รหัสผ่านที่หละหลวมเป็นปัจจัยที่ก่อให้เกิดภัยคุกคามอันใหญ่หลวง และเป็นหนึ่งในจุดเปราะบางสำคัญที่นำไปสู่ปัญหาการละเมิดข้อมูล การหลอกลวงด้วยฟิชชิง และการโจมตีด้วยมัลแวร์เรียกค่าไถ่
การเริ่มต้นใช้รหัสผ่านในยุค 1960 ทำให้โลกดิจิทัลเปลี่ยนแปลงไป ตอนนี้รหัสผ่านได้กลายเป็นวิธีปฏิบัติในชีวิตประจำวันที่ใช้กันจนคุ้นชินโดยไม่ต้องท่องจำ ตั้งแต่ชื่อสัตว์เลี้ยงตัวแรกไปจนถึงชื่อจังหวัดเกิดของเรา วันนี้รหัสผ่านเป็นปราการหลักที่คอยปกป้องความเป็นส่วนตัว ข้อมูลส่วนบุคคล ตลอดจนเรื่องธนาคารและการเงิน
แม้จะทราบเช่นนั้น แต่คนส่วนใหญ่ก็ยังมองว่ารหัสผ่านเป็นมาตรการที่ปลอดภัยเพียงพอ ทั้งที่จริงเป็นสิ่งที่ไม่ปลอดภัยเพราะคาดเดาได้ง่ายก็ตาม เพราะชื่อสุนัข ชื่อคู่สมรส วันเกิด หรือถ้อยคำต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับชีวิตของคุณซึ่งพบเห็นได้บนโพรไฟล์โซเชียลมีเดีย ล้วนเป็นสิ่งที่ผู้โจมตีสืบเสาะได้ง่ายเช่นกัน
จริงที่ว่าหน้าที่ในการปกป้องคุ้มครองข้อมูลตกเป็นภาระของบริษัทที่รวบรวมและจัดเก็บข้อมูลดังกล่าว แต่ผู้บริโภคก็ทำอะไรได้หลายอย่างเพื่อปกป้องข้อมูลการเข้าสู่ระบบของตนเองเช่นกัน ดังนั้น วันรหัสผ่านโลก จึงถือกำเนิดขึ้นเพื่อสร้างความตระหนักและเชิญชวนบุคคลทั่วไปตลอดจนองค์กรต่างๆ ให้เห็นถึงความสำคัญของรหัสผ่านที่รัดกุม เพื่อดำเนินมาตรการปรับปรุงความปลอดภัยของรหัสผ่านให้ดียิ่งขึ้น ภายใต้สถานการณ์ที่การโจมตีทางไซเบอร์และปัญหาการละเมิดข้อมูลกำลังลุกลาม การใช้รหัสผ่านที่รัดกุมและไม่ซ้ำกันจึงมีความสำคัญอย่างมากเพื่อช่วยปกป้องบัญชีออนไลน์และข้อมูลส่วนบุคคลของเรา
ข้อมูลจากงานวิจัยระบุว่า ผู้ใช้ราว 91% ทราบถึงความเสี่ยงด้านความปลอดภัยเมื่อใช้รหัสผ่านซ้ำกันในหลายบัญชี แต่ก็ยังมีกว่า 66% ที่ยังคงใช้รหัสผ่านซ้ำกันอยู่ดี ซึ่งสตีเวน เชอร์แมน รองประธานประจำภูมิภาคอาเซียนของพาโล อัลโต้ เน็ตเวิร์กส์ ได้เสนอแนวทางง่ายๆ ในการทำให้รหัสผ่านกลายเป็นปราการหลักที่จะช่วยคุ้มครองชีวิตส่วนตัวและการทำงานของคุณอย่างมีประสิทธิภาพ ดังนี้
มาตรการเหล่านี้จะช่วยยกระดับความปลอดภัยของรหัสผ่านแก่ผู้ใช้ทั่วไปและองค์กร ตลอดจนช่วยปกป้องบัญชีออนไลน์และข้อมูลส่วนตัวได้อย่างดีที่สุด