนได้รับประสบการณ์การทำความสะอาดที่ราบรื่น อุปกรณ์นี้สามารถทำความสะอาดพื้นผิวได้ทุกประเภท ไม้ถูพื้นสามารถยกตัวเองขึ้นได้เมื่อเซ็นเซอร์อัลตราโซนิกในตัวตรวจจับพรมโดยอัตโนมัติ ขณะเดียวกันก็สามารถดูดฝุ่นอย่างทั่วถึงได้ด้วยพลังดูด 4,000Pa9 แผ่นถูพื้นแบบหมุนคู่สามารถทำการถูด้วยแรงดันเพื่อขจัดคราบสกปรกฝังแน่นบนพื้น Xiaomi Robot Vacuum X10+ นั้นขับเคลื่อนด้วยระบบ S-Cross AITM ทำให้ตัวอุปกรณ์สามารถหลีกเลี่ยงวัตถุบนเส้นทางการทำความสะอาดและปรับการถูพื้นได้อย่างสมบูรณ์แบบ นอกจากนี้ตัวอุปกรณ์ยังมาพร้อมกับเลเซอร์แบบ dual-line และกล้อง RGB สำหรับการตรวจจับเป้าหมาย เมื่อใช้ร่วมกับระบบนำทาง LDS เครื่องจะวางแผนเส้นทางการทำความสะอาดอย่างมีประสิทธิภาพ

Xiaomi Robot Vacuum X10+ สีขาว วางจำหน่ายในราคา 25,990 บาท ตั้งแต่วันที่ 5 ตุลาคม 2565 ที่ Xiaomi Store และร้านตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการทั่วประเทศ

Xiaomi Truclean W10 Pro Wet Dry Vacuum สะอาดหมดจดเพียงครั้งเดียว


Xiaomi Truclean W10 Wet Dry Vacuum Series เป็นผลิตภัณฑ์เครื่องดูดฝุ่นแบบเปียกและแห้งเครื่องแรกของเสียวหมี่ โดยสามารถทำความสะอาดยกกำลังสาม ไม่ว่าจะเป็นการดูดฝุ่น ถูพื้น และขัดถู ตัวอุปกรณ์ขับเคลื่อนด้วยระบบตรวจจับสิ่งสกปรกอัจฉริยะ มาพร้อมฟังก์ชันการปรับอัตโนมัติที่ช่วยให้อุปกรณ์ปรับกำลังการทำความสะอาดตามปริมาณสิ่งสกปรกที่สัมผัสได้ ไม่ว่าจะเป็นขยะ ของเหลวหรือขนสัตว์เลี้ยงก็สามารถหายไปได้ด้วยการคลิกเพียงครั้งเดียว Xiaomi Truclean W10 Pro Wet Dry Vacuum มีหัวทำความสะอาดหลากหลายแบบที่สามารถทำความสะอาดซอกมุมต่างๆ ที่เข้าถึงยากได้อีกด้วย และด้วยแปรงลูกกลิ้งที่ไม่พันกันที่ออกแบบมาเป็นพิเศษที่สามารถครอบคลุมพื้นที่ขนาดใหญ่และมีที่จับที่ปรับได้ถึง 90 องศา ซึ่งช่วยให้ทำความสะอาดใต้เฟอร์นิเจอร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด

Xiaomi Truclean W10 Pro Wet Dry Vacuum สีขาว วางจำหน่ายในราคา 15,990 บาท ตั้งแต่วันที่ 5 ตุลาคม 2565 ที่ Xiaomi Store และร้านตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการทั่วประเทศ

MI Dash Cam 2 กล้องติดหน้ารถให้ความคมชัดระดับอัลตร้า


กล้องติดหน้ารถ MI Dash Cam 2 มาพร้อมคมชัดระดับอัลตร้า 2K สามารถเก็บภาพมุมกว้างได้ถึง 140° พร้อมเซ็นเซอร์ OV OS05A10 F1.8 อันยอดเยี่ยม และยังเพิ่มประสิทธิภาพการเข้ารหัส H.265 ได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย ทำให้คุณภาพของภาพและพื้นที่จัดเก็บนั้นดียิ่งขึ้นไปอีก นอกจากนี้ตัวกล้องยังมาพร้อมกับการลดเสียงรบกวนแบบดิจิตอล 3D สามารถบันทึกกลางคืนได้ดีเยี่ยม และยังมาพร้อมโหมดการตรวจสอบการจอดรถให้คุณคลายกังวลเรื่องรถรอบข้างได้อีกด้วย กล้องติดหน้ารถ MI Dash Cam 2 ใช้หน้าจอ IPS ขนาด 3 นิ้ว มาพร้อมขาตั้งในตัวและเลนส์ที่หมุนได้

