วิลเลียม โช (ซ้าย) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร แอลจี อีเลคทรอนิคส์ เยี่ยมชม ‘ท็อปกอล์ฟ เมกาซิตี้’ แลนด์มาร์กสำหรับคนรักกีฬาและความบันเทิงครบวงจรของกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นลูกค้าที่เลือกใช้โซลูชันทางธุรกิจและผลิตภัณฑ์จอแสดงผลเชิงพาณิชย์ของแอลจี โดยมี ทิม โบดา (ขวา) กรรมการผู้จัดการ ท็อปกอล์ฟ ประเทศไทย ให้การต้อนรับ

บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด ให้การต้อนรับ วิลเลียม โช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร แอลจี อีเลคทรอนิคส์ ในโอกาสเดินทางเยือนประเทศไทยเป็นครั้งแรกหลังการระบาดของโควิด-19 โดยเน้นย้ำว่าไทยเป็นหนึ่งในตลาดที่แอลจีให้ความสำคัญในเชิงกลยุทธ์ และเป็นฐานการผลิตที่โดดเด่นของแอลจีในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในโอกาสนี้ยังนายวิลเลียมยังเข้าเยี่ยมชม ‘ท็อปกอล์ฟ เมกาซิตี้’ และ ‘ทรู ดิจิทัล พาร์ค เวสต์’ ซึ่งเป็นลูกค้าองค์กรรายใหญ่ที่เลือกใช้โซลูชันทางธุรกิจ และผลิตภัณฑ์จอแสดงผลเชิงพาณิชย์ของแอลจี เพื่อมอบประสบการณ์เหนือระดับให้กับลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ ซึ่งแอลจีมีแผนเดินหน้ารุกตลาด B2B ด้วยนวัตกรรมระดับโลกอย่างเข้มข้นและต่อเนื่องตลอดปี 2566

วิลเลียม โช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร แอลจี อีเลคทรอนิคส์ กล่าวว่า “ประเทศไทยถือเป็นหนึ่งในเป้าหมายหลักของเราในการนำเสนอผลิตภัณฑ์และโซลูชันต่างๆ เนื่องจากเป็นตลาดที่มีศักยภาพและมีกลุ่มลูกค้าทั้งระดับองค์กรและผู้บริโภคทั่วไปที่พร้อมเปิดรับนวัตกรรมใหม่ๆ ซึ่งแอลจีก็พร้อมตอบโจทย์ความต้องการเหล่านั้นได้อย่างครบถ้วน ด้วยจุดแข็งของเราในด้านการวิจัยและพัฒนาเพื่อคิดค้นนวัตกรรมที่เป็นหัวใจสำคัญในการเพิ่มคุณค่าให้กับสินค้าและโซลูชันของเรา ทำให้แอลจีได้รับความไว้วางใจจากธุรกิจชั้นนำทั่วโลก รวมถึงท็อปกอล์ฟ เมกาซิตี้ และทรู ดิจิทัล พาร์ค เวสต์ ที่ผมได้มีโอกาสมาเยี่ยมชมในครั้งนี้ด้วยเช่นกัน”

ท็อปกอล์ฟ เมกาซิตี้ และ ทรู ดิจิทัล พาร์ค เวสต์ เป็นตัวอย่างธุรกิจผู้ให้บริการด้านความบันเทิงสมัยใหม่ที่เลือกใช้จอแสดงผลเชิงพาณิชย์และโซลูชันจัดการและควบคุมจอแสดงผล ที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยช่วยให้ธุรกิจสามารถจัดการคอนเทนต์ในทัชพอยต์ต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และส่งมอบประสบการณ์ความบันเทิงที่เหนือกว่าให้กับผู้ที่มาใช้บริการ โดยแอลจียังมีสินค้าที่ล้ำสมัยอีกมากมายที่พร้อมนำเสนอให้กับคู่ค้าในหลากหลายกลุ่มธุรกิจ เช่น ธุรกิจความบันเทิง ศูนย์กีฬา ศูนย์การค้า โรงพยาบาล โรงแรม ศูนย์ประชุมและนิทรรศการ เป็นต้น

ซองฮัน จอง กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวเสริมว่า “ในปี 2566 ภาพรวมประเทศไทยมีแนวโน้มที่สดใส และธุรกิจต่างๆ ได้กลับมาเปิดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบอีกครั้ง แอลจีจึงเล็งเห็นศักยภาพของธุรกิจ B2B ที่ยังมีอยู่อีกมาก จึงได้เปิดตัว LG Business Innovation Center แห่งใหม่ที่ทรู ดิจิทัล พาร์ค เวสต์ ซึ่งเป็นศูนย์จัดแสดงนวัตกรรมและโซลูชันสำหรับองค์กรของแอลจีที่ครบครันที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สะท้อนว่าไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่แอลจีให้ความสำคัญ และเราพร้อมที่จะเติมเต็มความต้องการของกลุ่มลูกค้า B2B ด้วยโซลูชันสำหรับองค์กรที่ก้าวล้ำ”

ภายในศูนย์ LG Business Innovation Center ได้จัดแสดงผลิตภัณฑ์จอแสดงผลเชิงพาณิชย์และโซลูชันสำหรับธุรกิจที่ครบครันและหลากหลาย โดยแอลจีมุ่งผลักดันโซลูชันธุรกิจที่ตอบรับเทรนด์การเติบโตของกลุ่มอุตสาหกรรมที่กำลังมาแรง ได้แก่

โซลูชันสำหรับธุรกิจเฮลธ์แคร์ ประกอบด้วยจอแสดงผลสำหรับใช้งานในโรงพยาบาล อาทิ จอมอนิเตอร์สำหรับการผ่าตัด จอสำหรับใช้ในการวินิจฉัยโรค และจอดิจิทัลตรวจจับการเอ็กซเรย์

โซลูชันสำหรับองค์กรและธุรกิจค้าปลีก ได้แก่ จอภาพสำหรับกลุ่มลูกค้าองค์กร เช่น จอ LED แบบออลอินวันขนาดใหญ่ 136 นิ้วสำหรับห้องประชุม และจอภาพในกลุ่ม One Quick Series สำหรับการประชุมออนไลน์แบบครบวงจร รวมทั้งจอภาพเพื่อธุรกิจร้านอาหาร เช่น จอคีออสก์ จอสั่งอาหารแบบสัมผัส และเมนูแบบดิจิทัล

โซลูชันสำหรับธุรกิจการบริการ ประกอบด้วยโซลูชันทีวีสำหรับลูกค้ากลุ่มโรงแรม โรงพยาบาล และที่พักอาศัย

ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์ข้อมูลแอลจี 02-057-5757 และเข้าชมข้อมูลเพิ่มเติม หรือติดตามกิจกรรมต่างๆ จากแอลจี ได้ทาง www.lg.com/th