ปลดล็อคการประหยัดพลังงาน ลดต้นทุน และลดการสร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมด้วยนวัตกรรมใหม่ๆ
ซัมซุงเปิดตัวนวัตกรรมเพื่อก้าวเข้าสู่ยุคการใช้ชีวิตอย่างยั่งยืน SmartThings Energy จะสร้างมาตราฐานใหม่ให้กับบ้าน เครื่องใช้ไฟฟ้า Bespoke จะช่วยประหยัดทั้งพลังงานและค่าใช้จ่าย เมื่อทำงานร่วมกับเทคโนโลยีใหม่ เช่น โหมดการซักผ้าแบบใหม่และฟิลเตอร์ที่สามารถลดการปล่อยไมโครไมโครพลาสติกได้ ความก้าวหน้านี้จะช่วยให้ผู้บริโภคลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและช่วยรักษาโลกได้ง่ายกว่าที่เคย
“เทคโนโลยีที่ซัมซุงได้นำเสนอในงาน CES 2023 เรายึดความยั่งยืนของการใช้งานเป็นหัวใจสำคัญ” มูห์ยัง ลี รองประธานและหัวหน้าฝ่ายวิจัยและพัฒนา กลุ่มธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน ของซัมซุง กล่าว “เป้าหมายของเราคือการก้าวเป็นที่สุดของผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าประหยัดพลังงานระดับโลก ผลิตภัณฑ์ล่าสุดรวมไปถึงความร่วมมือต่างๆจะส่งมอบการใช้ชีวิตอย่างยั่งยืนแก่ผู้บริโภคและชุมชนจำนวนมากขึ้น”
SmartThings ที่ช่วยประหยัดพลังงานขั้นสุด
แพลตฟอร์ม SmartThings ยังคงขยายตัวและปลดล็อคหนทางการลดคาร์บอนใหม่ๆที่บ้าน ปัจจุบัน AI Energy Mode ของ SmartThings Energy[1] มีประสิทธิภาพกว่าเคย สามารถทำงานกับอุปกรณ์หลากชนิด กระจายสู่ภูมิภาคใหม่ๆ และสามารถประหยัดพลังงานของตู้เย็นได้ 15%[2] เครื่องปรับอากาศ 20%[3] และเครื่อง 35%[4]
ผู้ผลิตรายแรกที่ได้รับใบรับรอง Smart Home Energy Management Systems (SHEMS)
สำนักงานปกป้องสิ่งแวดล้อมสหรัฐฯ (Environmental Protection Agency หรือ EPA) มอบใบรับรอง Smart Home Energy Management Systems (SHEMS) ให้เป็นรายแรกในตลาด เพื่อยืนยันว่าเครื่องใช้และบริการต่างๆ ช่วยให้ผู้บริโภครับรู้ถึงการใช้พลังงานของตน ก่อให้ผู้ใช้ประหยัดพลังงาน ลดต้นทุนและ ช่วยบริหารจัดการให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ
EPA ยังมอบ ENERGY STAR® จำนวน 260 ใบกับเครื่องใช้ไฟฟ้ารุ่นพื้นฐาน รวมถึง “Most Efficient” recognitions” จำนวน 43[5] ใบ กว่า 1 ทศวรรษที่ซัมซุงเป็นผู้นำสำหรับรางวัล ENERGY STAR® และยังเคยได้รับรางวัล ENERGY STAR Corporate Commitment Award ซึ่งมีไม่กี่รายที่ได้รับอีกด้วย
บรรลุเป้าหมายให้บ้านมีคาร์บอนเป็นศูนย์ ครัวเรือนใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพขั้นสุด
ซัมซุงร่วมกับ Sterling Ranch และ Siemens เปิดตัว Smart City Project โดยจะพัฒนา Sterling Ranch ให้เป็นชุมชนยั่งยืนตัวอย่างสำหรับชาวบ้านกว่า 3 หมื่นคนในเมือง Littleton รัฐ Colorado
โครงการนี้จะใช้ SmartThings Energy เป็นแอปหลักในการตรวจสอบข้อมูลของเครื่องใช้ไฟฟ้าแบบ Real-time พร้อม Solar panels และแบตเตอรี่เพื่อจ่ายและจัดเก็บพลังงาน โดยเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ประหยัดพลังงานจะลดการใช้พลังงานและตรวจสอบการใช้น้ำเพื่อให้ใช้ทรัพยากรต่างๆ น้อยที่สุด อีกทั้งโซลูชั่นโครงสร้างพื้นฐานจาก Siement และ โซลูชั่นการจัดการพลังงานและบ้านจาก Resideo Technologies ช่วยให้ชุมชนใช้ชีวิตกับการปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์ได้อย่างราบรื่น
นอกจากนี้มีการขยับขยายความร่วมมือกับ Resideo โดยทั้ง 2 บริษัทกำลังหาวิธีที่จะรวมเครื่องใช้ไฟฟ้าของซัมซุงกับโซลูชั่น Smart grid ของ Resideo เพื่อเชื่อมโยงกับผู้บริโภคในรัฐ California และ Texas ด้วยโปรแกรมการจัดการพลังงาน ในอนาคตโครงการนี้จะช่วยให้ชุมชนต่างๆ พร้อมใช้พลังงานไฟฟ้าจาก Smart-grid ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพโดยอาศัยเทคโนโยโลยีจาก Resideo และการประหยัดพลังงานจาก SmartThings Energy
