21 เม.ย. 2566 5,298 1

AIS สานต่อความร่วมมือกับ SDG Lab ม.ธรรมศาสตร์ นำ 5G พัฒนา ‘AIS 5G Farmbot หุ่นยนต์เกษตรอัจฉริยะ’ ต้นแบบการทำเกษตรยั่งยืนด้วยเทคโนโลยีหุ่นยนต์

AIS สานต่อความร่วมมือกับ SDG Lab ม.ธรรมศาสตร์ นำ 5G พัฒนา ‘AIS 5G Farmbot หุ่นยนต์เกษตรอัจฉริยะ’ ต้นแบบการทำเกษตรยั่งยืนด้วยเทคโนโลยีหุ่นยนต์

AIS สานต่อความร่วมมือกับ SDG Lab มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เดินหน้าทดลอง ทดสอบเทคโนโลยี 5G ผสมผสานกับ IoT Robotic พัฒนาต้นแบบการทำเกษตรยั่งยืนด้วย “หุ่นยนต์เกษตรอัจฉริยะ AIS 5G Farmbot ให้เป็นผู้ช่วยจัดการการเกษตรอัตโนมัติครบวงจร ส่งต่อแนวคิดความยั่งยืนที่ช่วยประหยัดพลังงาน และต้นทุนอย่างคุ้มค่า เพิ่มผลผลิตที่มีคุณภาพ พร้อมร่วมดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม ตอกย้ำเป้าหมายการใช้ 5G เป็นโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล


สิษฐ์ วัฒนศัพท์ หัวหน้าหน่วยธุรกิจงานปฏิบัติการและสนับสนุนด้านเทคนิคทั่วประเทศ AIS กล่าวว่า “จากเป้าหมายการเป็นองค์กรโทรคมนาคมอัจฉริยะ หรือ Cognitive Tech-Co เพื่อสนับสนุนให้ทุกภาคอุตสาหกรรมมีความพร้อมในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่กำลังมาถึง  ที่ผ่านมานอกเหนือจากการเดินหน้าพัฒนาขีดความสามารถของโครงข่ายที่มีในมือให้มีความพร้อม ด้วยงบลงทุนในปีนี้กว่า 27,000 - 30,000 ล้านบาท แล้ว ในฐานะผู้ได้รับใบอนุญาตถือครองคลื่นความถี่มากที่สุดและครบทั้งย่านความถี่ต่ำ (Low Band) ย่านความถี่กลาง (Mid Band) และย่านความถี่สูง (High Band) เราจึงไม่เคยหยุดยั้งในการร่วมทำงานกับพาร์ทเนอร์เพื่อสร้างสรรค์นวัตกรรมที่จะช่วยยกระดับความแข็งแกร่งของทุกภาคส่วน เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน รวมไปถึงช่วยดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมที่เป็นประเด็นหลักของโลกในปัจจุบัน” 


“ดังนั้น กว่า 3 ปีที่ผ่านมา จากความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ในการพัฒนาศูนย์ปฏิบัติการเพื่อความยั่งยืน SDG Lab by Thammasat & AIS แห่งแรกในเอเชีย ด้วยเป้าหมายที่จะทำให้เป็นพื้นที่ของการนำ 5มาพัฒนาต้นแบบของภาคส่วนสำคัญๆ อาทิ ระบบขนส่งอัจฉริยะระบบเกษตรอัจฉริยะ ที่มุ่งเน้นทั้งเรื่องการเสรประสิทธิภาพ และการดูแลสิ่งแวดล้อมในเวลาเดียวกัน อันจะเป็นการส่งต่อแรงบันดาลใจ และขับเคลื่อนสู่การเป็น Smart City ที่ยั่งยืนอย่างสมบูรณ์แบบ โดยที่ผ่านมาได้ติดตั้งเครือข่าย 5G และจัดให้เป็น 5G LIVE Testbed พร้อมให้เป็นพื้นที่ทดลอง ทดสอบบนเครือข่ายและสภาพแวดล้อมจริง ดังเช่น การทดลอง ทดสอบ รถโดยสารพลังงานไฟฟ้าไร้คนขับที่ใช้5G สั่งการแบบอัตโนมัติ 100% , การทดสอบนำ 5G IoT ไปเชื่อมต่อกับระบบควบคุมดแลการเพาะปลูกแบบอัตโนมัติ รวมไปถึงการติดตั้งสถานีวัดสภาพอากาศและวัดปริมาณฝุ่น PM 2.5 ไว้บนแปลงเกษตร Rooftop อาคารอุทยานการเรียนรู้ป๋วย 100 ปี พร้อมการทดลองทดสอบ 5G Smart Farm เพื่อบริหารจัดการน้ำในภาคการเกษตรให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น”



