ดีมันนี่ (บริษัท สวัสดีช้อป จำกัด) บริษัทฟินเทคผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจโอนและชำระเงินข้ามประเทศที่เติบโตเร็วที่สุดของประเทศไทย ประกาศจับมือกับ วีซ่า ผู้นำการให้บริการการชำระเงินดิจิทัลระดับโลก เพื่อนำโซลูชั่น Visa Direct มาใช้งานบนแพลตฟอร์มการโอนและชำระเงินระหว่างประเทศของดีมันนี่ ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้าสามารถชำระเงินต่างสกุลเงินได้แบบแทบจะเรียลไทม์ไปยัง 170 ประเทศทั่วโลก เพียงกรอกเลขหน้าบัตรวีซ่า 16 หลักของผู้รับ การผนึกกำลังในครั้งนี้ช่วยเสริมศักยภาพบริการชำระเงินแบบไร้พรมแดนของดีมันนี่ให้แข็งแกร่งและครอบคลุมกลุ่มผู้ใช้งานหลากหลายขึ้น ตอกย้ำสถานะบริษัทฟินเทคชั้นนำของเมืองไทย โดยบริการชำระเงินแบบรวดเร็วแทบจะเรียลไทม์นี้จะเปิดให้บริการในปี 2566
Visa Direct ซึ่งเป็น API ที่สามารถปลดล็อกการชำระเงินที่รวดเร็วเกือบจะเรียลไทม์ จะเข้ามาพลิกโฉมการโอนและชำระเงินทั่วโลก เพราะสามารถให้บริการชำระเงินแบบ P2P ที่สะดวกรวดเร็วที่เชื่อมต่อกับบัญชีและบัตรเดบิตของลูกค้าได้อย่างราบรื่น เมื่อนำ Visa Direct เข้ามาใช้ในระบบ ธนาคารและบริษัทฟินเทค อย่าง ดีมันนี่ จะสามารถให้บริการธุรกรรม P2P แบบไร้พรมแดนบนแพลตฟอร์มการชำระเงินระหว่างประเทศที่ได้รับใบอนุญาตครบถ้วนของดีมันนี่ ลูกค้าจึงสามารถส่งเงินไปให้เพื่อน ๆ ครอบครัว และธุรกิจต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดาย เพียงกรอกหมายเลขหน้าบัตรวีซ่า 16 หลักของผู้รับ
ยอดก็จะเข้าสู่บัตรวีซ่าของผู้รับ ไม่ว่าจะเป็นบัตรเครดิต เดบิต และบัตรเติมเงิน (Prepaid) ภายใน 30 นาที[1] ซึ่งผู้รับเงินจะนำยอดไปใช้ที่ร้านค้าที่รับบัตรวีซ่าหรือสามารถกดเงินสดได้จากตู้ ATM ในกรณีที่ส่งเงินเข้าบัตรเครดิตวีซ่า จำนวนเงินที่ได้รับจะนำไปหักลดยอดค้างชำระคงเหลือในบัตร
อัศวิน พละพงศ์พานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้ง ดีมันนี่ (บริษัท สวัสดีช้อป จำกัด) กล่าวว่า “นับตั้งแต่วันแรกที่เราเริ่มดำเนินธุรกิจ เป้าหมายของเราคือการทำให้การโอนเงินระหว่างประเทศเป็นเรื่องไม่ยุ่งยาก ปลอดภัย และรวดเร็วสำหรับทุกคน เราทราบดีว่าการโอนเงินระหว่างประเทศแบบดั้งเดิมใช้เวลาดำเนินการหลายวัน และยังต้องเตรียมเอกสารและกรอกข้อมูลทางการเงินที่มีความละเอียดอ่อนอีก การจับมือกับวีซ่าซึ่งเป็นผู้ให้บริการที่ให้ความสำคัญกับการสร้างระบบที่ใช้งานง่าย รวดเร็ว และมีความปลอดภัยสูง ทำให้เรามั่นใจว่าวีซ่าจะเป็นพันธมิตรที่ยอดเยี่ยมในบริการชำระเงินแบบรวดเร็วที่แทบจะเรียลไทม์ของเรา การจับมือกันในครั้งนี้จะทำให้ลูกค้าดีมันนี่สามารถส่งเงินไปยังกว่า 170 ประเทศในสกุลเงินที่หลากหลายถึง 160 สกุลเงิน ที่สำคัญก็คือลูกค้าจะสามารถส่งเงินแบบรวดเร็วที่เกือบจะเรียลไทม์ได้ตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน ไม่มีข้อยกเว้นสำหรับเสาร์-อาทิตย์หรือวันหยุดนักขัตฤกษ์ ซึ่งเป็นสิ่งที่ธนาคารดั้งเดิมไม่สามารถทำได้อย่างแน่นอน”
