กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เผยกระแสรักสุขภาพมาแรง ส่งผลข่าวปลอมเรื่องรักษาโรคถูกค้นหามากสุด ขณะที่มิจฉาชีพปลอมตัวเป็นแบงค์พาณิชย์ยังระบาด ปล่อยกู้วงเงินสูง ระวัง! ถูกหลอก วอนตรวจสอบให้ดีก่อนโอน
นพวรรณ หัวใจมั่น โฆษกกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ฝ่ายการเมือง (ดีอีเอส) กล่าวว่า สรุปผลการมอนิเตอร์ และรับแจ้งข่าวปลอมของศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมประจำวันที่ 27 มกราคม - 2 กุมภาพันธ์ 2566 พบข้อความที่เข้ามาทั้งหมด 3,275,854 ข้อความ โดยมีข้อความที่ต้องดำเนินการตรวจสอบ (Verify) ทั้งสิ้น 243 ข้อความ แบ่งเป็นข้อความที่มาจาก Social listening จำนวน 228 ข้อความ และข้อความที่มาจาก Line Official จำนวน 15 ข้อความ รวมเรื่องที่ต้องดำเนินการตรวจสอบ 117 เรื่อง
ทั้งนี้ ดีอีเอสได้แบ่งข่าวปลอมที่ได้รับความสนใจ เป็น 4 กลุ่ม ประกอบด้วย
กลุ่มที่ 1 ข่าวปลอมเรื่องนโยบายรัฐบาล ข่าวสารทางราชการ ความสงบเรียบร้อยของสังคม ขัดศีลธรรมอันดี และความมั่นคงภายในประเทศจำนวน 70 เรื่อง
กลุ่มที่ 2 ข่าวปลอมเรื่องผลิตภัณฑ์สุขภาพ วัตถุอันตราย เครื่องสำอาง รวมถึงสินค้าและบริการที่ผิดกฎหมาย จำนวน 29 เรื่อง
กลุ่มที่ 3 ข่าวปลอมเรื่องภัยพิบัติ จำนวน 7 เรื่อง
กลุ่มที่ 4 ข่าวปลอมเศรษฐกิจ จำนวน 11 เรื่อง
สำหรับข่าวปลอมทั้ง 4 กลุ่มมีความเกี่ยวเนื่องกับเรื่องโควิค-19 จำนวน 3 เรื่อง
“เมื่อพิจารณาจากข่าวปลอมที่ได้รับความสนใจลำดับต้นๆ ในสัปดาห์นี้ พบว่าส่วนใหญ่เป็นข่าวปลอมเกี่ยวกับเรื่องของสุขภาพและการรักษาโรค สอดคล้องกับกระแสปัจจุบันที่คนหันมาใส่ใจเรื่องสุขภาพมากขึ้น ขณะที่ข่าวปลอมการเชิญชวนให้กู้เงินออนไลน์ โดยแอบอ้างเป็นผู้ให้บริการเงินกู้จากสถาบันการเงิน หลอกลวงประชาชน ผ่านช่องทางต่างๆ ทั้ง ข้อความในโทรศัพท์มือถือ สื่อสังคมออนไลน์ เช่น ไลน์ เฟสบุ๊ก และแอปพลิเคชั่นเงินกู้ ก็ยังมีมาอย่างต่อเนื่อง จึงอยากเตือนให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อ และขอให้ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเป็นผู้ให้บริการที่ถูกต้องตามกฎหมาย และควรติดต่อไปยังผู้ให้บริการที่ถูกอ้างชื่อถึงก่อนตัดสินใจโอนเงิน เพื่อป้องกันการสูญเสียทรัพย์สิน” นพวรรณ กล่าว
สำหรับข่าวปลอมที่มีคนสนใจสูงสุด 10 อันดับระหว่างวันที่ 27 มกราคม – 2 กุมภาพันธ์ 2566 ดังนี้
อันดับที่ 1 เรื่อง ขัดฟันด้วยผงถ่านคาร์บอน ช่วยทำให้ฟันขาว
อันดับที่ 2 เรื่อง อย. แพ้คดี หลังไฟเซอร์ถูกบังคับให้เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับผลข้างเคียงของวัคซีน
อันดับที่ 3 เรื่อง ใช้น้ำปัสสาวะหยอดจมูก รักษาโรคไซนัสได้
อันดับที่ 4 เรื่อง น้ำมันเบนซินมีสารระเหยดูดพิษจากแมลงกัดต่อย หายใน 3 - 5 นาที
อันดับที่ 5 เรื่อง ธ.ออมสินปล่อยกู้ผ่านเพจ สินเชื่อ ธุรกิจ ทันใจ
อันดับที่ 6 เรื่อง Dietary Supplement Product ONE MORe Eleven Oil ขับนิ่วหลุด ขับปัสสาวะ พุ่งปรี๊ด ชามือ ชาเท้า 3 คืนรู้เรื่อง
อันดับที่ 7 เรื่อง พบการส่งจดหมายการขอใช้บริการจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค
อันดับที่ 8 เรื่อง เพจ Government Savings Bank เป็นเพจของธนาคารออมสิน
อันดับที่ 9 เรื่อง เพจ Amely Marks ของธนาคารออมสินชวนกู้เงินออนไลน์ ผ่อน 860 บาท/เดือน
อันดับที่ 10 เรื่อง เพจธนาคารกรุงไทยปล่อยสินเชื่อกรุงไทยใจดี กู้ผ่านมือถือได้
อย่างไรก็ตาม ดีอีเอส มีความเป็นห่วงประชาชน ขอเตือนอย่าหลงเชื่อในข้อความเชิญชวนต่างๆ โดยเฉพาะเรื่องของสุขภาพ ให้ตรวจสอบให้ชัดเจน จากโรงพยาบาล หรือสถานบริการทางการแพทย์ก่อน เพราะหากไปทำตามอาจส่งผลเสียถึงชีวิตได้ ส่วนเรื่องของมิจฉาชีพที่ปลอมเป็นธนาคาร หรือผู้ให้บริการทางการเงิน เพื่อความปลอดภัย ขอให้ประชาชนโปรดสังเกต และอย่าหลงเชื่อกลโกงของโจรเหล่านี้ ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าผู้ให้บริการเหล่านั้นได้รับอนุญาตประกอบธุรกิจอย่างถูกต้อง ทั้งนี้ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้ติดตามความเคลื่อนไหวข้อความที่ผิดปกติในทุกช่องทาง และได้มีการติดตามการกระทำผิดอย่างต่อเนื่องเพื่อปกป้องประชาชนจากมิจฉาชีพในทุกรูปแบบ หากท่านได้รับการแจ้งข้อมูลที่ผิดปกติ ผ่านเอสเอ็มเอส หรือทางโทรศัพท์ เพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้น ขอให้ท่านตระหนักรู้เท่าทันข่าวปลอมที่ถูกแพร่กระจายอยู่บนโซเชียลมีเดีย และออนไลน์ โดยสามารถติดตามและแจ้งเบาะแสข่าวปลอม ได้ผ่านช่องทางต่างๆ ของศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ดังนี้ ไลน์ @antifakenewscenter เว็บไซต์ https://www.antifakenewscenter.com/
ทวิตเตอร์ https://twitter.com/AFNCThailand และช่องทางโทรศัพท์โทรสายด่วน GCC 1111 ต่อ 87