“ล่าสุด เพื่อเดินหน้าสร้างนวัตกรรมใหม่ๆที่จะเป็นประโยชน์ต่อภาคอุตสาหกรรมการเกษตรของประเทศอย่างต่อเนื่อง เราจึงนำ AIS 5G และ IoT Robotic มาทดลองทดสอบด้วยรูปแบบของ หุ่นยนต์เกษตรอัจฉริยะ หรือ AIS 5G Farmbot เพื่อเป็นต้นแบบการยกระดับการทำงานของ Smart Farm ไปสู่การเกษตรอัจฉริยะแบบยั่งยืนครบวงจร อันจะเป็นการรองรับความต้องการของเกษตรกรที่ปลูกพืชผักสวนครัวที่เป็นผักเศรฐกิจให้สามารถยกระดับและขยายกิจการได้อย่างก้าวกระโดด พร้อมๆกับดูแลรักษา และใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างคุ้มค่า ซึ่งจะเท่ากับเป็นการดูแลสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนนั่นเอง”



หุ่นยนต์เกษตรอัจฉริยะหรือ AIS 5G Farmbot คือ ผู้ช่วยในการบริหารจัดการการเกษตร โดยใช้วิธี Drag & Drop ตั้งแต่เริ่มต้นการเพาะปลูกจนถึงการเก็บเกี่ยวผลผลิต ผ่านเครือข่าย AIS 5G ที่มีความเร็ว แรงและความหน่วงต่ำ ซึ่งจะทำให้สามารถเชื่อมต่อ บริหาร สั่งการ มอนิเตอร์ ได้แบบ Real Time , แม่นยำ ในจังหวะและเวลา ตลอดจนสภาพอากาศที่เหมาะสม  ทำให้เกษตรกรสามารถบริหารจัดการวางแผนการเพาะปลูกได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดการใช้แรงงานทรัพยากร และเพิ่มผลผลิตที่มีคุณภาพได้อย่างดี โดยหุ่นยนตเกษตรอัจฉริยะมีฟังก์ชันในการทำงาน ดังนี้

• หุ่นยนต์ผู้ช่วยปลูก ใช้ 5G เชื่อมต่อกับ IoT Robotic ควบคุมชุดแขนกลอัตโนมัติให้หยิบเมล็ดพันธุ์ที่มีขนาดไม่เกิน 1.4 มิลลิเมตร ไปเพาะปลูกบนพื้นที่ที่กำหนดไว้โดยอัตโนมัติ 
• หุ่นยนต์ผู้ช่วยน้ำ ที่สามารถวางแผนการรดน้ำผ่าน 5G ด้วยการตั้งค่า กำหนดเวลาและกำหนดจุดรดน้ำเฉพาะบริเวณเพาะปลูกพืชเท่านั้น ถือการบริหารจัดการน้ำอย่างคุ้มค่า
• หุ่นยนต์ผู้ช่วยกำจัดวัชพืช เมื่อตรวจพบวัชพืชในแปลงปลูก เกษตรกรสามารถระบุตำแหน่งของวัชพืช และกำหนดให้หุ่นยนต์กำจัดวัชพืชได้โดยอัตโนมัติผ่าน 5G
• หุ่นยนต์ผู้ช่วยวัดความชื้นดิน ด้วยระบบสมองกลและแขนกลที่ติดตั้งชุดวัดความชื้นในดิน ทำให้สามารถวัดความชื้นในดินและสั่ง หรือ ระงับการรดน้ำผ่าน 5G ได้ 
• หุ่นยนต์ผู้ช่วยติดตามการเจริญเติบโตด้วยกล้อง USB Camera ช่วยให้เกษตรกรสามารถติดตามแปลงเพาะปลูกผ่านกล้องวิดีโอแบบเรียลไทม์ที่ติดตั้งไว้บนแขนกล ผ่าน 5G ได้ตลอดเวลา



