กรณีศึกษา J-ALERT (National Instant Warning System) ของประเทศญี่ปุ่นสามารถส่งสัญญาณได้อย่างมีประสิทธิภาพล่าสุดกรณีที่ประเทศเกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธแบบทิ้งตัวข้ามน่านฟ้าของประเทศญี่ปุ่น ระบบดังกล่าวได้เตือนภัยในพื้นที่ที่เป็นทางผ่านของขีปนาวุธจำนวนถึง 5 ล้านคน ทั้งระบบ Smart Phone ระบบโทรทัศน์และระบบวิทยุป้องกันภัยพิบัติ
สื่อมวลชนท้องถิ่นได้ออกประกาศแจ้งเตือนภัยพิบัติผ่านสถานีโทรทัศน์แม่ข่ายอย่างสถานีโทรทัศน์สาธารณะของประเทศญี่ปุ่น ( NHK World ) ซึ่งรายงานสถานการณ์ทันทีและออกประกาศแจ้งเตือนฉุกเฉินอย่างตึงเครียดเป็นระยะเวลานานกว่า 20 นาทีก่อนที่จะประกาศว่าขีปนาวุธดังกล่าวตกลงสู่มหาสมุทรแปซิฟิก ผ่านทางระบบโทรทัศน์ทั้งระบบภาคพื้นดิน ผ่านดาวเทียม และระบบวิทยุป้องกันภัยพิบัติ
นอกจากนี้ผู้คนที่อยู่ในสถานที่ต่างๆ รายงานผ่าน Social Network ถึงข้อความด่วนโดยเฉพาะข้อความที่เขียนว่า "รัฐบาลญี่ปุ่น เตือน ขีปนาวุธอาจบินเข้าหาญี่ปุ่น" หรือข้อความที่ระบุว่า "ขอความร่วมมืออยู่ในบ้านและที่หลบภัย" ในขณะเดียวกันพื้นที่บริเวณขนส่งมวลชนทั้งรถไฟฟ้า จราจรทางน้ำ และรวมไปถึงรถยนต์ที่อยู่บนท้องถนนต่างหยุดเคลื่อนที่จนกว่าสถานการณ์จะอยู่ในสภาวะปกติท่ามกลางเสียงไซเรนที่ดังทั่วเมือง
NHK ได้รายงานระบุว่า สถานการณ์ในการให้บริการโทรคมนาคมภายในประเทศ ในสถานการณ์ฉุกเฉินต่างเตรียมพร้อมเข้าสู่แผน J-ALERT (National Instant Warning System) ถือเป็นระบบการส่งข้อมูลภัยพิบัติและการคุ้มครองภัยฉับพลัน โดยจะส่งข้อมูลภายในไม่กี่วินาทีหลังจากการแจ้งเตือนภัยเข้าไปสู่ในระบบ ผู้ใช้งานจะต้องทำการลงทะเบียนเพื่อรับข้อมูลทั้งหมายเลขโทรศัพท์และอีเมล์ ในการรับส่งข้อมูลที่ถูกต้อง สำหรับระบบบริการทั่วไปทางกรมดับเพลิงจะดำเนินการส่งข้อมูลผ่านดาวเทียม SuperBird B2 หรือ ระบบอินเทอร์เน็ต LGWAN เพื่อให้ข้อมูลดังกล่าวไปอยู่ในพื้นที่สาธารณะให้ดีและรวดเร็วที่สุดในระดับท้องถิ่น ทั้งสื่อโทรทัศน์และวิทยุรวมไปถึงพื้นที่สาธารณะที่มีการติดตั้งระบบ Smart City เอาไว้
นอกจากนี้หากผู้ใช้งานไม่ได้ลงทะเบียนหมายเลขโทรศัพท์และอีเมล์ที่ถูกต้อง บริษัทเอกชนภายนอกระบบ J-ALERT ยังสามารถส่งข้อความเพื่อประกาศแจ้งเตือนผ่านหน้าจอสมาร์ทโฟนทั้งในระบบ iOS และ Android โดยมีวิธีการดังต่อไปนี้
นอกจากนี้ระบบการเตือนภัยจากหน่วยงานภายนอกก็ประสานงานกับข้อมูลภายในประเทศอีกด้วย
สำหรับการแจ้งเตือนไปในระบบ Android สามารถดำเนินการได้ดังนี้
"Settings" → "Security" → "Emergency Mail"
การแจ้งเตือนภายในระบบ iOS สามารถดำเนินการได้ดังนี้
"Settings" → "Notifications" → "Emergency Bulletin" หรือต้องการให้มีเสียงเตือน "Always sound the alert sound" ผู้ใช้งานจะต้องอัพเดทระบบ iOS อย่างน้อยขั้นต่ำ 15.4
นอกจากนี้ระบบ J-Alert ยังได้ส่งสัญญาณไปยังอุปกรณ์ท้องถิ่นช่วยในการอำนวยความสะดวกในการอพยพฉุกเฉินด้วยระบบดังกล่าวเป็นระบบที่รัฐบาลส่งสัญญาณผ่านดาวเทียมมายังรัฐบาลท้องถิ่น โดยใช้ระบบวิทยุในการบริหารการจัดการภัยพิบัติและเปิดการใช้งานที่สามารถออกอากาศได้อย่างทันที เช่นบริเวณจอ LED ที่อยู่บริเวณถนนทางหลวง และรวมถึงป้ายโฆษณาต่างๆที่เชื่อมสัญญาณกับทางรัฐบาล
โดยระบบสามารถที่จะบอกถึงสถานที่หลบภัยที่ใกล้ที่สุด ไปยังอาคารที่มีความแข็งแรงหรือบริเวณชั้นใต้ดิน นอกจากนี้ทางระบบได้เผยแพร่รายชื่อบุคคลที่ได้ลงทะเบียนท้องถิ่นเอาไว้เพื่อให้เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบเป็นรายบุคคลและส่งสัญญาณมายังระบบส่วนกลาง
นอกจากนี้รัฐวิสหกิจด้านการสื่อสาร KDDI ได้ป้องกันภัยโดยโรมมิ่งสัญญาณกับผู้ให้บริการรายอื่นหากเกิดกรณีโครงข่ายการสื่อสารล้มหรือต้องปิดซ่อมแซมระบบ เพื่อให้ผู้ใช้งานยังสามารถใช้งานได้อย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะการโทรออกไปยังหน่วยงานฉุกเฉินทั้งหมด โดยเรียกวิธีการที่เรียกว่า LBO (Local Break Out) โดยใช้รูปแบบการโรมมิ่งระหว่างประเทศในลักษณะ VoLTE เรียกว่า S8HR (S8 Home Routed) วิธีการนี้จะสามารถดำเนินการได้ก็ต่อเมื่อผู้ให้บริการโทรคมนาคม 4 รายหลักในประเทศที่ถือใบอนุญาต MNO มีโครงข่ายเป็นของตัวเองมาร่วมมือกันในอนาคตเพื่อเพิ่มเติมให้เกิดความมั่นคงทางด้านโทรคมนาคมแห่งชาติ
ข้อมูล nhk itmedia itmedia soumu oppo-lab oppo-lab mapion japannews.yomiuri newsdig.tbs cnet asahi dime sskworld 新潟ニュース NST 日テレNEWS reuters asahi newsdig.tbs news.goo newsdig.tbs itmedia fdma kantei