ชูจุดเด่นรองรับการใช้งานได้ทั่วทั้งอุตสาหกรรม ทั้งกลุ่มผู้ให้บริการคลาวด์ (CSPs) ผู้ผลิตสินค้าและอุปกรณ์ (OEMs) ผู้ออกแบบสินค้าและอุปกรณ์ (ODMs) และผู้ผลิตซอฟต์แวร์ (ISVs) พร้อมโชว์ศักยภาพเหนือชั้นด้าน AI ระบบเครือข่าย และระบบคอมพิวเตอร์ประสิทธิภาพสูง
ประเด็นข่าวสำคัญ
เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า โปรเซสเซอร์ Intel Xeon Scalable เจนเนอเรชั่น 4 มีประสิทธิภาพการทำงานเพิ่มขึ้นกว่า 2.9 เท่า1 จากประสิทธิภาพการทำงานโดยเฉลี่ยต่อวัตต์สำหรับเวิร์กโหลดเฉพาะเมื่อใช้ชิปเร่งความเร็วที่ติดตั้งมาในอุปกรณ์ ประหยัดพลังงานมากถึง 70 วัตต์2 สำหรับซีพียูหนึ่งเครื่องที่ใช้โหมดพลังงานสูงสุดและแทบไม่ลดทอนประสิทธิภาพการทำงานลงเลยสำหรับเวิร์กโหลดเฉพาะ พร้อมช่วยลดต้นทุนรวมในการเป็นเจ้าของ (Total cost of ownership: TCO)3 ลงถึง 52-66%
อินเทลได้ประกาศเปิดตัวผลิตภัณฑ์ครั้งสำคัญในหน้าประวัติศาสตร์ของบริษัทอีกครั้ง กับผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดอย่างโปรเซสเซอร์ Intel® Xeon® Scalable เจนเนอเรชั่น 4 (โค้ดเนม Sapphire Rapids) รวมถึงซีพียู Intel® Xeon® CPU Max ซีรีส์ (โค้ดเนม Sapphire Rapids HBM) และจีพียู Intel® Xeon® GPU Max ซีรีส์ (โค้ดเนม Ponte Vecchio) ให้ผู้ใช้ได้สัมผัสอีกขีดสุดของประสิทธิภาพการใช้งานดาต้าเซ็นเตอร์ ตลอดจนศักยภาพ ความปลอดภัย และทักษะการประมวลผลใหม่ ๆ สำหรับปัญญาประดิษฐ์ (AI) คลาวด์ เครือข่ายและเอดจ์ รวมไปถึงซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่เรียกได้ว่าทรงพลังที่สุดในโลกตอนนี้
อินเทลทำงานร่วมกับลูกค้าและพันธมิตรอย่างใกล้ชิดในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์อย่างโปรเซสเซอร์ Intel Xeon Scalable เจนเนอเรชั่น 4 ที่มาพร้อมโซลูชันและระบบการใช้งานที่แตกต่างและสามารถปรับขนาดได้ เพื่อช่วยลูกค้าและพันธมิตรในการแก้ปัญหาสำคัญด้านการประมวลผลที่ท้าทาย กลยุทธ์อันโดดเด่นของอินเทลในการเร่งการประมวลผลเพื่อเวิร์กโหลดเป็นหลักและซอฟต์แวร์ประสิทธิภาพสูงเพื่อรองรับเวิร์กโหลดเฉพาะ ทำให้อินเทลสามารถส่งมอบประสิทธิภาพการประมวลผลตามโหมดการใช้พลังงานที่เหมาะสม เพื่อให้ใช้ต้นทุนรวมการเป็นเจ้าของทั้งหมดได้อย่างคุ้มค่า
นอกจากนี้ โปรเซสเซอร์ Intel Xeon Scalable เจนเนอเรชั่น 4 ซึ่งถือเป็นโปรเซสเซอร์สำหรับดาต้าเซ็นเตอร์ที่ผ่านการผลิตที่ยั่งยืนมากที่สุดของอินเทล ยังโดดเด่นด้วยฟีเจอร์การใช้งานที่หลากหลายสำหรับการดูแลจัดการพลังงานและประสิทธิภาพการทำงานด้วยการใช้งานทรัพยากรของซีพียูอย่างคุ้มค่าเพื่อช่วยให้ลูกค้าบรรลุเป้าหมายเพื่อความยั่งยืน
ซานดร้า ริเวอร่า รองประธานบริหารและผู้จัดการทั่วไปกลุ่มดาต้าเซ็นเตอร์และปัญญาประดิษฐ์ของอินเทล กล่าวว่า “การเปิดตัวโปรเซสเซอร์ Intel Xeon Scalable เจนเนอเรชั่น 4 พร้อมผลิตภัณฑ์ซีพียูและจีพียู Max ซีรีส์ ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญในการขับเคลื่อนพร้อมสร้างการเปลี่ยนแปลงบทใหม่ให้กับอินเทล อีกทั้งตอกย้ำตำแหน่งผู้นำในตลาดดาต้าเซ็นเตอร์และผลักดันให้เราเดินเกมรุกขยายสู่ตลาดใหม่ ๆ ต่อไปในอนาคต โปรเซสเซอร์ Intel Xeon Scalable เจนเนอเรชั่น 4 และซีพียูและจีพียู Max ซีรีส์ ส่งมอบประสิทธิภาพการทำงานที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างแท้จริง นั่นคือประสิทธิภาพระดับชั้นนำและความน่าเชื่อถือในการใช้งานภายใต้สภาพแวดล้อมที่มีความปลอดภัยเพื่อช่วยลูกค้าทำงานและแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในสถานการณ์จริง ซึ่งช่วยให้สามารถร่นระยะเวลาส่งมอบบริการตามความต้องการ (time-to-value: TtV) ได้เร็วขึ้น พร้อมขับเคลื่อนการสร้างสรรค์นวัตกรรมของลูกค้าได้มากขึ้น”
