Tinder ประกาศความมุ่งมั่นในการปกป้องสมาชิกจากการละเมิดทางออนไลน์ให้มากยิ่งขึ้น ด้วยการอัพเดทฟีเจอร์ ด้านความปลอดภัยอย่าง ‘Does This Bother You?’ (สิ่งนี้รบกวนคุณหรือไม่) และ ‘Are You Sure? (คุณแน่ใจหรือไม่) ซึ่งเป็นการขยายขอบเขตการตรวจสอบซึ่งครอบคลุมคำพูดที่บ่งบอกถึงการแสดงความเกลียดชัง การคุกคามทางเพศหรือการล่วงละเมิด นอกจากนี้ Tinder ยังให้สมาชิกควบคุมการใช้แอพได้มากขึ้นด้วยการเปิดตัว ฟีเจอร์ 'ไม่ระบุตัวตน' และ 'บล็อคโปรไฟล์' รวมถึงอัพเกรดการรายงานอีกด้วย
Tinder มุ่งมั่นในการมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดสำหรับสมาชิกเพื่อให้เชื่อมต่อพูดคุยกัน และสามารถควบคุมประสบการณ์การเดทออนไลน์ของตัวเองได้ดียิ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผลสำรวจคนโสดชาวไทยที่ใช้แอพ Tinder 99% ระบุว่า ฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยมีความสำคัญต่อพวกเขาเป็นอย่างยิ่ง*
อัพเดทใหม่ล่าสุดของฟีเจอร์ด้านความปลอดภัย ‘Does This Bother You?’ (สิ่งนี้รบกวนคุณหรือไม่) และ ‘Are You Sure?’ (คุณแน่ใจหรือไม่) ซึ่งจะตรวจสอบครอบคลุมถึงภาษาที่ Tinder จัดว่าเป็นอันตราย หรือไม่เหมาะสมมากขึ้น เช่น คำที่เกี่ยวข้องกับการแสดงความเกลียดชัง การคุกคามทางเพศ หรือการล่วงละเมิดซึ่งขัดต่อแนวทางปฏิบัติของชุมชน
ฟีเจอร์ Are You Sure?’ เป็นขั้นตอนก่อนส่งข้อความในกรณีที่ Tinder ตรวจพบภาษาที่ไม่เหมาะสม ซึ่งช่วยลด การส่งข้อความเหล่านั้นได้มากกว่า 10% และผู้ใช้แอพชาวไทยกว่า 63% กล่าวว่าฟีเจอร์นี้ช่วยส่งเสริมพฤติกรรมที่ดี และช่วยให้ประสบการณ์การหาคู่ออนไลน์ปลอดภัยยิ่งขึ้น* ส่วนฟีเจอร์ ‘Does This Bother You?’ สนับสนุนให้สมาชิกรายงานบทสนทนาที่ไม่เหมาะสมและสามารถดำเนินการกับสมาชิกที่ฝ่าฝืนกฎได้ ซึ่งตั้งแต่เปิดตัวฟีเจอร์นี้มีการรายงานข้อความที่ไม่เหมาะสมมากถึง 46%
โรรี โคโซลล์ รองประธานฝ่ายผลิตภัณฑ์และความปลอดภัยของ Tinder กล่าวว่า Tinder สร้างฟีเจอร์โดยคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก แต่สมาชิกหลายคนอาจจะไม่ได้รับรู้ถึงฟีเจอร์หรือวิธีการใช้ฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยเหล่านี้ รวมถึงวิธีทำอย่างไรให้คุยอย่างปลอดภัยเมื่อออกนอกแอพ Tinder ได้มีการทำงานร่วมกับพันธมิตรผู้เชี่ยวชาญอย่างต่อเนื่อง เพื่อขยายคุณสมบัติด้านความปลอดภัย และแสดงให้เห็นถึงความพยายามของเราในการช่วยผู้คนที่เดทออนไลน์ ให้สามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ดีได้ตั้งแต่เริ่มต้นใช้แอพ โดยเป้าหมายสำคัญคือ การให้ข้อมูลและความรู้เพื่อมุ่งให้ Tinder เป็นสถานที่ที่ปลอดภัยที่สุดในการพบปะผู้คนใหม่ๆ
ฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยให้ควบคุมการใช้แอพได้มากขึ้น
