11 พ.ค. 2566 1,027 1

SAS ทุ่มงบพัฒนาโซลูชันอุตสาหกรรมที่ขับเคลื่อนด้วย AI กว่า 1 พันล้านดอลลาร์

SAS ทุ่มงบพัฒนาโซลูชันอุตสาหกรรมที่ขับเคลื่อนด้วย AI กว่า 1 พันล้านดอลลาร์

SAS ผู้นำด้านระบบวิเคราะห์ทุ่มทุน 1 พันล้านดอลลาร์ในตลอดช่วงสามปีข้างหน้าเพื่อพัฒนาโซลูชันการวิเคราะห์ขั้นสูงเพิ่มเติม โดยมุ่งเป้าไปที่ความต้องการเฉพาะของแต่ละอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นในภาคการธนาคาร ภาครัฐ การประกันภัย การดูแลสุขภาพ การค้าปลีก การผลิต พลังงาน รวมถึงภาคส่วนอื่นๆ SAS ก็พร้อมจัดหาโซลูชันที่ปรับให้เหมาะกับความท้าทายของแต่อุตสาหกรรมซึ่ง SAS ได้ทำมาอย่างต่อเนื่องมายาวนานหลายทศวรรษแล้ว ความมุ่งมั่นในการพัฒนาอุตสาหกรรมนี้ รวมถึงระยะเวลาการส่งมอบบริการของแต่ละโซลูชันจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สร้างความแตกต่างให้แก่ SAS

โซลูชันด้านอุตสาหกรรมทุกประเภทจะทำงานบน SAS® Viya® ซึ่งเป็นแพลตฟอร์ม AI และแพลตฟอร์มระบบวิเคราะห์ขนาดใหญ่ที่ทำงานแบบคู่ขนานบนคลาวด์ของ SAS

Jim Goodnight ประธานเจ้าหน้าที่บริหารแห่ง SAS กล่าวว่า “ธุรกิจกำลังเผชิญหน้ากับความท้าทายหลากรูปแบบ ตั้งแต่ภัยคุกคามเรื่องภาวะเศรษฐกิจถดถอยและห่วงโซ่อุปทานที่ตึงเครียด ไปจนถึงการขาดแคลนแรงงานและการเปลี่ยนแปลงด้านกฎระเบียบ แต่ด้วยข้อมูลเชิงลึกจากระบบวิเคราะห์ด้านอุตสาหกรรม องค์กรที่มีความยืดหยุ่นสามารถค้นพบโอกาสจากความท้าทายทั้งหลายที่กล่าวมานี้ได้”

“การที่ SAS ลงทุนครั้งนี้จะช่วยสนับสนุนบริษัทที่ใช้ AI, การเรียนรู้ของเครื่อง และระบบวิเคราะห์ขั้นสูงเพื่อรับมือกับการฉ้อโกง จัดการความเสี่ยง ให้บริการลูกค้าและประชาชนได้ดียิ่งขึ้น และอื่นๆ อีกมากมาย เรายังคงมุ่งมั่นสร้างสรรค์นวัตกรรมอย่างไม่ลดละ พร้อมนำเสนอระบบวิเคราะห์ที่ดีที่สุดในตลาด”

นวัตกรรม R&D + ความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม = ระบบวิเคราะห์สำหรับกลุ่มเฉพาะ

เราจะลงทุนมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ในเรื่องการวิจัยและพัฒนาโดยตรง ทีมงานสายธุรกิจด้านอุตสาหกรรม และการพัฒนาด้านการตลาดสำหรับอุตสาหกรรม โดยจะให้ทุนแก่งานสร้างสรรค์ของนักวิทยาศาสตร์ข้อมูล นักสถิติ และนักพัฒนาซอฟต์แวร์ของ SAS ที่ทำงานร่วมกับที่ปรึกษา วิศวกรระบบ และนักการตลาดที่มีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมเฉพาะด้าน

การลงทุนยังเป็นผลสืบเนื่องมาจากกระแสของการเข้าถึงระบบวิเคราะห์ข้อมูลอย่างเท่าเทียมในองค์กร องค์กร และสังคมจะต้องได้รับประโยชน์จากการกระจายอำนาจของระบบวิเคราะห์ขั้นสูงให้ไปอยู่ในมือของผู้คนที่มีประสบการณ์และบทบาทงานที่หลากหลายจำนวนมากขึ้น SAS จึงเรียกวิธีการดังกล่าวว่า ระบบวิเคราะห์สำหรับทุกคนและทุกที่ 