โปรเซสเซอร์ Intel Xeon Scalable เจนเนอเรชั่น 4 แตกต่างจากโปรเซสเซอร์สำหรับดาต้าเซ็นเตอร์อื่น ๆ ในตลาดที่ลูกค้ากำลังใช้งานอยู่ในปัจจุบัน โดยได้ขยายไปสู่แนวทางและกลยุทธ์เพื่อรองรับเวิร์กโหลดเป็นหลักและออกแบบมาโดยคำนึงถึงจุดประสงค์การใช้งานโดยเฉพาะ
ชูประสิทธิภาพระดับแถวหน้า พร้อมช่วยเรื่องความยั่งยืนด้วยชิปเร่งความเร็วในตัวที่ให้ความเร็วสูงสุด
ปัจจุบัน มีโปรเซสเซอร์ Xeon กว่าร้อยล้านตัวที่ติดตั้งใช้งานในตลาด ตั้งแต่เซิร์ฟเวอร์ที่ใช้งานภายในองค์กรเพื่อดูแลบริการด้านไอที รวมไปถึงโมเดลธุรกิจใหม่ ๆ ที่ให้บริการด้านไอทีและซอฟต์แวร์ ไปจนถึงอุปกรณ์เครือข่ายที่ใช้ดูแลควบคุมปริมาณการใช้งานอินเทอร์เน็ต การประมวลผลจากสถานีฐานแบบไร้สาย และบริการด้านคลาวด์
โปรเซสเซอร์ Intel Xeon Scalable เจนเนอเรชั่น 4 ใหม่ล่าสุด สร้างขึ้นจากนวัตกรรมดาต้าเซ็นเตอร์ เครือข่าย และเอดจ์อัจฉริยะ และความรู้ความเชี่ยวชาญระดับแถวหน้าของวงการกว่าหลายทศวรรษ พร้อมส่งมอบประสิทธิภาพการทำงานชั้นนำด้วยชิปเร่งความเร็วที่ติดตั้งมาในตัวและให้ความเร็วสูงสุดเท่าที่ซีพียูเครื่องไหนในโลกเคยมีมา เพื่อช่วยลูกค้าแก้ปัญหาสำคัญ ๆ ด้านการประมวลผลที่ท้าทาย ไม่ว่าจะเป็น AI, เครื่องมือวิเคราะห์, ระบบเครือข่าย, ความปลอดภัย, การจัดเก็บข้อมูล และระบบคอมพิวเตอร์ประสิทธิภาพสูง (High Performance Computing: HPC)
เมื่อเปรียบเทียบกับรุ่นก่อนหน้า โปรเซสเซอร์ Intel Xeon Scalable เจนเนอเรชั่น 4 มีประสิทธิภาพการทำงานเพิ่มขึ้นกว่า 2.9 เท่า1 จากประสิทธิภาพการทำงานโดยเฉลี่ยต่อวัตต์สำหรับเวิร์กโหลดเฉพาะเมื่อใช้ชิปเร่งความเร็วที่ติดตั้งมาในอุปกรณ์ ประหยัดพลังงานมากถึง 70 วัตต์2 สำหรับซีพียูหนึ่งเครื่องที่ใช้โหมดพลังงานสูงสุดและแทบไม่ลดทอนประสิทธิภาพการทำงานลงเลยสำหรับเวิร์กโหลดเฉพาะ พร้อมช่วยลดต้นทุนรวมในการเป็นเจ้าของ (total cost of ownership: TCO)3 ลงถึง 52-66%
ตอบโจทย์เรื่องความยั่งยืน
ประสิทธิภาพการทำงานที่เพิ่มขึ้นจากชิปเร่งความเร็วที่ติดตั้งมาในโปรเซสเซอร์ Intel Xeon Scalable เจนเนอเรชั่น 4 ช่วยให้อินเทลสามารถประหยัดพลังงานในระดับแพลตฟอร์ม ลดความต้องการเร่งการประมวลผลเพิ่มเติม และช่วยให้ลูกค้าอินเทลบรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืน ยิ่งไปกว่านั้น โหมดประหยัดพลังงานสูงสุดยังช่วยประหยัดการใช้พลังงานไฟฟ้าแบบเสียบปลั๊กได้ถึง 20% โดยกระทบประสิทธิภาพการทำงานไม่ถึง 5% สำหรับเวิร์กโหลดบางประเภท11 นอกจากนี้ นวัตกรรมใหม่ ๆ ด้านชุดน้ำและชุดลมซึ่งเป็นตัวระบายความร้อนของซีพียูในโปรเซสเซอร์ Intel Xeon Scalable เจนเนอเรชั่น 4 นี้ยังช่วยลดการใช้พลังงานโดยรวมของดาต้าเซ็นเตอร์ลงไปอีก และโปรเซสเซอร์ Intel Xeon Scalable เจนเนอเรชั่น 4 ยังใช้พลังงานไฟฟ้าทดแทนมากกว่า 90% ในการผลิตที่โรงงานของอินเทลซึ่งใช้เทคโนโลยีการบำบัดน้ำเสียที่ทันสมัยเพื่อนำกลับมาใช้ใหม่ในกระบวนการผลิตด้วย
เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI)
ในด้านเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า โปรเซสเซอร์ Intel Xeon Scalable เจนเนอเรชั่น 4 สามารถอนุมานข้อมูลแบบเรียลไทม์ของ PyTorch ได้สูงถึง 10 เท่า5,6 อีกทั้งยังส่งมอบศักยภาพการฝึกฝนการเรียนรู้ของคอมพิวเตอร์ด้วยชิปเร่งความเร็วที่ติดตั้งมาอย่าง Intel® Advanced Matrix Extension (Intel® AMX) โดยโปรเซสเซอร์ Intel Xeon Scalable เจนเนอเรชั่น 4 ได้ปลดล็อกขุมพลังใหม่แห่งศักยภาพของการอนุมานและการฝึกฝนคอมพิวเตอร์ในการประมวลผลข้อมูลผ่านเวิร์กโหลดที่หลากหลายรูปแบบของ AI ขณะที่ซีพียู Intel Max ซีรีส์ ได้ขยายศักยภาพเหล่านี้สู่การประมวลผลภาษาโดยธรรมชาติ ด้วยความเร็วสูงถึง 20 เท่า12 ในการเรียนรู้โมเดลรูปแบบภาษาขนาดใหญ่ การส่งมอบชุดซอฟต์แวร์ AI ของอินเทลช่วยให้เหล่านักพัฒนาสามารถเลือกใช้เครื่องมือ AI ได้ตามความต้องการและสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและความเร็วเพื่อการพัฒนา AI ชุดเครื่องมือ AI นี้สามารถพกพาและใช้งานแยกจากคอมพิวเตอร์ที่ใช้งานหลัก เพื่อปรับขยายขนาดบนคลาวด์และเอดจ์ได้อย่างสะดวกสบายและราบรื่น การันตีประสิทธิภาพการใช้งานจากการทดสอบโมเดลการเรียนรู้เชิงลึกและการเรียนรู้จากคอมพิวเตอร์ของ AI กว่า 400 รูปแบบตามยูสเคสการใช้งาน AI ทั่วไปในทุกเซกเมนต์ของตลาด
เครือข่าย
โปรเซสเซอร์ Intel Xeon Scalable เจนเนอเรชั่น 4 นำเสนอตระกูลโปรเซสเซอร์ที่ได้รับการปรับแต่งโดยเฉพาะสำหรับการรองรับเวิร์กโหลดหลายประเภทที่มีประสิทธิภาพสูงบนเครือข่ายและเอดจ์ที่มีความหน่วงต่ำ โดยโปรเซสเซอร์เหล่านี้ถือเป็นกุญแจสำคัญสำหรับการขับเคลื่อนอนาคตที่ีซอฟต์แวร์จะมีบทบาทสำคัญมากขึ้นสำหรับอุตสาหกรรมต่าง ๆ ตั้งแต่โทรคมนาคมและการค้าปลีก ไปจนถึงการผลิตและเมืองอัจฉริยะ สำหรับเวิร์กโหลดของ 5G ชิปเร่งความเร็วที่ติดตั้งมาจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการส่งมอบปริมาณงานและลดความหน่วง ในขณะเดียวกัน ความก้าวหน้าด้านการจัดการพลังงานได้ช่วยยกระดับทั้งการตอบสนองและประสิทธิภาพของแพลตฟอร์มไปอีกขั้น นอกจากนี้ โปรเซสเซอร์ Intel Xeon Scalable เจนเนอเรชั่น 4 จะมอบความจุของเครือข่ายการเข้าถึงวิทยุแบบจำลองเสมือน (virtualized radio access network: vRAN) ได้ถึงสองเท่าโดยไม่จำเป็นต้องใช้พลังงานเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า ซึ่งช่วยให้ผู้ให้บริการด้านการสื่อสารสามารถเพิ่มประสิทธิภาพต่อวัตต์เป็นสองเท่าเพื่อตอบสนองความต้องการด้านประสิทธิภาพการทำงานที่สำคัญ การปรับขนาด และการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ
ระบบคอมพิวเตอร์ประสิทธิภาพสูง (High Performance Computing: HPC)
โปรเซสเซอร์ Intel Xeon Scalable เจนเนอเรชั่น 4 และผลิตภัณฑ์ตระกูล Intel Max ซีรีส์ นำเสนอสถาปัตยกรรมไอทีที่สมดุลและมาพร้อมความสามารถในการปรับขนาดของซีพียูและจีพียู ผ่านการทำงานร่วมกันกับระบบนิเวศซอฟต์แวร์แบบเปิดของ oneAPI เพื่อตอบสนองความต้องการในการประมวลผลของเวิร์กโหลดในด้านระบบคอมพิวเตอร์ประสิทธิภาพสูง (High Performance Computing: HPC) และ AI เพื่อแก้ปัญหาสุดท้าทายระดับโลก
