บมจ. ที.เค.เอส.เทคโนโลยี หรือ “TKS” ประกาศเข้าซื้อหุ้นบมจ. แอ็ดวานซ์ อินฟอร์เมชั่น เทคโนโลยี หรือ “AIT” จำนวน 280 ล้านหุ้น ที่หุ้นละ 7.50 บาท มูลค่ารวม 2,100 ลบ. คิดเป็นการเข้าซื้อหุ้น AIT ที่ 21.03% เมื่อรวมกับที่ TKS ถือใน AIT เดิม คิดเป็นการถือหุ้น 22.48% โดยมีแผนเพิ่มทุน 115 ล้านหุ้น เสนอขายที่ 14 บาท มูลค่ารวม 1,610 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็น 18.54% ของหุ้นที่ชำระแล้วทั้งหมด ให้กับ บมจ. สบาย เทคโนโลยี หรือ “SABUY” เพื่อนำไปชำระค่าหุ้น AIT เตรียมจัดประชุม EGM วันที่ 16 ก.พ. 2566 นี้ ขอไฟเขียวจากผู้ถือหุ้น
จุติพันธุ์ มงคลสุธี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ที. เค. เอส. เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ TKS เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2565 มีมติให้เพิ่มทุนจดทะเบียน 115,000,000 หุ้น จัดสรรให้กับบุคคลในวงจำกัด (PP) คือ บริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SABUY คิดเป็น 18.45% ต่อทุนชำระแล้วหลังการเพิ่มทุน โดยกำหนดราคาจองซื้อ 14 บาทต่อหุ้น มูลค่ารวม 1,610 ล้านบาท
รวมทั้งมีมติอนุมัติให้ขายหุ้นสามัญของ SABUY จำนวน 39,000,000 หุ้น ในราคาหุ้นละ 11.20 บาท และใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ SABUY-W2 จำนวน 8,650,000 หน่วย ที่ราคาหน่วยละ 5.90 บาท คิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้นไม่เกิน 487,835,000 บาท ให้นายชูเกียรติ รุจนพรพจี ซึ่งการเข้าทำรายการดังกล่าวจะส่งผลให้ บริษัทฯ คงเหลือและถือหุ้นสามัญของ SABUY จำนวน 38,000,000 หุ้นหรือคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 2.55 ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของ SABUY
โดยอนุมัติเงินที่ได้จากการเพิ่มทุนและการขายหุ้น SABUY เข้าซื้อหุ้นสามัญของ บริษัท แอ็ดวานซ์ อินฟอร์เมชั่น เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) จำนวน 280,000,000 หุ้นคิดเป็น 21.03% ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของ AIT ในราคาหุ้นละ 7.50 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้นไม่เกิน 2,100,000,000 บาท
โดยกำหนดวันประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณามติการเพิ่มทุนและการเข้าซื้อ AIT ในวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 10.00 น. ณ ห้องประชุม มงคลสุธีออดิทอเรียม ชั้น 4 บริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) และกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิเข้าประชุมวันที่ 20 มกราคม 2566 และวันไม่ได้รับสิทธิเข้าประชุม 19 มกราคม 2566
ปัจจุบัน TKS ถือหุ้นสามัญ AIT จำนวน 19,200,000 หุ้น หรือ 1.44% และมีใบสำคัญแสดงสิทธิ AIT-W2 อีกจำนวน 28,968,900 หน่วย มีอัตราการใช้สิทธิ 1:1 ดังนั้น ภายหลังการเข้าทำธุรกรรมและการใช้สิทธิของ AIT-W2 บริษัทฯ จะถือหุ้นสามัญ AIT จำนวน 328,168,900 หุ้น คิดเป็น 24.13% ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของ AIT โดย AIT จะถือเป็นบริษัทร่วมของ TKS และจะทำให้ TKS สามารถรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจาก AIT และยังมีโอกาสในการเพิ่มศักยภาพการเติบโตทางธุรกิจและขยายฐานลูกค้าของธุรกิจดิจิทัลแพลตฟอร์ม (Digital Platform) และธุรกิจจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ประเภทสินค้าเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ซอฟต์แวร์ และระบบสารสนเทศ (IT Ecosystem) ซึ่งเป็นธุรกิจเดิมของกลุ่มบริษัทฯและบริษัทในเครือผ่านผู้ให้บริการ System Integrator (SI) รายใหญ่ในตลาด Digital Transformation เป็นการเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทน อัตราการเติบโตของสินทรัพย์ ผลกำไร และกระแสเงินสดให้แก่บริษัทฯ และผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ได้ในระยะยาว