รัศเมฆ ศรีเศรษฐี กรรมการผู้จัดการของดีมันนี่ กล่าวว่า “ในยุคโลกาภิวัตน์ที่ทุกอย่างมีความเป็นสากลมากยิ่งขึ้น เราได้เห็นว่าความต้องการด้านบริการชำระเงินไร้พรมแดนแบบรวดเร็วแทบจะเรียลไทม์มีอัตราพุ่งสูงขึ้น และ Visa Direct จะเข้ามาช่วยให้ลูกค้าดีมันนี่สามารถส่งเงินไปทั่วโลกได้อย่างรวดเร็วภายในไม่กี่คลิก นับเป็นการใช้ประโยชน์สูงสุดจากเครือข่ายบัตรที่ชำระเงินได้แบบรวดเร็วเกือบจะเรียลไทม์ทั่วโลกของวีซ่า โดยดีมันนี่ มุ่งมั่นจับมือกับพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ชั้นนำเพื่อสร้างคุณค่าใหม่ ๆ ให้แก่ลูกค้า ตลอดจนเสริมทัพบริการและโซลูชั่นหลักของเราให้ครอบคลุมทุกความต้องการและรองรับไลฟ์สไตล์ของลูกค้าหลากหลายเชื้อชาติ การจับมือกับพันธมิตรระดับโลกอย่างวีซ่า นับเป็นก้าวสำคัญในการผลักดันนวัตกรรมและสร้างอีโคซิสเต็มทางการเงินแบบ Digital-first และถือเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นที่ลูกค้าของเราจะได้ใช้บริการที่จะมาพลิกโฉมวงการการเงิน”
ดีมันนี่ก่อตั้งขึ้นในปี 2560 ดำเนินธุรกิจให้บริการโอนเงินแบบไร้พรมแดงรายใหญ่ที่สุดและเติบโตเร็วที่สุดในประเทศไทยด้วยอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีสูงถึง 300% บริษัทให้บริการโอนเงินและแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างประเทศสำหรับบุคคลทั่วไปและธุรกิจผ่าน DeeMoney Neo แอปพลิเคชันบนสมาร์ตโฟน แท็บเล็ต และบนแพลตฟอร์ม DeeBusiness Portal โดดเด่นด้วยบริการโอนเงินต่างประเทศขาเข้า-ออกไปยังเกือบ 50 ประเทศทั่วโลก พร้อมจุดแข็งเรื่องค่าธรรมเนียมคงที่แบบโปร่งใสไร้ค่าบริการแอบแฝง เมื่อไม่นานมานี้ บริษัทได้ประกาศความพร้อมในการเปลี่ยนแปลงสู่ “อินดิเพนเดนต์นีโอแบงก์ (Independent Neobank)” อย่างสมบูรณ์ เตรียมเปิดบริการ E-wallet ในช่วงไตรมาสแรกปี 2566 เพื่อมุ่งสู่การเป็น Digital Challenger Bank (DCB) หรือธนาคารพาณิชย์ทางออนไลน์ที่ให้บริการทางการเงินครบวงจรแบบไร้สาขา ซึ่งได้รับใบอนุญาตครบ พร้อมรองรับบริการโอนเงินหลากหลายสกุลเงินภายในปี 2568
คุณอัศวินแสดงความมั่นใจว่าบริการใหม่จากการผนึกกำลังกับวีซ่า จะได้กระแสตอบรับที่ดีเยี่ยมและช่วยขยายฐานลูกค้าดีมันนี่ได้เป็นอย่างมาก “เมื่อเปิดให้บริการ โซลูชั่นการชำระเงินแบบรวดเร็วที่แทบจะเรียลไทม์ของดีมันนี่ที่ขับเคลื่อนโดยเทคโนโลยีของวีซ่าจะกลายเป็นหนึ่งในวิธีการส่งเงินไปทั่วโลกที่รวดเร็ว โดยในระหว่างนี้ เราจะเดินหน้าจับมือกับพันธมิตรชั้นนำ แสวงหาโอกาสใหม่ ๆ เพื่อพัฒนาบริการทางการเงินที่ใช้ง่าย สะดวก และทุกคนเข้าถึงได้” อัศวิน กล่าวทิ้งท้าย
[1] Ability to send cross-border transactions depends on a number of factors, including whether the recipient issuer accepts cross-border transactions. In addition, cross-border transactions inbound into the U.S. are not available unless the recipient issuer has requested an exception.