ผศ.ดร.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล ประธานคณะกรรมการบริหารอุทยานการเรียนรู้ป๋วย 100 ปี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวเสริมว่า “SDG Lab by Thammasat & AIS หรือแล็บปฏิบัติการความยั่งยืนเป็นความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์กับเอไอเอส ซึ่งเปิดเป็นที่แรกในเอเชีย โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างพื้นที่ปฏิบัติการและทดลองโครงการด้านความยั่งยืนต่างๆ โดยใช้เทคโนโลยี 5มาดำเนินการ อาทิ การบริหารจัดการพลังงาน การจัดการขยะรวมถึงขยะอิเล็กทรอนิกส และการใช้หุ่นยนต์และเอไอเทคโนโลยีลดการทำงานของคน เช่น ยานยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ และการใช้หุ่นยนต์ทางการเกษตรหรือ Farmbot ซึ่งเป็นโครงการล่าสุดที่กำลังดำเนินการในขณะนี้ เพื่อให้เกษตรกรทำงานหนักน้อยลง ลดเวลา ลดปริมาณน้ำรวมถึงทรัพยากรอื่นๆ โดยมีผลผลิตที่มีคุณภาพมากขึ้น อันจะพัฒนาไปสู่การเกษตรอย่างยั่งยืนของประเทศต่อไป

สิษฐ์  กล่าวเพิ่มเติมว่า “หุ่นยนต์เกษตรอัจฉริยะ หรือ AIS 5Farmbot ถือเป็นต้นแบบการทดลองการเกษตรอัจฉริยะครบวงจรอย่างยั่งยืนบนพื้นที่ของ SDG Lab จะเป็นอีกหนึ่ง use case ด้านการเกษตรที่จะเป็นแหล่งเรียนรู้ให้แก่กลุ่มที่สนใจ เกษตรกรรุ่นใหม่ได้มาทดลอง ทดสอบหาความรู้เพื่อนำไปพัฒนาและต่อยอดในการทำงาน รวมทั้งเราจะนำผลการศึกษาครั้งนี้มาประยุกต์ใช้ ก่อนเตรียมให้บริการใน Smart Farm Solution ของ AIS ต่อไปในอนาคต



เกี่ยวกับ AIS

บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ AIS ผู้ให้บริการดิจิทัลบนโครงข่ายอัจฉริยะ 5G ที่มีคลื่นความถี่ในการให้บริการมากที่สุดรวม 1460 MHz (นับรวมคลื่นความถี่ที่ร่วมมือกับพันธมิตรรวมถึง NT ซึ่งอยู่ระหว่างการอนุมัติจาก กสทช.) และมีจำนวนผู้ใช้งานสุดกว่า 46 ล้านเลขหมาย (ณ ธันวาคม 2565) พร้อมขับเคลื่อนประเทศไทยด้วยเทคโนโลยี 5G ที่ครบ 77 จังหวัดแล้วเป็นรายแรกผ่าน สายธุรกิจ ได้แก่ โทรศัพท์เคลื่อนที่อินเทอร์เน็ตบ้านความเร็วสูงภายใต้แบรนด์ AIS Fibre และบริการดิจิทัล ด้าน ได้แก่ วิดีโอ คลาวด์ ดิจิทัลเพย์เมนท์ อินเทอร์เน็ตในทุกสิ่ง (IoT) และบริการร่วมกับพาร์ทเนอร์ตลอดจนขยายสู่กลุ่มธุรกิจใหม่ อาทิ AIS eSports, AIS Insurance Service ทั้งหมดนี้เพื่อเดินหน้าตามวิสัยทัศน์การเป็นองค์กรโทรคมนาคมอัจฉริยะ หรือ Cognitive Tech-Co ที่พร้อมนำศักยภาพเข้าสนับสนุนความแข็งแกร่งด้านโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลของประเทศขยายขีดความสามารถของภาคอุตสาหกรรม และยกระดับ คุณภาพชีวิตของคนไทยไปพร้อมกัน พบกับเราได้ที่ www.ais.th