ซีพียู Intel Xeon Max ซีรีส์ เป็นโปรเซสเซอร์ตัวแรกและตัวเดียวที่้รองรับสถาปัตยกรรมคอมพิวเตอร์ x86 โดยมีหน่วยความจำแบนด์วิธสูง มีความสามารถในการเร่งเวิร์กโหลด HPC จำนวนมากโดยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนรหัส นอกจากนี้ จีพียู Intel Data Center Max ซีรีส์ ยังเป็นโปรเซสเซอร์ที่มีความหนาแน่นสูงสุดของอินเทล และจะมีวางจำหน่ายในฟอร์มแฟกเตอร์หลายรูปแบบที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่แตกต่างกัน
ซีพียู Intel Xeon Max ซีรีส์ มีหน่วยความจำ HBM2e แบนด์วิธสูงถึง 64 กิกะไบต์ในแพ็คเกจ ซึ่งจะเพิ่มข้อมูลของการส่งมอบปริมาณงานและข้อมูลสำหรับ HPC และ AI ได้อย่างมาก และเมื่อเทียบกับโปรเซสเซอร์ Intel® Xeon® Scalable เจนเนอเรชั่น 3 รุ่นท็อป ซีพียู Intel Xeon Max ซีรีส์ สามารถมอบประสิทธิภาพได้มากกว่าถึง 3.7 เท่า10สำหรับแอปพลิเคชันต่าง ๆ ที่ใช้ในสถานการณ์จริง เช่น การสร้างแบบจำลองระบบพลังงานและโลก
นอกจากนี้ จีพียู Intel Data Center Max ซีรีส์ ได้รวบรวมทรานซิสเตอร์กว่า 100 พันล้านตัวไว้ในแพ็คเกจเป็นจำนวน 47 ไทล์ ซึ่งจะยกระดับการส่งมอบปริมาณงานให้เข้ากับความท้าทายของเวิร์กโหลดที่มีอยู่ เช่น ฟิสิกส์ บริการทางการเงิน และวิทยาศาสตร์เพื่อชีวิต และเมื่อจับคู่จีพียู Intel Data Center Max ซีรีส์ กับ ซีพียู Intel Xeon Max ซีรีส์ เข้าด้วยกัน ทั้ง 2 แพลตฟอร์มนี้จะมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นถึง 12.8 เท่า13 เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า เมื่อใช้โปรแกรม LAMMPS ที่จำลองการเคลื่อนที่ของโมเลกุลแบบไดนามิค
แพลตฟอร์ม Xeon มาพร้อมฟีเจอร์สุดหลากหลายและความปลอดภัยขั้นสูงสุด
อินเทลได้ชูโรงถึงการเปลี่ยนแปลงแพลตฟอร์มครั้งใหญ่ ไม่เพียงแต่ โปรเซสเซอร์ Intel Xeon Scalable เจนเนอเรชั่น 4 จะมีอัตราการเร่งความเร็วที่น่าทึ่งแล้ว แต่ยังประสบความสำเร็จสำคัญในด้านการผลิตอีกด้วย โดยการผสานรวมไทล์ที่สร้างจาก Intel 7 มากถึงสี่ตัวในแพ็คเกจเดียว โดยใช้เทคโนโลยีการบรรจุ EMIB (Embedded multi-die interconnect bridge) ในการเชื่อมต่อ นอกจากนี้ยังมีการนำเสนอคุณสมบัติใหม่ล่าสุด รวมถึงแบนด์วิธหน่วยความจำที่เพิ่มขึ้นด้วย DDR5, แบนด์วิธ I/O ที่เพิ่มขึ้นด้วย PCIe5.0 และการเชื่อมต่อระหว่าง Compute Express Link (CXL) 1.1
โดยรากฐานที่สำคัญของแพลตฟอร์มนี้คือความปลอดภัย โดยโปรเซสเซอร์ Intel Xeon Scalable เจนเนอเรชั่น 4 ได้นำเสนอพอร์ตโฟลิโอการประมวลผลที่มีประสิทธิภาพในการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลที่เป็นความลับซึ่งครอบคลุมผู้ให้บริการดาต้าเซ็นเตอร์ซิลิคอนในอุตสาหกรรม เพิ่มระดับความปลอดภัยของการเก็บข้อมูล การปฏิบัติตามกฎระเบียบและการรักษาสิทธิการเป็นเจ้าของข้อมูล (Data Sovereignty) นอกจากนี้ อินเทลยังคงเป็นผู้นำด้านการให้บริการซิลิคอนเพียงรายเดียวที่นำเสนอการป้องกันความเป็นส่วนตัวผ่านการแยกแอปพลิเคชันในหน่วยความจำสำหรับการประมวลผลในดาต้าเซ็นเตอร์ด้วย Intel® Software Guard Extensions (Intel® SGX) ด้วยการลดพื้นที่การโจมตีลงให้เหลือเล็กที่สุดสำหรับการประมวลผลข้อมูลที่เป็นความลับ ไม่ว่าจะอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เป็นส่วนตัว สาธารณะ หรือในโครงสร้าง cloud-to-edge นอกจากนี้ เทคโนโลยีการแยกเครื่องเสมือน (Virtual Machine: VM) ใหม่ของอินเทล และ Intel® Trust Domain Extensions (Intel® TDX) ยังเหมาะสมอย่างยิ่งในการย้ายแอปพลิเคชันที่มีอยู่ไปยังสภาพแวดล้อมที่เป็นความลับมากขึ้น และ Intel® TDX จะเปิดตัวพร้อมกับ Microsoft Azure, Alibaba Cloud, Google Cloud และ IBM Cloud
สถาปัตยกรรมโมดูลาร์ของโปรเซสเซอร์ Intel Xeon Scalable เจนเนอเรชั่น 4 ช่วยให้อินเทลสามารถนำเสนอโปรเซสเซอร์ที่เปี่ยมไปด้วยความหลากหลายด้านการใช้งานผ่านอุปกรณ์ตามเลข SKUs ราว 50 รายการ เพื่อยูสเคสการใช้งานหรือแอปพลิเคชันของลูกค้า นับตั้งแต่ SKU ที่ใช้สำหรับการทำงานทั่วไป ไปจนถึง SKU ที่สร้างขึ้นโดยคำนึงถึงวัตถุประสงค์เพื่อระบบคลาวด์ ฐานข้อมูลและเครื่องมือการวิเคราะห์ เครือข่าย ระบบจัดเก็บข้อมูล และยูสเคสการใช้งานของเอจด์แบบซ็อกเก็ตเดียว โดยตระกูลโปรเซสเซอร์ Intel Xeon เจนเนอเรชั่นที่ 4 สามารถปรับเปลี่ยนการทำงานได้ตามความต้องการที่หลากหลาย และมีจำนวนคอร์ ความถี่ การผสมผสานของตัวเร่งความเร็ว กำลังการใช้คลื่นความถี่ (power envelope) และอัตราความเร็วของหน่วยความจำที่แตกต่างกันตามความเหมาะสมของยูสเคสการใช้งานและฟอร์มแฟกเตอร์ที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าในสถานการณ์จริง
¹ ฟังก์ชัน Geoman ของเวิร์กโหลดต่อไปนี้: RocksDB (IAA vs ZTD), ClickHouse (IAA vs ZTD), SPDK สื่อขนาดใหญ่และพร็อกซีคำขอฐานข้อมูล (DSA vs out of box), การจัดประเภทของรูปภาพ ResNet-50 (AMX vs VNNI), Object Detection SSD- ResNet-34 (AMX เทียบกับ VNNI),QATzip(QAT vszlib)
² แพลตฟอร์ม Intel Reference Validation แบบ 1 โหนด, Intel® Xeon 8480+ (56C,2GHz, 350W TDP) เร็วขึ้น 2 เท่า, HT On, Turbo ON, มีหน่วยความจำทั้งหมด: 1TB (16 ช่อง/ 64GB/ 4800 MHz), 1x P4510 3.84TB NVMe PCIe Gen4 drive, BIOS: 0091.D05, (ucode:0x2b0000c0), CentOS Stream 8, 5.15.0-spr.bkc.pc.10.4.11.x86_64, Java Perf/Watt w/ openjdk-11+28_linux-x64_bin, 112 อินสแตนซ์, ขนาดฮีปเริ่มต้น/สูงสุด 1550MB ทดสอบโดยอินเทล เมื่อเดือนตุลาคม 2565
³ การจัดประเภทของรูปภาพ ResNet50
การกำหนดค่าใหม่: โปรเซสเซอร์ Intel® Xeon® Scalable 8490H เจนเนอเรชั่น 4 (60 คอร์) รุ่นก่อนผลิตจริง แบบ 1 โหนด เร็วขึ้น 2 เท่า พร้อม Intel® Advanced Matrix Extensions (Intel AMX), ในรุ่นก่อนผลิตจริง SuperMicroSYS-221H-TNR พร้อมหน่วยความจำถึง 1024GB DDR5 (16x64 GB), microcode 0x2b0000c0, HT On, Turbo On, SNC Off, CentOS Stream 8, 5.19.16-301.fc37.x86_64, 1x3.84TB P5510 NVMe, 10GbE x540-AT2, Intel TF 2.10, AI Model=Resnet 50 v1_5, คะแนนสูงสุดที่ได้รับ: BS1 AMX 1 คอร์/อินสแตนซ์ (สูงสุด 15ms SLA) โดยใช้ physical core ซึ่งได้ทดสอบโดยอินเทล เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2565 ข้อมูลพื้นฐาน: โปรเซสเซอร์ Intel Xeon Scalable 8380 เจนเนอเรชั่น 3 รุ่นผลิตจริง (40 คอร์) แบบ 1 โหนด เร็วขึ้น 2 เท่า บน SuperMicroSYS-220U-TNR, หน่วยความจำ DDR4 รวม 1024GB (16x64 GB), microcode 0xd000375, HT On, Turbo On, SNC Off, CentOS Stream 8, 5.19.16-301.fc37.x86_64, 1x3.84TB P5510NVMe, 10GbE x540-AT2, Intel TF2.10, AI Model=Resnet 50 v1_5 คะแนนสูงสุดีที่ได้รับ: BS1 INT8 2 คอร์/อินสแตนซ์ (สูงสุด 15ms SLA) โดยใช้คอร์จริง ทดสอบโดยอินเทล เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2565