Tinder เป็นผู้ริเริ่มคอนเซ็ปต์ของการจับคู่ Match ที่กำหนดให้คู่เดททั้งสองต้องกดถูกใจกันและกันก่อนที่จะเริ่มการสนทนาได้ ซึ่งแอพและแพลตฟอร์มหาคู่อื่น ๆ ก็ได้ทำตามแนวคิดนี้และตอนนี้กลายเป็นมาตรฐานโดยพื้นฐานของแอพหาคู่ นอกจากนี้ Tinder ไม่อนุญาตให้ส่งรูปภาพในแชทโดยตรง เพื่อป้องกันไม่ให้แชร์รูปภาพที่ไม่เหมาะสม
Tinder ได้เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ เพื่อให้สมาชิกสามารถควบคุมการมีส่วนร่วมกับผู้อื่นบนแอพได้มากขึ้นหลายวิธี ถือเป็น อีกส่วนหนึ่งของความพยายามอย่างต่อเนื่องของ Tinder ในการเป็นผู้นำการออกเดทอย่างปลอดภัย ดังนี้
ในปีที่ผ่านมา Tinder ได้ออกแบบการรายงานแบบใหม่ ด้วยคำแนะนำจาก RAINN องค์กรต่อต้านการล่วงละเมิดทางเพศที่ไม่แสวงหากำไรที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา เพื่อให้สมาชิกเลือกได้ว่าอยากจัดการอย่างไร ไม่ว่า จะเป็นการรายงานอย่างเป็นทางการ หรือ unmatch รวมถึงเปิดตัวการรายงานแบบกดค้าง (Long Press Reporting) ที่เพิ่มเข้ามา
โดย การรายงานแบบกดค้าง นี้ Tinder อยากให้สมาชิกกดรายงานพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมด้วยวิธีง่ายที่สุดด้วยการที่สมาชิกแตะข้อความที่ไม่เหมาะสมค้างเอาไว้ ซึ่งสามารถทำได้ในระหว่างการแชทด้วย Tinder หวังว่าฟีเจอร์นี้จะช่วยให้สมาชิกรายงานพฤติกรรมที่ไม่ดีเข้ามามากขึ้น และ Tinder จะดำเนินการกับบัญชีที่ละเมิดกฎเกณฑ์ของชุมชนต่อไป
ในช่วงสามปีที่ผ่านมา Tinder ได้ลงทุนกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ด้านความปลอดภัยเป็นอย่างมาก ทำให้เกิดนวัตกรรมด้านความปลอดภัยมากกว่า 15 รายการ Tinder ได้ทำงานร่วมกับพันธมิตรที่เป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรมากมาย เช่น องค์กร NO MORE, RAINN และ GLAAD เพื่อขอคำแนะนำ และแนวทางการทำงานสำหรับความปลอดภัย และเพื่อสร้างความมั่นใจว่านโยบาย และฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยที่นำไปปรับใช้จะเป็นระบบที่ดีที่สุด
การอัพเดทฟีเจอร์และนวัตกรรมที่เกี่ยวข้องกับความเชื่อมั่นและความปลอดภัยเป็นผลสืบเนื่องจากแคมเปญล่าสุดในเรื่องการสร้างความตระหนักรู้แก่สาธารณะทั่วโลก ของ Match Group และสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับความเชื่อมั่น และความปลอดภัยภาษาไทยได้ที่ศูนย์กำกับดูแลความปลอดภัยบนTinder
หมายเหตุ
*ผลสำรวจคนโสดที่มีอายุ 18-25 ปี จำนวน 1,000 คนในประเทศไทย ซึ่งจัดทำโดย Tinder เมื่อ 26 เมษายน 2565 - 8 มิถุนายน 2565
**โหมดไม่ระบุตัวตนเป็นฟีเจอร์สำหรับสมาชิก Tinder+, Gold และ Premium
***การบล็อคโปรไฟล์จะเปิดตัวบนระบบ Android ก่อน จากนั้นจะสามารถใช้ได้บนระบบ iOS ภายในไตรมาส 1 ปี 2566