ในขณะที่องค์กรนำเทคโนโลยี AI, การเรียนรู้ของเครื่อง คอมพิวเตอร์วิทัศน์ และระบบวิเคราะห์สำหรับอินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่งมาประยุกต์ใช้เพื่อสกัดเอาข้อมูลเชิงลึกอันมีค่าออกมา พนักงานทุกระดับทักษะสามารถมีส่วนร่วมในกระบวนการวิเคราะห์ด้วยรูปแบบ Low-Code หรือ No-Code ได้เหมือนกับโซลูชันที่ทำงานบนแพลตฟอร์ม SAS Viya

นักวิทยาศาสตร์ข้อมูลและนักสถิติก็สามารถใช้โซลูชันอุตสาหกรรมของ SAS ได้ ซึ่งจะได้ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี AI, การเรียนรู้ของเครื่อง และระบบวิเคราะห์ที่มีประสิทธิภาพรูปแบบอื่นๆ และที่สำคัญ นักวิเคราะห์ธุรกิจสามารถตรวจจับและป้องกันการฉ้อโกงได้ดีขึ้น นักวางผังเมืองสามารถยกระดับสุขภาพและความปลอดภัยของประชาชน บุคลากรทางการแพทย์สามารถพัฒนาการดูแลผู้ป่วย และพนักงานระดับแนวหน้าสามารถเพิ่มประสิทธิภาพสายการผลิตได้

โซลูชันอุตสาหกรรม SAS รุ่นล่าสุด

SAS ได้นำเสนอโซลูชันเฉพาะอุตสาหกรรมที่หลากหลายมาโดยตลอด และจะมีโซลูชันเพิ่มขึ้นอีกมากมายจากการลงทุนอย่างต่อเนื่อง โดย SAS จะพัฒนาโซลูชันใหม่ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการด้านอื่นๆ

SAS ขอนำเสนอตัวอย่างล่าสุดของความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมดังต่อไปนี้ 

การเผชิญหน้ากับความผันผวนและยกระดับประสบการณ์ลูกค้าในบริการทางการเงิน

คลื่นลมทางเศรษฐกิจในปีที่แล้วทำให้ตลาดทั่วโลกปั่นป่วน ซึ่งเป็นช่วงที่กำลังพลิกฟื้นหลังจากการระบาดครั้งใหญ่อีกครั้งและต้องเผชิญกับภูมิทัศน์ทางธุรกิจที่มีความเสี่ยงมากขึ้น ดังนั้น เพื่อช่วยให้ลูกค้าธนาคารและประกันภัยสามารถรับมือกับความท้าทายที่รออยู่ข้างหน้าได้ SAS จึงได้เข้าซื้อกิจการของ Kamakura Corp. ซึ่งเป็นบริษัทด้านความเสี่ยงทางการเงินที่เลื่องชื่อด้านความเข้มงวด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการบริหารจัดการงบดุลแบบผสานรวม

การเข้าซื้อกิจการครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของ SAS ทำให้เรามีบางบริษัทบริหารจัดการความเสี่ยงเชิงปริมาณที่เลื่องชื่อที่สุดเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของ SAS ส่งผลให้ SAS สามารถเร่งพัฒนาชุดโซลูชันด้านความเสี่ยงแบบผสานรวม มากกว่านั้น การบริหารสินทรัพย์และหนี้สินของ SAS ก็ได้รับการปรับปรุงใหม่สำหรับการใช้งานบน SAS Viya ซึ่งช่วยให้ธนาคารสามารถคาดการณ์และลดความเสี่ยงด้านสภาพคล่อง รวมถึงงบดุลที่ก่อให้เกิดความล้มเหลวได้เมื่อไม่นานมานี้อีกด้วย

SAS ยังให้ความสำคัญกับนวัตกรรมเพื่อการตัดสินใจระดับองค์กร โดยการเชื่อมต่อฟังก์ชันที่แยกส่วนเข้าไว้ด้วยกัน (เช่น การออนบอร์ดดิ้ง ความเสี่ยงด้านเครดิต การตรวจจับการฉ้อโกง การตลาด เป็นต้น) บนสถาปัตยกรรมที่ขับเคลื่อนด้วย AI แบบรวมศูนย์ รวมถึงการใช้ข้อมูลและระบบวิเคราะห์ร่วมกันจะทำให้บริษัทการเงินลดความซับซ้อนในการดำเนินงานพร้อมทั้งเอื้อให้ตัดสินใจได้รวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้นซึ่งจะช่วยยกระดับประสบการณ์ของลูกค้าได้