สำหรับชุดเซิร์ฟเวอร์ 50 เครื่อง ของโปรเซสเซอร์ Intel Xeon 8380 (RN50 w/DLBoost) เจนเนอเรชั่น 3 ประมาณการเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2565:
ค่าใช้จ่ายด้านทุน (CapEx) อยู่ที่ 1.64 ล้านดอลลาร์
ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน (OpEx) (4 ปี รวมค่าไฟและระบบทำความเย็น โครงสร้างพื้นฐานและค่าบำรุงรักษาฮาร์ดแวร์) อยู่ที่ 7.399 แสนดอลลาร์
การใช้พลังงานเป็นกิโลวัตต์ชั่วโมง (kWh) (4 ปีต่อเซิร์ฟเวอร์): 44627, PUE 1.6
สมมติฐานอื่น ๆ: ค่าสาธารณูปโภคอยู่ที่ 0.1 ดอลลาร์/kWh, kWh ถึง kg CO2 จำนวน 0.42394
สำหรับชุดเซิร์ฟเวอร์ 17 เครื่องที่ใช้โปรเซสเซอร์ Intel Xeon 8490H (RN50 w/AMX) เจนเนอเรชั่น 4 ประมาณการเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2565:
ค่าใช้จ่ายด้านทุน (CapEx) อยู่ที่ 7.994 แสนดอลลาร์
ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน (OpEx) (4 ปี รวมค่าไฟและระบบทำความเย็น โครงสร้างพื้นฐานและค่าบำรุงรักษาฮาร์ดแวร์) อยู่ที่ 2.753 แสนดอลลาร์
การใช้พลังงานเป็นกิโลวัตต์ชั่วโมง (kWh) (4 ปีต่อเซิร์ฟเวอร์): 58581, PUE 1.6
AI -- ต้นทุนการเป็นเจ้าของ (TCO) ลดลง 55% เมื่อใช้เซิร์ฟเวอร์ ขุมพลังโปรเซสเซอร์ Intel® Xeon® เจนเนอเรชั่น 4 ในจำนวนที่น้อยลง โดยยังสามารถตอบสนองความต้องการด้านสมรรถนะได้ในระดับเดิม ดู [E7] intel.com/processorclaims: โปรเซสเซอร์ Intel Xeon Scalable เจนเนอเรชั่น 4 ผลลัพธ์ที่ได้อาจแตกต่างกันไป
ฐานข้อมูล -- TCO ลดลง 52% เมื่อใช้เซิร์ฟเวอร์ ขุมพลังโปรเซสเซอร์ Intel® Xeon® เจนเนอเรชั่น 4 ในจำนวนที่น้อยลง โดยยังสามารถตอบสนองความต้องการด้านสมรรถนะได้ในระดับเดิม ดู [E8] intel.com/processorclaims: โปรเซสเซอร์ Intel Xeon Scalable เจนเนอเรชั่น 4 ผลลัพธ์ที่ได้อาจแตกต่างกันไป
ระบบคอมพิวเตอร์ประสิทธิภาพสูง (HPC) -- TCO ลดลง 66% เมื่อใช้เซิร์ฟเวอร์ ขุมพลังโปรเซสเซอร์ Intel® Xeon® CPU Max ในจำนวนที่น้อยลง โดยยังสามารถตอบสนองความต้องการด้านสมรรถนะในระดับเดิม ดู [E9] intel.com/processorclaims: โปรเซสเซอร์ Intel Xeon Scalable เจนเนอเรชั่น 4 ผลลัพธ์ที่ได้อาจแตกต่างกันไป
4 ฟังก์ชัน Geomean ของ HP Linpack, Stream Triad, SPECrate2017_fp_base est, SPECrate2017_int_base est ดู [G2, G4, G6] intel.com/processorclaims: โปรเซสเซอร์ Intel Xeon Scalable เจนเนอเรชั่น 4
5 ประสิทธิภาพการอนุมานข้อมูลแบบเรียลไทม์ของ PyTorch สูงขึ้นถึง 10 เท่า เมื่อใช้ Intel® Advanced Matrix Extensions (Intel® AMX) (BF16) ในตัว เทียบกับรุ่นก่อนหน้า (FP32)
ฟังก์ชัน Geomean ใน PyTorch ของ ResNet50, Bert-Large, MaskRCNN, SSD-ResNet34, RNN-T, Resnext101
6 สมรรถนะในการฝึกฝนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กับ PyTorch สูงขึ้นถึง 10 เท่า เมื่อใช้ Intel® Advanced Matrix Extensions (Intel® AMX) (BF16) ในตัว เทียบกับรุ่นก่อนหน้า (FP32)
