25 พ.ย. 2565 415 0

สตาร์ มันนี่ จัดโรดโชว์ จ่อขาย IPO 300 ล้านหุ้น จ่อเข้า SET ปีนี้ ระดมทุนขยายธุรกิจติดปีกโต

สตาร์ มันนี่ จัดโรดโชว์ จ่อขาย IPO 300 ล้านหุ้น จ่อเข้า SET ปีนี้ ระดมทุนขยายธุรกิจติดปีกโต

“บมจ.สตาร์ มันนี่ หรือ SM”  น้องใหม่ IPO เดินหน้าโรดโชว์ สร้างความเชื่อมั่นต่อนักลงทุนตามแผนเสนอขายหุ้น IPO 300 ล้านหุ้น โดยมี “บล.เคจีไอ” ที่ปรึกษาทางการเงิน ร่วมชูศักยภาพ และจุดเด่นมอง SM เป็นหนึ่งในผู้นำธุรกิจจำหน่ายสินค้าทั้งเงินสดและเงินผ่อน และเป็นหนึ่งในผู้นำด้านสินเชื่อแห่งโซนภาคตะวันออก ซึ่งเป็นเมืองเศรษฐกิจที่มีการลงทุนและมีศักยภาพการเติบโต พร้อมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในปีนี้


ชูศักดิ์ วิวัฒน์วงศ์เกษม กรรมการผู้จัดการ บริษัท สตาร์ มันนี่  จำกัด (มหาชน) หรือ SM เปิดเผยว่า บริษัทฯได้จัดงานโรดโชว์ในรูปแบบออนไลน์ ในวันที่ 25 พฤศจิกายน 2565 โดยมีเป้าหมายเพื่อให้นักลงทุนทั่วไปได้รับฟังข้อมูลการดำเนินธุรกิจ และแผนงานในอนาคต รวมถึงเชื่อมั่นในศักยภาพการเติบโตตามแผนการระดมทุน โดยจะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 300 ล้านหุ้น คิดเป็น 27.27% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้ และคาดจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในหมวดธุรกิจเงินทุนและหลักทรัพย์ (ธุรกิจการเงิน) ภายในปีนี้

วัตถุประสงค์หลักในการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในครั้งนี้ เพื่อต้องการระดมทุนเพื่อนำไปใช้ขยายธุรกิจการให้บริการสินเชื่อทุกประเภท ขยายสาขา รวมถึงธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง เช่น ธุรกิจนายหน้าประกันวินาศภัย และ/หรือประกันชีวิต เป็นต้น นอกจากนี้ ใช้ชำระคืนเงินกู้ยืมบางส่วนจากสถาบันการเงิน และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน เพื่อรองรับการเติบโตของบริษัทฯ ในอนาคต อีกทั้งเป็นการยกระดับบริษัทฯ เข้าสู่มาตรฐานสากล เพิ่มความน่าเชื่อถือในด้านภาพลักษณ์ ให้เป็นที่ยอมรับของลูกค้าและคู่ค้า รวมถึงเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน เตรียมพร้อมสำหรับโอกาสการเติบโต

โดยบริษัทฯ มีความมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำในการให้บริการสินเชื่อผ่อนชำระ สินเชื่อเช่าซื้อ สินเชื่ออุปโภคบริโภค ภายใต้แนวความคิดเพื่อให้ลูกค้ามีความรู้ทางการเงิน (Financial Literacy) และภูมิคุ้มกันทางการเงินที่เข้มแข็ง และวางเป้าหมายการดำเนินธุรกิจในอีก 4 ปีข้างหน้า ระหว่างปี 2565 – 2568 โดยจะพัฒนาต่อยอดผลิตภัณฑ์สินเชื่อทางการเงินใหม่ๆ และหลากหลาย พร้อมทั้งขยายสาขาให้ครอบคลุมพื้นที่ให้บริการตามจังหวัดที่สำคัญของประเทศ และตั้งเป้าหมายที่จะกำกับดูแลบริหารความเสี่ยงอย่างระมัดระวังให้มีประสิทธิผลมากขึ้น และใช้รูปแบบการทำธุรกิจที่ประสบความสำเร็จของบริษัทฯ ในภาคตะวันออกเป็นต้นแบบการดำเนินธุรกิจ

ปัจจุบัน SM ประกอบธุรกิจหลักของบริษัทฯ สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ธุรกิจ คือ ธุรกิจจำหน่ายสินค้าประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านและเครื่องใช้ไฟฟ้าเพื่อการพาณิชย์ เช่น โทรทัศน์ ตู้เย็น เครื่องซักผ้า เครื่องปรับอากาศ โทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ ตู้แช่ รถจักรยานยนต์ และอุปกรณ์อื่นๆ ทั้งในรูปแบบการจำหน่ายสินค้าแบบขายเงินสดและขายผ่อนชำระ ซึ่งจัดทำเป็นสัญญาเช่าซื้อ โดยจำหน่ายสินค้าผ่าน “ร้านสตาร์มันนี่” ในจังหวัดระยองและจังหวัดจันทบุรี รวมถึงมีบางส่วนจำหน่ายผ่าน Platform E-Marketplace