จัดการปัญหาไมโครพลาสติกด้วยเทคโนโลยี “Less Microfiber”
ตลอดระยะเวลากว่า 1 ปี ซัมซุงและ Patagonia ร่วมมือเพื่อแก้ไขปัญหาเศษไมโครพลาสติกที่ไหลลงสู่แหล่งน้ำระหว่างกระบวนการซักผ้าซึ่งก่อให้เกิดมลภาวะทั้งในมหาสมุทรและแหล่งน้ำตามธรรมชาติ โดยนำเสนอ Less Microfiber Cycle และ Filter ที่สามารถลดการปล่อยไมโครพลาสติกลงสู่น้ำได้มากถึง 54%[6]
โดย Filter จะช่วยดักไมโครพลาสติกไม่ให้ไหลลงสู่แหล่งน้ำ ซึ่งช่วยลดการสร้างขยะได้ในอนาคต โดยผู้บริโภคสามาถซื้อฟิลเตอร์นี้ไปติดตั้งกับเครื่องซักผ้าของตนไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ใดได้
นอกจากนี้ เครื่องซักผ้าและตู้เย็นของซัมซุงยังมีการรับประกันยาวนานถึง 20 ปี[7] โดยคลอบคลุมไปถึงเทคโนโลยี Digital Inverter เพื่อเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะลดขยะ โดยยืดอายุการใช้งานของทั้งเครืองซักผ้าและตู้เย็น ตู้เย็น Bespoke ยังสามารถปรับแต่งประตูทำให้เกิดการใช้งานมากขึ้น ไม่ต้องเปลี่ยนบ่อย
ความร่วมมืออย่างใกล้ชิด ความก้าวล้ำทางเทคโนโลยี และพันธสัญญาเพื่อจะก้าวเป็นผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ประหยัดพลังงานที่สุดในโลก เป็นเป้าหมายที่ซัมซุงยึดมั่นเพื่อก้าวไปสู่อนาคตที่ยั่งยืนขึ้น ท่านสามารถเข้าชมเวบไซต์ samsung.com เพื่อศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับนวัตกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อมที่ซัมซุงนำเสนอในงานซีอีเอส 2023
[1] ใช้งานผ่านอุปกรณ์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์หรือไอโอเอส จำเป็นต้องใช้ไว-ไฟและบัญชีซัมซุง
[2] จะใช้งานได้ในตู้เย็นรุ่นที่รองรับผ่านการอัพเดทโดยใช้ไว-ไฟ ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2023 เป็นต้นไป ผลการทดสอบเปรียบเทียบจากการทำงานระหว่างตู้เย็นที่ใช้และไม่ใช้โหมดประหยัดพลังงานโดยใช้ปัญญาประดิษฐ์ ทดสอบโดยใช้ตู้เย็นที่จำหน่ายในสหรัฐฯ ตั้งค่าอุณหภูมิมาตรฐานจากโรงงาน ผลการใช้งานจริงอาจแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับลักษณะและรูปแบบการใช้งาน
[3] อ้างจากผลการทดสอบภายในโดยใช้เครื่องปรับอากาศรุ่นที่จำหน่ายในสหรัฐฯ ผลการใช้งานจริงอาจแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมและรูปแบบการใช้งาน
[4] อ้างจากผลการทดสอบภายในโดยใช้เครื่องซักผ้ารุ่น WF8900B ที่มีความจุถังซัก 8 ปอนด์ตามเกณฑ์ของ IEC ทดสอบในทุกโหมดการซักยกเว้นโหมด Small Load cycle (ความจุสูงสุด 4 ปอนด์ตามเกณฑ์ของ IEC) ผลการใช้งานจริงอาจแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับลักษณะและรูปแบบการใช้งาน
[5] สถิติ ณ เดือนพฤศจิกายน 2022.
[6] ทดสอบกับเสื้อฮู้ดดี้ผ้าโพลีเอสเตอร์น้ำหนักรวม 2 กิโลกรัม โดยเปรียบเทียบระหว่างการซักผ้าด้วยโหมดซักผ้าใยสังเคราะห์ในเครื่องซักผ้าซัมซุงรุ่น WW4000T และการใช้โหมดเลส ไมโครไฟเบอร์ ไซเคิลในเครื่องซักผ้ารุ่น WW7000B ผลลัพธ์อาจแตกต่างกันตามชนิดของผ้าและสภาพแวดล้อม การทดสอบดำเนินการโดย Ocean Wise Plastics Lab
[7] การรับประกัน 20 ปีนั้นหมายความถึงการรับประกันมอเตอร์ของดิจิตอลอินเวอร์เตอร์ในเครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้าที่ผลิตและจัดจำหน่ายในสหรัฐฯ รวมถึงการรับประกันมอเตอร์ของดิจิตอลอินเวอร์เตอร์ในเครื่องซักผ้า เครื่องอบผ้า และคอมเพรสเซอร์ของตู้เย็นที่จำหน่ายในตลาดทวีปยุโรปตั้งแต่เดือนกรกฎาคมศกนี้ การรับประกันนี้จำกัดเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่ผลิตโดยซัมซุงและซับคอนแทรกเตอร์ของซัมซุง ไม่ครอบคลุมถึงผลิตภัณฑ์ที่ซัมซุงจ้างผู้ผลิตภายนอกผลิตให้