ฟังก์ชัน Geomean ใน PyTorch ของ ResNet50, Bert-Large, DLRM, MaskRCNN, SSD-ResNet34, RNN-T
7 ประมาณการเมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2565 อ้างอิงตามการปรับปรุงสถาปัตยกรรมโปรเซสเซอร์ Intel® Xeon® Scalable เจนเนอเรชั่น 4 เทียบกับโปรเซสเซอร์ Intel® Xeon® Scalable เจนเนอเรชั่น 3 โดยมีจำนวนคอร์ ซ็อกเก็ตพาวเวอร์ และความถี่เหมือนกัน ในการทดสอบโดยใช้ซอฟต์แวร์ FlexRAN™ ผลลัพธ์ที่ได้อาจแตกต่างกันไป
8 จำนวนคอร์น้อยลงถึง 95% ขณะที่ปริมาณการรับส่งข้อมูลที่บีบอัดระดับ 1 ทำได้เร็วขึ้น 2 เท่า เมื่อใช้ Intel Xeon Platinum 8490H เจนเนอเรชั่น 4 ที่มี Intel QAT ในตัว เทียบกับรุ่นก่อนหน้า
8490H: แพลตฟอร์มรุ่นก่อนผลิตจริง แบบ 1 โหนด ที่ใช้โปรเซสเซอร์ Intel® Xeon Scalable เจนเนอเรชั่น 4 (60 คอร์) ที่เร็วขึ้น 2 เท่า พร้อม Intel QuickAssist Accelerator (Intel QAT) ในตัว อุปกรณ์ QAT ที่ใช้ = 8 (ใช้งาน 2 ซ็อกเก็ต) พร้อมพื้นที่รวม 1024GB (16x64 GB) หน่วยความจำ DDR5, microcode 0xf000380, HT On, Turbo Off, SNC Off, Ubuntu 22.04.1 LTS, 5.15.0-47-generic, 1x 1.92TB Intel® SSDSC2KG01, QAT v20.l.0.9.1, QATzip v1.0.9, ISA-L v2.3.0 ทดสอบโดยอินเทล เมื่อเดือนกันยายน 2565
8380: โปรเซสเซอร์ Intel Xeon Scalable เจนเนอเรชั่น 3 (40 คอร์) แบบ 1 โหนด ที่เร็วขึ้น 2 เท่า บนแพลตฟอร์ม Coyote Pass, หน่วยความจำ DDR4 รวม 1024GB (16x64 GB), microcode 0xd000375, HT On, Turbo Off, SNC Off, Ubuntu 22.04.1 LTS, 5.15 .0-47-generic, 1x 1.92TB Intel SSDSC2KG01,QAT v1.7.l.4.16, QATzip v1.0.9 , ISA-L v2.3.0 ทดสอบโดยอินเทล เมื่อเดือนตุลาคม 2565
9 ประสิทธิภาพ RocksDB สูงขึ้นถึง 3 เท่า เมื่อใช้ Intel Xeon Platinum 8490H เจนเนอเรชั่น 4 ที่มี Intel IAA ในตัว เทียบกับรุ่นก่อนหน้า
8490H: แพลตฟอร์มรุ่นก่อนผลิตจริงของอินเทล แบบ 1 โหนด ที่ใช้โปรเซสเซอร์ Intel Xeon Scalable เจนเนอเรชั่น 4 (60 คอร์) พร้อม Intel In-Memory Analytics Accelerator (Intel IAA), HT On, Turbo On, หน่วยความจำรวม 1024GB (16x64GB DDR5 4800), microcode 0xf000380, 1x 1.92TB INTEL SSDSC2KG01, Ubuntu 22.04.1 LTS, 5.18.12-051812-generic, QPL v0.1.21,accel-config-v3.4.6.4, ZSTD v1.5.2, RocksDB v6.4.6 (db_bench) ทดสอบโดยอินเทล เมื่อเดือนตุลาคม 2565
8380: โปรเซสเซอร์ Intel Xeon Scalable เจนเนอเรชั่น 3 (40 คอร์) แบบ 1 โหนด ที่เร็วขึ้น 2 เท่า บนแพลตฟอร์ม Coyote Pass, HT On, Turbo On, SNC Off, หน่วยความจำรวม 1024GB (16x64GB DDR4 3200), microcode 0xd000375, 1x 1.92TB INTEL SSDSC2KG01, Ubuntu 22.04.1 LTS, 5.18.12-051812-generic, ZSTD v1.5.2, RocksDB v6.4.6 (db_bench), ทดสอบโดยอินเทล เมื่อเดือนตุลาคม 2565
10 Intel® Xeon® 8380: ทดสอบโดยอินเทล เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2565 Intel® Xeon® 8380 CPU แบบ 1 โหนด ที่เร็วขึ้น 2 เท่า, HT On, Turbo On, หน่วยความจำรวม 256 GB (16x16GB 3200MT/s DDR4), BIOS Version SE5C620.86B.01.01.0006.2207150335, ucode revision=0xd000375, Rocky Linux 8.6, Linux version 4.18.0-372.26.1.el8_ 6.crt1.x86_ 64, YASK v3.05.07
