อาลีบาบา คลาวด์ เปิดตัว Global Apsara Developer Community เพิ่มจำนวนทรัพยากรและการสนับสนุนด้านเทคโนโลยี ซึ่งประกอบด้วย โซลูชันในการสร้าง superapp โปรแกรมทุนการศึกษา และการแข่งขันต่าง ๆ
อาลีบาบา คลาวด์ (Alibaba Cloud) ธุรกิจด้านเทคโนโลยีดิจิทัล และหน่วยงานหลักด้านอินเทลลิเจนซ์ของอาลีบาบา กรุ๊ป ประกาศเปิดตัว Apsara Developer Community ซึ่งเป็นฮับใหม่ที่สร้างขึ้นเพื่อสนับสนุนนักพัฒนาซอฟต์แวร์และแอปพลิเคชันทั่วโลก ด้วยการมอบเครื่องมือ และทรัพยากรที่ใช้สำหรับการพัฒนาที่หลากหลายมากขึ้น โดยมีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนคอมมิวนิตี้ของนักพัฒนาฯ ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง และเป็นการส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลในตลาดต่าง ๆ
เซลินา หยวน รองประธาน อาลีบาบา กรุ๊ป และประธานด้านธุรกิจระหว่างประเทศ อาลีบาบา คลาวด์ อินเทลลิเจนซ์ กล่าวว่า “คอมมิวนิตี้ของนักพัฒนาซอฟต์แวร์และแอปพลิเคชันมีความสำคัญต่อระบบนิเวศของอาลีบาบา คลาวด์ เราหวังว่าจะเติบโตไปพร้อมกับนักพัฒนาฯ ทั้งหลาย ด้วยการมอบเทคโนโลยีที่ทันสมัยล่าสุด ทรัพยากรที่ต้องใช้ และโอกาสทางธุรกิจร่วมกัน”
ทรัพยากรในคอมมิวนิตี้ โอกาสทางการแข่งขัน และทุนการศึกษา ใหม่ ๆ สำหรับนักพัฒนาฯ ทั่วโลก
Apsara Developer Community นำเสนอทรัพยากรและข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับเทรนด์ทางเทคโนโลยีที่กำลังเกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็น Web3, AI ไปจนถึง digital intelligence ให้แก่นักพัฒนาฯ ทั่วโลก ณ งาน Global Developer Summit ของอาลีบาบา คลาวด์ ที่จัดขึ้นที่กรุงจาการ์ตาเมื่อต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา ทรัพยากรที่เปิดตัวครั้งนี้ ประกอบด้วย เครื่องมือและโครงการใหม่ล่าสุดจำนวนมากเพื่อใช้ในการพัฒนาฯ, เอกสารและแบบฝึกหัดในการฝึกอบรม, ฟอรัมและบล็อก, กิจกรรมต่าง ๆ ในคอมมิวนิตี้ และการแข่งขันเพื่อโชว์การพัฒนาแอปพลิเคชันของนักพัฒนาฯ รวมถึงโอกาสในการยกระดับทักษะและการสร้างเครือข่ายอื่น ๆ
อาลีบาบา คลาวด์ ยังได้ประกาศการมาถึงของโปรแกรมการแข่งขันล่าสุด - PolarDB Global Hackathon 2023 เพื่อกระตุ้นให้นักพัฒนาฯ เสาะหาและนำนวัตกรรมด้านคลาวด์-เนทีฟ ดาต้าเบสมาใช้ทำโครงการเพื่อส่งเข้าแข่งขัน โดยผู้เข้าร่วมการแข่งขันสามารถส่งโครงการต่าง ๆ ของตนได้ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ ผู้ชนะการแข่งขันจะได้รับรางวัลเป็นเงินสดรวม 30,000 เหรียญสหรัฐ