ปกป้องเงินของผู้เสียภาษี

ทุกปี รัฐบาลทั่วโลกสูญเสียเงินจำนวนมหาศาลเนื่องจากการเลี่ยงภาษี ทำให้ความสามารถในการให้บริการที่จำเป็นแก่ประชาชนลดน้อยไป

ด้วยเหตุนี้ SAS Tax Compliance จะช่วยให้รัฐบาลสามารถปกป้องแหล่งรายได้โดยการใช้ระบบวิเคราะห์ขั้นสูงกับข้อมูลภาษีจำนวนมหาศาลเพื่อตรวจสอบและตรวจจับกรณีหากไม่ปฏิบัติตามและการฉ้อโกงได้โดยอัตโนมัติ

หน่วยงานด้านภาษีของรัฐบาลจะตรวจจับการฉ้อโกงที่อาจเกิดขึ้นได้ตั้งแต่เนิ่นๆ ได้จำนวนมากขึ้น อีกทั้งยังสามารถเปิดโปงแผนการฉ้อฉลภาษีรูปแบบใหม่ๆ รวมทั้งเร่งการตรวจสอบและกำจัดคดีเก่าๆ ออกไปจากระบบได้อีก 

การกำหนดค่าประกันภัยแบบไดนามิกในตลาดที่กำลังประสบปัญหา

สถาบันข้อมูลประกันภัยยกให้ปี 2565 เป็นปีที่ย่ำแย่ที่สุดในรอบกว่าทศวรรษสำหรับการประกันภัยทรัพย์สินและวินาศภัย จากภัยพิบัติ เช่น พายุเฮอริเคนเอียน ซึ่งอุตสาหกรรมทรัพย์สินและวินาศภัยของสหรัฐฯ เพียงอย่างเดียวก็ขาดทุนจากการรับประกันภัยไปถึง 26.5 พันล้านดอลลาร์จากการวิจัยของ AM Best

เพื่อให้อยู่รอดท่ามกลางความเสี่ยงด้านสภาพอากาศ บริษัทประกันต้องเพิ่มเบี้ยประกันเพื่อพยุงสภาพคล่อง ซึ่งได้สร้างความไม่พอใจให้ลูกค้าในตลาดที่ไม่มีความมั่นคงอยู่แล้ว การกำหนดในราคาระดับพรีเมียมที่รวดเร็ว แม่นยำ และเป็นกลางถือว่ามีความสำคัญ ทำให้บริษัทยังมีสภาพคล่องและสามารถแข่งขันได้ ในขณะเดียวกัน ก็ช่วยให้ผู้บริโภครู้สึกสบายใจขึ้นได้

SAS Dynamic Actuarial Modeling ช่วยให้บริษัทประกันภัยเตรียมข้อมูลให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด รวมถึงมีความสามารถในการสร้างแบบจำลองที่ยืดหยุ่นสูงซึ่งใช้การเรียนรู้ของเครื่องเข้ามาช่วย บริษัทประกันจึงสามารถเสนอราคาที่เป็นธรรมให้แก่ลูกค้าในสภาพตลาดที่กำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วและประสบปัญหาอยู่ได้ 

เร่งพลิกโฉมด้านสุขภาพด้วยดิจิทัลและยกระดับการรักษา

ตั้งแต่การพัฒนารูปแบบวิธีการช่วยชีวิตไปจนถึงการเพิ่มประสิทธิภาพการรักษาและประสบการณ์ของผู้ป่วย SAS มีความเชี่ยวชาญระดับแนวหน้าในอุตสาหกรรมที่จะช่วยพัฒนาการดูแลสุขภาพให้ดีขึ้นกว่าเดิม 

เราจึงขอนำเสนอ SAS Health แอปพลิเคชันเฉพาะอุตสาหกรรมและโซลูชัน AI ที่ครอบคลุมด้านสุขภาพของประชาชน การดำเนินงาน และการเงิน ช่วยให้องค์กรด้านการดูแลสุขภาพสามารถให้บริการการดูแลคุณภาพสูงที่ปลอดภัยและคุ้มค่ามากขึ้น ไม่ว่าจะเปลี่ยนข้อมูลประชากรของผู้ป่วยเป็นกลุ่มที่พร้อมวิเคราะห์ หรือจะเป็นการแจ้งรูปแบบการดูแลและการชำระเงินตามมูลค่าก็ตาม อินเทอร์เฟซแบบ Point-and-Click ของ SAS ที่ใช้งานง่ายจะเอื้อให้แพทย์และนักวิเคราะห์ธุรกิจพัฒนาการเปลี่ยนแปลงด้านการดูแลสุขภาพ รวมถึงยังแสดงภาพแนวโน้มที่ซ่อนอยู่ในข้อมูลนั้นๆ ได้