Intel® Xeon® CPU Max ซีรีส์: ทดสอบโดยอินเทล เมื่อ ww36'22 Intel® Xeon® CPU Max ซีรีส์ แบบ 1 โหนด ที่เร็วขึ้น 2 เท่า, HT On, Turbo On, SNC4, หน่วยความจำรวม 128 GB (8x16GB HBM2 3200MT/s), BIOS Version SE5C7411.86B.8424.D03.2208100444, ucode revision=0x2c000020, CentOS Stream 8, Linux version 5.19.0-rc6.0712.intel_ next.1.x86_ 64+server, YASK v3.05.07
11 ประหยัดพลังงานของระบบได้มากถึง 20% เมื่อใช้ Intel Xeon Scalable เจนเนอเรชั่น 4 สามารถกำหนดเวิร์กโหลดที่ต้องการได้ว่า จะให้อยู่ในโหมดเปิดหรือปิด เช่น การแลกเปลี่ยนสัญญาณหลักของ SpecJBB, SPECINT และ NIGNX
12 AMD Milan: ทดสอบโดย Numenta เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2565 AMD EPYC 7R13 แบบ 1 โหนด ที่เร็วขึ้น 2 เท่า, 2x AMD EPYC 7R13 ทำงานบน AWS m6a.48xlarge, 768 GB DDR4-3200, Ubuntu 20.04 Kernel 5.15, OpenVINO 2022.3, BERT-Large, Sequence Length 512, Batch Size 1
Intel® Xeon® 8480+: ทดสอบโดย Numenta เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2565 Intel® Xeon® 8480+ แบบ 1 โหนด ที่เร็วขึ้น 2 เท่า, 512 GB DDR5-4800, Ubuntu 22.04 Kernel 5.17, OpenVINO 2022.3, Numenta-Optimized BERT-Large, Sequence Length 512, Batch Size 1
13 Intel® Xeon® 8380: ทดสอบโดยอินเทล เมื่อวันที่ 28ตุลาคม 2565 Intel® Xeon® 8380 CPU แบบ 1 โหนด ที่เร็วขึ้น 2 เท่า, HT On, Turbo On, หน่วยความจำรวม 256 GB (16x16GB 3200MT/s, Dual-Rank), BIOS Version SE5C6200.86B.0020.P23.2103261309, ucode revision=0xd000270, Rocky Linux 8.6, Linux version 4.18.0-372.19.1.el8_6.crt1.x86_64
Intel® Xeon® CPU Max Series HBM: ทดสอบโดยอินเทล เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2565 Intel® Xeon® Max 9480 แบบ 1 โหนด ที่เร็วขึ้น 2 เท่า, HT On, Turbo On, หน่วยความจำรวม 128 GB HBM2e, BIOS EGSDCRB1.DWR.0085.D12.2207281916, ucode 0xac000040, SUSE Linux Enterprise Server 15 SP3, Kernel 5.3.18, oneAPI 2022.3.0
Intel® Data Center GPU Max ซีรีส์ พร้อมโฮสต์ DDR: ทดสอบโดยอินเทล เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2565 Intel® Xeon® Max 9480 แบบ 1 โหนด ที่เร็วขึ้น 2 เท่า, HT On, Turbo On, หน่วยความจำรวม 1024 GB DDR5-4800 + 128 GB HBM2e, โหมดหน่วยความจำ: Flat, ไม่ใช้ HBM2e, Intel® Data Center GPU Max ซีรีส์ เร็วขึ้น 6 เท่า, BIOS EGSDCRB1 .DWR.0085.D12.2207281916, ucode 0xac000040, Agama pvc-prq-54, SUSE Linux Enterprise Server 15 SP3, Kernel 5.3.18, oneAPI 2022.3.0
Intel® Data Center GPU Max ซีรีส์ พร้อมโฮสต์ HBM: ทดสอบโดยอินเทล เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2565 Intel® Xeon® Max 9480 แบบ 1 โหนด เร็วขึ้น 2 เท่า, HT On, Turbo On, หน่วยความจำรวม 128 GB HBM2e, Intel® Data Center GPU Max ซีรีส์ เร็วขึ้น 6 เท่า, BIOS EGSDCRB1.DWR.0085.D12.2207281916, ucode 0xac000040, Agama pvc- prq-54, SUSE Linux Enterprise Server 15 SP3, Kernel 5.3.18, oneAPI 2022.3.0