นอกจากนี้ อาลีบาบา คลาวด์ ยังได้เปิดเผยการให้ทุน Alibaba SMART Scholarship ซึ่งมีจุดประสงค์เพื่อส่งเสริมนักศึกษาให้เข้าร่วมคอมมิวนิตี้ของนักพัฒนานี้ด้วยการใช้เทคโนโลยีบนคลาวด์ จนกลายเป็นผู้มีความสามารถทางดิจิทัลในประเทศของตน โดยในช่วงปีแรกของโปรแกรมทุนประจำปีนี้ จะคัดเลือกนักศึกษา 20 คนจากมหาวิทยาลัยในประเทศมาเลเซีย อินโดนีเซีย และซาอุดีอาระเบีย เข้าร่วมฝึกงาน ณ สำนักงานของอาลีบาบา คลาวด์ ที่อยู่ในประเทศของนั้น ๆ เพื่อให้ได้รับประสบการณ์จริงในภาคปฏิบัติมากขึ้น
โซลูชันใหม่เพื่อส่งเสริมการพัฒนา Superapp
อาลีบาบา คลาวด์ยังได้เปิดเผยโซลูชันใหม่เพื่อช่วยนักพัฒนาฯ สร้าง superapps ได้อย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มค่าใช้จ่าย เพื่อตอบโจทย์การเพิ่มขึ้นของ superapps ซึ่งเป็นแอปฯ ที่รวม miniapps จำนวนมากที่แยกกันพัฒนาไว้ด้วยกัน เพื่อตอบความต้องการของผู้ใช้ที่แตกต่างกัน โซลูชันที่เปิดตัวใหม่นี้ใช้คุณประโยชน์จาก Enterprise Mobile Application Studio (EMAS) ของอาลีบาบา คลาวด์ และมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยให้นักพัฒนาฯ สามารถใช้ความสามารถที่มีอยู่อย่างมากมายของแพลตฟอร์มสร้าง superapps ได้อย่างรวดเร็วภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง เป็นการเพิ่มความได้เปรียบทางการแข่งขันให้กับบริษัทและองค์กรต่าง ๆ ทั่วโลก
โซลูชันที่ครบวงจรนี้ใช้แนวปฏิบัติของ Taobao และ Tmall ซึ่งเป็น superapps ด้านอี-คอมเมิร์ซของอาลีบาบา เพื่อมอบระบบนิเวศที่ครบครันและหลากหลายให้แก่นักพัฒนาฯ รวมถึงองค์ประกอบต่าง ๆ สำหรับโครงสร้างพื้นฐานของแอปฯ และฟีเจอร์ทางธุรกิจ, คอนเทนเนอร์เพื่อรัน miniapps และบริการสำหรับ DevOps และการดำเนินงานด้านต่าง ๆ
เรย์มอนด์ เซียว Head of International Industry Solutions and Architect ของอาลีบาบา คลาวด์ อินเทลลิเจนซ์ กล่าวว่า “เราเชื่อมั่นว่าเทคโนโลยีต่าง ๆ ของเราที่ได้รับการพิสูจน์ประสิทธิภาพแล้ว รวมถึงประสบการณ์ที่ได้จากการสนับสนุน superapps ที่ประสบความสำเร็จ จะเป็นประโยชน์ต่อนักพัฒนาฯ ทั่วโลก ที่กำลังสร้าง superapps และระบบนิเวศของแพลตฟอร์มที่สอดคล้องกันของตนเอง และเราสามารถร่วมกันสร้างเทคโนโลยีและโซลูชันใหม่ๆ กับนักพัฒนาฯ ของเรามากขึ้น เพื่อสนับสนุนให้คอมมิวนิตี้ของนักพัฒนานี้เติบโตต่อไป”
อาลีบาบา คลาวด์ ทุ่มเทสนับสนุนระบบนิเวศนักพัฒนาฯ และคอมมิวนิตี้ด้านโอเพ่นซอร์ส ทั้งนี้ อาลีบาบา คลาวด์ และผู้ที่มีส่วนสนับสนุน (contributor) มากกว่า 30,000 ราย ได้ให้การสนับสนุนโครงการโอเพ่นซอร์สมากกว่า 2,700 โครงการบน Github ทั้งนี้อาลีบาบา คลาวด์ ยังเป็นสมาชิกหลักในคอมมิวนิตี้ด้านโอเพ่นซอร์สต่าง ๆ เช่น Cloud Native Computing Foundation (CNCF), The Linux Foundation และ RISC-V International เป็นต้น