SAS ยังสนับสนุนการวิจัยทางคลินิกที่นำไปสู่การบำบัดและการรักษาวิธีใหม่ๆ เช่น การทดลองทางคลินิกประมาณ 90% ไม่เป็นไปตามกำหนดเวลาการลงทะเบียน SAS Clinical Enrollment Simulation ใช้ระบบวิเคราะห์ประสิทธิภาพสูงเพื่อแจ้งการวางแผนการลงทะเบียน ซึ่งช่วยไม่ให้เกิดความล่าช้าที่ก่อให้ผลเสียร้ายแรงซึ่งมักเป็นผลมาจากการการลงทะเบียนไม่ทัน

คาดการณ์และวางแผนความต้องการสำหรับการค้าปลีกและสินค้าอุปโภคบริโภค

ผู้ค้าปลีกและผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคต้องการการวางแผนความต้องการที่แม่นยำมากกว่าที่เคย และด้วย SAS Intelligent Planning Cloud ที่ขับเคลื่อนด้วย AI บริษัทจะสามารถคาดการณ์และตอบสนองความต้องการของผู้ซื้อและรับมือกับการจัดส่งที่หยุดชะงักลงได้ดีขึ้น

โซลูชันแบบ Software-as-a-Service นี้ทำงานโดยอัตโนมัติแบบ End-to-End โดยระบบวิเคราะห์ SAS Viya และการเรียนรู้ของเครื่อง และเปิดให้ใช้งานแล้วบน SAS Cloud ผู้ค้าปลีกและบริษัทสินค้าอุปโภคบริโภคสามารถเปลี่ยนข้อมูลให้มีมูลค่าได้อย่างรวดเร็ว

ยกระดับกริดไฟฟ้าให้มีความน่าเชื่อถือ

ปริมาณไฟฟ้าดับเกือบหนึ่งในสามเกิดจากอุปกรณ์ขัดข้องซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูงในการซ่อมแซม เพิ่มความเสี่ยงให้กับพนักงานในการซ่อมแซม และทำให้ลูกค้าที่อยู่ในบ้าน โรงเรียน โรงงาน และอื่นๆ ไม่มีไฟฟ้าใช้

SAS Grid Guardian AI วิเคราะห์ข้อมูลที่ส่งมาจากเซ็นเซอร์อินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่งที่ติดตั้งกับยานพาหนะที่ออกไปปฏิบัติงาน เช่น รถบรรทุกขยะ เซ็นเซอร์เหล่านี้ (ของ Exacter ซึ่งเป็นพาร์ทเนอร์ของ SAS) จะอ่านข้อมูลเกี่ยวกับการปล่อยคลื่นความถี่วิทยุจากสายส่งสัญญาณ จากนั้นระบบ AI ของ SAS การเรียนรู้ของเครื่อง และระบบวิเคราะห์แบบสตรีมมิ่งจะเริ่มวิเคราะห์ข้อมูลนี้

ผลลัพธ์คือบริษัทสาธารณูปโภคจะสามารถทำความเข้าใจและคาดการณ์การขัดข้องของอุปกรณ์ได้ดีขึ้นก่อนจะเกิดเหตุ อีกทั้งยังสามารถจัดลำดับความสำคัญของตารางการบำรุงรักษาเพื่อลดการหยุดชะงักของการให้บริการและการบาดเจ็บของพนักงาน พร้อมไปกับช่วยยกระดับความน่าเชื่อถือ

ส่งเสริมการตลาดที่มีความรับผิดชอบและเพิ่มผลกำไร

นักการตลาดกำลังเผชิญกับแรงกดดันอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนในด้านการรับผิดชอบและความโปร่งใสในการใช้เทคโนโลยีข้อมูลจากลูกค้า อีกทั้งยังต้องเป็นผู้ดูแลแบรนด์ที่ดีควบคู่กันไปด้วย นักการตลาดในปัจจุบันจึงต้องรับผิดชอบในความคาดหวังของลูกค้าเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวที่กำลังเปลี่ยนแปลงไป โดยยังต้องเปิดรับเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นใหม่ๆ เช่น เจเนอเรทีฟ AI และต้องสามารถวัดมูลค่าของโปรแกรมการตลาดในทันทีที่เห็น

