Tinder แอพหาคู่ที่ได้รับความนิยมที่สุดในโลก เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ “
รูปแบบความสัมพันธ์ (1)” (Relationship Types) ตัวช่วยเสริมฟีเจอร์
Dating Goal ที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้ ช่วยให้ทุกการเชื่อมต่อสามารถทำได้อย่างต้องการ และเป็นตัวเองได้อย่างแท้จริง
ไคล์ มิลเลอร์ รองประธานฝ่ายผลิตภัณฑ์ของ Tinder กล่าวว่า “สำหรับคนรุ่นใหม่แล้ว ‘ข้อผูกมัด’ ใช้ไม่ได้กับพวกเขาอีกต่อไป เพราะคนนิวเจนสำรวจความเป็นไปได้ในทุกความสัมพันธ์ ตั้งแต่การคบหาทีละคน ความสัมพันธ์แบบคนคุย ไปจนถึงความสัมพันธ์แบบเพื่อน สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับพวกเขาคือ การเปิดใจ และจริงใจในสิ่งที่กำลังมองหา Tinder จึงออกฟีเจอร์อย่าง Dating Goal และรูปแบบความสัมพันธ์นี้ขึ้น เพื่อให้พวกเขามีวิธีในการแสดงออกถึงสิ่งที่ต้องการได้ง่ายยิ่งขึ้น และในช่วงสามเดือนที่ผ่านมาสมาชิกส่วนใหญ่ของ Tinder ได้เพิ่มฟีเจอร์รูปแบบความสัมพันธ์เข้าไปบนหน้าโปรไฟล์ของตัวเอง5จนกลายเป็นข้อมูลที่ได้รับความนิยมมากที่สุดที่มีการใช้บนหน้าโปรไฟล์อีกด้วย”
ผลสำรวจของ Tinder พบว่า 73% ของคนนิวเจน กำลังมองหาใครสักคนที่มีความชัดเจนในสิ่งที่ตัวเองต้องการ(2) นั่นหมายถึง การใส่ข้อมูลส่วนตัวลงไปบนหน้าโปรไฟล์ Tinder แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่น ความจริงใจ และความซื่อสัตย์ได้ ทั้งนี้สมาชิก Tinder ในไทยสามารถเลือกรูปแบบความสัมพันธ์ที่ต้องการได้แล้ว ดังนี้
- ความสัมพันธ์แบบมีคู่คนเดียว (Monogamy): เปิดรับกับการคบแค่ทีละคนเท่านั้น
- ความสัมพันธ์ที่ยินยอมว่ามีคู่มากกว่า 1 คน (Ethical Non-Monogamy) : ข้อตกลงระหว่างกันที่สามารถคบได้มากกว่า 1 คน หรือมีความสัมพันธ์แบบยินยอมพร้อมใจได้มากกว่า 1 คน
- ความสัมพันธ์แบบเปิด (Open Relationship): เปิดกว้างกับความสัมพันธ์ที่ต่างฝ่ายต่างมีอิสระในการหาคนที่ตรงใจใหม่ได้ตลอดเวลา และมีความผูกพันกันในแบบที่ไม่จำเป็นต้องมีความสัมพันธ์ลึกซึ้ง
- ความสัมพันธ์แบบมีคู่หลายคน (Polyamory): เปิดรับกับการมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งได้หลายคนในเวลาเดียวกัน
มีความผูกพันกัน ในเรื่องของความรัก เพศสัมพันธ์ แต่ไม่ผูกมัด
- ยังค้นหาแบบที่ชอบอยู่: เปิดกว้างกับความสัมพันธ์ทั้งแบบมีคู่แค่คนเดียวหรือแบบที่ยินยอมว่ามีคู่มากกว่า 1 คน ขึ้นอยู่กับการตกลงกันกับอีกฝ่าย
แม้ว่าคน Gen Z จำนวน 52% จะอยากมีความสัมพันธ์แบบมีคู่คนเดียวมากกว่า แต่กว่า 41% ก็เลือกที่จะเปิดรับ หรือมองหาความสัมพันธ์ที่ยินยอมว่ามีคู่มากกว่า 1 คนด้วยเช่นกัน นอกจากนี้พวกเขายังเลือก ความสัมพันธ์แบบเปิด 36% และความสัมพันธ์แบบมีคู่หลายคนที่มีการแบ่งลำดับชั้น (hierarchical polyamory) ถึง 26% (3)
ฟีเจอร์ใหม่ล่าสุดนี้เปิดตัวต่อจากฟีเจอร์
Dating Goal ที่สมาชิกสามารถบอกได้ว่าต้องการอะไรจากความสัมพันธ์ โดยมีให้เลือกมากมายอย่าง ความสัมพันธ์แบบหาคนรักจริงหวังแต่ง, หาคนคบกันยาว ๆ, หาคนคบสบาย ๆ เผื่อจริงจัง, หาคนคุยแบบสนุก ๆ, หาเพื่อนใหม่ หรือยังคิดอยู่ว่าจะเอาไงดี โดยสมาชิกจำนวน 40% เลือกใช้ฟีเจอร์ Dating Goal ในการส่งสัญญาณเพื่อสื่อถึงความตั้งใจในการเข้ามาใช้แอพว่าพวกเขากำลังมองหาความสัมพันธ์ระยะยาว4 ในขณะที่ 13% มองหาความสัมพันธ์ระยะสั้น5
สมาชิก Tinder มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการออกเดท โดยไม่ยึดติดกับระยะเวลาในการคบหา หรือเป้าหมายที่จะต้องมีครอบครัวในฝันตามแบบมาตรฐานทั่วไป และไม่กดดันตัวเองจากข้อผูกมัดความสัมพันธ์ที่สังคมสร้างขึ้นอีกต่อไป ซึ่งจะเห็นได้จาก
It Starts With A Swipe” แคมเปญระดับโลกของ Tinder ที่ผ่านมา ว่าคนโสดรุ่นใหม่ไม่เสียเวลากับการเล่นเกมการเดทแบบเดิมอีกต่อไป
1) ฟีเจอร์นี้สามารถใช้งานได้ในสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร ออสเตรเลีย บราซิล ฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์ อินเดีย ไต้หวัน อิตาลี สเปน ไทย สวีเดน เยอรมนี เม็กซิโก และแคนาดา
2) การสำรวจสมาชิกที่มีอายุระหว่าง 18-24 ปี ในสหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย ระหว่างวันที่ 18-28 ตุลาคม 2565
3) การศึกษาคนโสดที่มีอายุระหว่าง 18-25 ปี จำนวน 4,000 คน โดยแบ่งเป็น คนในสหรัฐอเมริกา 1,000 คน สหราชอาณาจักร 1,000 ออสเตรเลีย 1,000 คน และแคนาดา 1,000 คน ในวันที่ 21มกราคม - 7 กุมภาพันธ์ 2566 จัดทำโดย OnePoll ในนามของ Tinder
4) การแสดงเปอร์เซ็นต์ของสมาชิกที่เลือก Dating Goal ระหว่าง “หาคนรักจริงหวังแต่ง” กับ “หาคนคบยาวๆ”
5) ข้อมูลบน Tinder ในเดือนกุมภาพันธ์ 2566