กล้องติดหน้ารถ MI Dash Cam 2 สีดำ วางจำหน่ายในราคา 2,990 บาท ตั้งแต่วันที่ 5 ตุลาคม 2565 ที่ Xiaomi Store และร้านตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการทั่วประเทศ

Xiaomi Smart Doorbell 3 เฝ้าประตูให้คุณอุ่นใจได้ทุกเวลา


Xiaomi Smart Doorbell 3 มาพร้อมความคมชัดระดับ 2K ให้คุณสามารถบันทึกทุกความเคลื่อนไหวหน้าประตูได้อย่างชัดเจน แม้ในยามกลางคืนเนื่องจากตัวอุปกรณ์มาพร้อมไฟอินฟาเรดกำลังสูง 940nm ถึง 4 ตัว จึงสามารถบันทึกภาพได้ชัดเจนในสภาวะแสงน้อยหรือไม่มีแสงเลย นอกจากนี้ตัวกล้องยังมาพร้อมประสิทธิภาพการมองเห็นแบบอัลตร้าไวด์แนวทะแยงได้ถึง 180° และแนวตั้งถึง 107° Xiaomi Smart Doorbell 3 นั้นสามารถตรวจจับการเคลื่อนไหว AI ขั้นสูง โดยมีเทคโนโลยีการจดจำรูปร่างมนุษย์ด้วยเทคโนโลยี AI และสามารถตรวจจับการเคลื่อนไหวที่ผิดปกติและจะทำการส่งการแจ้งเตือนไปยังสมาร์ทโฟนของคุณเมื่อเกิดสิ่งผิดปกติ ทั้งยังตรวจจับภาพแบบเรียลไทม์ได้อีกด้วย โดยผู้ใช้งานสามารถมองเห็นและใช้งานผ่านมือถือได้ทุกที่ทุกเวลา นอกจากนี้ยังมาพร้อม Smart Voice Change Intercom ที่สามารถสื่อสารได้สองทาง โดยคุณสามารถเปลี่ยนเสียงอัจฉริยะได้เมื่อคุณต้องการเปลี่ยนเสียงเพื่อความปลอดภัยเมื่ออยู่บ้านคนเดียว

Xiaomi Smart Doorbell 3 สีดำ วางจำหน่ายในราคา 2,990 บาท ตั้งแต่วันที่ 5 ตุลาคม 2565 ที่ Xiaomi Store และร้านตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการทั่วประเทศ

หมายเหตุ*

1 ของสมนาคุณมีจำนวนจำกัด และเงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯกำหนด

2ข้อมูลจากห้องปฏิบัติการเสียวหมี่

3 ข้อมูลจากห้องปฏิบัติการเสียวหมี่ ทดสอบความเร็วในการชาร์จในโหมดบูสต์ อายุการใช้งานแบตเตอรี่จริงอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมของเครือข่าย รูปแบบการใช้งาน และปัจจัยอื่นๆ ความจุสูงสุดของแบตเตอรี่จะลดลงตามเวลาและการใช้งานตามธรรมชาติ

4อัตราการการกันน้ำ 5 ATM ยึดตามมาตรฐาน ISO 22810:2010w

5 หากต้องการสัมผัสประสบการณ์ LDAC ที่ 990kbps โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้เปิดใช้งาน LDAC บนสมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการ AndroidTM ที่รองรับด้วยการเลือกบิตเรตที่ถูกต้องและเลือกการปิดเสียง การใช้ตัวแปลงสัญญาณเสียง

6 การตั้งค่า ANC และโหมดฟังเสียงภายนอกมีเฉพาะในแอปฯ Xiaomi Earbuds เท่านั้น

7 ข้อมูลการทดสอบระดับการตัดเสียงรบกวนจัดทำโดยสถาบันมาตรวิทยาแห่งชาติของประเทศจีน (National Institute of Metrology, China)

8 อายุการใช้งานแบตเตอรี่จริงอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมของเครือข่าย รูปแบบการใช้งาน และปัจจัยอื่นๆ ความจุสูงสุดของแบตเตอรี่จะลดลงตามเวลาและการใช้งาน

9 ข้อมูลนั้นมาจากการทดสอบภายในที่ดำเนินการโดยผู้ผลิต สามารถขอรายงานการทดสอบฉบับสมบูรณ์ได้หากมีการร้องขอ