ธุรกิจปล่อยสินเชื่อประเภทต่างๆ ได้แก่   สินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับที่มีทะเบียนรถเป็นประกัน  สินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับที่มิใช่สินเชื่อที่มีทะเบียนรถเป็นประกัน และสินเชื่อที่มีหลักประกัน เช่น สินเชื่อทะเบียนรถ สินเชื่อที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง โดยมีหลักประกันเงินให้กู้ยืม ได้แก่ เล่มทะเบียนรถจักรยานยนต์ เล่มทะเบียนรถยนต์นั่งไม่เกิน 7 ที่นั่ง เล่มทะเบียนรถยนต์เพื่อใช้ในเชิงพาณิชย์ ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง รวมถึงให้บริการเป็นนายหน้าประกันวินาศภัย

ศิริพร เหล่ารัตนกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ 2 บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน ของบริษัท สตาร์ มันนี่ จำกัด (มหาชน) หรือ “SM”  กล่าวว่า การนำเสนอข้อมูลสรุปในงานโรดโชว์ครั้งนี้ เชื่อว่าจะทำให้นักลงทุนเชื่อมั่น ในศักยภาพการเติบโตของ SM ที่โดดเด่นในอุตสาหกรรมธุรกิจการเงิน  ด้วยจุดแข็งของ SM ที่มีประสบการณ์การทำงานยาวนานถึง 30 ปี และมีความสัมพันธ์ที่ดีกับคู่ค้า และผู้ใช้บริการในภาคตะวันออก มีสาขากระจายไปตามแหล่งชุมชน และมีจรรยาบรรณทำให้ลูกค้ากลับมาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง  โดยบริษัทให้ความสำคัญกับการกำกับดูแล และบริหารความเสี่ยงอย่างระมัดระวัง และมีการติดตามหนี้ด้วยหลักธรรมาภิบาล และการบริหารอัตราส่วน NPL ให้อยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับอุตสาหกรรม นอกจากนี้ ธุรกิจของ SM อยู่ในโซนพื้นที่ภาคตะวันออก ซึ่งเป็นเมืองเศรษฐกิจ ที่ได้นโยบายสนับสนุนการลงทุนจากภาครัฐ ในโครงการ EEC  ทำให้มีการลงทุนและการเติบโตในจังหวัด ไม่ว่าจะเป็นภาคครัวเรือน ภาคอุตสาหกรรม และภาคการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นโอกาสทองของ SM ในขยายการเติบโตในพื้นที่ดังกล่าวได้เพิ่มขึ้น

ในด้านผลการดำเนินงานของบริษัทฯ มาจากทั้งธุรกิจจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าและธุรกิจปล่อยสินเชื่อ โดยมีรายได้จากการขายและรายได้ดอกเบี้ยที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้อยู่ในช่วงภาวะเศรษฐกิจที่มีความผันผวน โดยผลประกอบการงวด 6 เดือนแรกของปี 2565 มีรายได้รวมจำนวน 717.81 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.19% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งการเพิ่มขึ้นหลักๆ มาจากรายได้จากการขายสินค้าประเภทโทรศัพท์มือถือและคอมพิวเตอร์ที่มีความต้องการของตลาดสูงขึ้น สอดรับแนวโน้มการใช้เทคโนโลยีที่เพิ่มขึ้น การทำงาน และ/หรือ เรียนออนไลน์ รวมถึงมีการเปิดตัวโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ และการขยายช่องทางการขายไปยังสาขา Express ซึ่งการขายจะเน้นแบบผ่อนชำระ ส่งผลให้รายได้ดอกเบี้ยตามสัญญาเช่าซื้อเพิ่มขึ้น

อีกทั้งอัตรากำไรขั้นต้นปรับสูงขึ้น เนื่องจากสินค้าประเภทโทรศัพท์มือถือมีอัตรากำไรขั้นต้นที่สูงกว่าสินค้าประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้าทั่วไป โดยมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 60.80 ล้านบาท ใกล้เคียงงวดเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการบริหารในส่วนของพนักงานเพิ่มขึ้นจากการขยายสาขา และมีต้นทุนทางการเงินที่เพิ่มขึ้นจากการกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงิน เพื่อมาขยายพอร์ตสินเชื่อ ณ 30 มิถุนายน 2565 SM มีสาขาทั้งสิ้น 91 สาขา ครอบคลุมจังหวัดภาคตะวันออก และมีสาขาที่จ.อุดรธานี และจ.นครราชสีมา

โดยบริษัทฯ มีอัตรากำไรขั้นต้นและส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยที่สม่ำเสมอ โดยงวด 6 เดือนปี 2565 มีอัตรากำไรขั้นต้นจากการขาย 14.91% ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย 18.47% อัตรากำไรสุทธิเท่ากับ 8.5% และ ROE เท่ากับ 24.6%