เงื่อนไขเหล่านี้ทำให้การทำตลาดต้องมีความรับผิดชอบ และ SAS Customer Intelligence 360 ก็เอื้อให้แบรนด์ใช้ข้อมูลลูกค้า เทคโนโลยีการตลาด และทรัพยากรอย่างมีความรับผิดชอบ ด้วยระบบวิเคราะห์ที่มีประสิทธิภาพ แบรนด์จึงสามารถสร้างความภักดีและความไว้วางใจ ปฏิบัติตามกฎหมายและจริยธรรม เพิ่มประสิทธิภาพสินทรัพย์ทางการตลาด และเพิ่มผลกำไรของธุรกิจไปได้พร้อมกัน

พาร์ทเนอร์มีบทบาทสำคัญ

การที่ SAS มีเครือข่ายพันธมิตรที่กว้างขวางและมีความสัมพันธ์อันดีเลิศจะช่วยในการพัฒนาและเปิดตัวโซลูชันเฉพาะอุตสาหกรรมใหม่ๆ ได้

คุณ Alvaro Celis รองประธานกรรมการฝ่ายการขาย ISV ด้านโซลูชันของ Microsoft กล่าวว่า “SAS เป็นผู้นำในการสร้างโซลูชันอุตสาหกรรมอันทรงพลังมาอย่างยาวนานหลายทศวรรษ รวมถึงการใช้ SAS Viya เพื่อย้ายโซลูชันต่างๆ ไปยังระบบคลาวด์เป็นหนึ่งในเหตุผลหลักที่ลูกค้าให้ความสำคัญกับการร่วมมือกับเรา SAS และ Microsoft ได้ร่วมสร้างความแตกต่างที่สำคัญสำหรับลูกค้าของพวกเรา ด้วยการปรับแต่ง AI และการวิเคราะห์ขั้นสูงให้ตรงกับความต้องการของธนาคาร รัฐบาล ประกันภัย การดูแลสุขภาพ และอุตสาหกรรมอื่นๆ ได้อย่างเหมาะสม”

ตัวอย่างของความร่วมมือรูปแบบนี้คือ Azure ระบบคอมพิวติ้งสำหรับข้อมูลที่เป็นความลับ อันเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่ Microsoft, SAS และ AMD ผู้ผลิตชิป ร่วมกันจัดทำขึ้น ได้รับการออกแบบมาเพื่อยกระดับการปกป้องข้อมูลที่มีความละเอียดอ่อนสูงในขณะที่กำลังใช้งานในหน่วยความจำ เทคโนโลยีนี้สามารถเพิ่มความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของข้อมูลได้อย่างมีนัยสำคัญสำหรับลูกค้าในอุตสาหกรรมที่ต้องควบคุมอย่างเข้มงวด เช่น บริการทางการเงิน การดูแลสุขภาพ และรัฐบาล เป็นต้น

ในเร็วๆ นี้ SAS Viya บน Microsoft Azure จะสามารถผสานรวมความสามารถด้านคอมพิวติ้งสำหรับข้อมูลที่เป็นความลับของ Azure ซึ่งใช้หน่วยประมวลผล AMD EPYC™ พร้อมเทคโนโลยี SEV-SNP ทำให้ลูกค้า SAS Viya มีแพลตฟอร์ม AI และคลาวด์คอมพิวติ้งที่ปลอดภัยยิ่งขึ้น ลดความเสี่ยงในการละเมิดกฎระเบียบ ทั้งยังเสริมสร้างการปฏิบัติตามกฎระเบียบ ในขณะเดียวกันลูกค้าก็สามารถเข้าถึงกลุ่มข้อมูลขนาดใหญ่ขึ้นเพื่อใช้โมเดลการวิเคราะห์ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น คุณสมบัติใหม่นี้จะเปิดตัวครั้งแรกในสหรัฐอเมริกา เนเธอร์แลนด์ และไอร์แลนด์ และจะเปิดตัวในประเทศอื่นๆ ภายหลัง

ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโซลูชันอุตสาหกรรมของ SAS ที่สามารถช่วยสนับสนุนองค์กรทุกขนาดได้ที่ www.sas.com/en_us/industry.html

การแถลงข้อมูลในวันนี้จัดขึ้นที่ SAS Innovate ซึ่งเป็นการประชุมธุรกิจ AI และระบบวิเคราะห์จาก SAS ผู้นำด้านการวิเคราะห์ หากต้องการติดตามข่าวสารล่าสุดจาก SAS โปรดติดตาม @SASsoftwareNews ใน Twitter