วันนี้ พาโล อัลโต้ เน็ตเวิร์กส์ ผู้นำระดับโลกด้านระบบรักษาความปลอดภัยไซเบอร์ เผยแพร่รายงานภัยคุกคามระบบคลาวด์จาก Unit 42 ฉบับที่ 7 โดยอ้างอิงจากข้อมูลที่เก็บรวบรวมในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา และให้ภาพรวมของสถานการณ์ที่เกิดจากแนวปฏิบัติที่ไม่ถูกต้องซึ่งพบได้บ่อยจนทำให้เกิดเป็นช่องโหว่ในระบบที่คนร้ายสามารถใช้โจมตีได้ในที่สุด
Unit 42 สำรวจองค์กร 1,300 แห่ง เพื่อจัดทำเป็นรายงานฉบับนี้อีกทั้งยังได้วิเคราะห์เวิร์กโหลดในบัญชี/บริการ/โปรเจ็กต์ด้านคลาวด์อีกกว่า 210,000 รายการบนผู้ให้บริการระบบคลาวด์รายหลักๆ ทั้งหมด อัตราการย้ายระบบขึ้นคลาวด์ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง จาก 370,000 ล้านดอลลาร์ในปี 2564 คาดว่าจะแตะระดับ 830,000 ล้านดอลลาร์ในปี 2568 ขณะที่คนร้ายก็ตั้งใจค้นหาช่องโหว่ที่พบบ่อยบนระบบคลาวด์ เช่น การกำหนดค่าระบบที่ไม่ถูกต้อง ข้อมูลการเข้าสู่ระบบที่ปลอดภัยไม่เพียงพอ ขาดระบบการยืนยันตัวตน ช่องโหว่ที่ไม่ได้ปิดหรือแก้ไข และซอฟต์แวร์โอเพนซอร์สที่แฝงมาด้วยซอฟต์แวร์อันตราย
ข้อมูลสำคัญจากรายงานฉบับนี้ประกอบด้วย:
ดร. ธัชพล โปษยานนท์ ผู้อำนวยการประจำประเทศไทยและอินโดจีนของพาโล อัลโต้ เน็ตเวิร์กส์ กล่าวว่า
"จากข้อมูลของ Gartner ระบุว่า การใช้จ่ายด้านบริการระบบคลาวด์ในประเทศไทยคาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 40,800 ล้านในปี 2565 คิดเป็นอัตราการเติบโตปีต่อปี 36.6% ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการใช้งานคลาวด์ในระดับสูงโดยเฉพาะเพื่อการเปลี่ยนแปลงสู่ดิจิทัล รายงานภัยคุกคามระบบคลาวด์แสดงให้เห็นว่า องค์กรต่างๆ ใช้ระยะเวลาจัดการแก้ไขปัญหาความปลอดภัยค่อนข้างนาน ขณะที่คนร้ายใช้เวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงในการสร้างความสูญเสีย ดังนั้นองค์กรทุกแห่งควรมีแผนดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่องและแผนรับมือภัยพิบัติ (BC/DR) ที่ผสานรวมกระบวนการกู้คืนข้อมูลสำรองเอาไว้ให้พร้อมรับมือกับภัยคุกคามเหล่านี้"
โปรดศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้จากบล็อก หรืออ่านรายงานฉบับเต็มได้ที่นี่