หลังจากที่ AIS Business ประกาศแผนและเป้าหมายการดำเนินงานของปี 2023 โดยมุ่งเน้นการส่งมอบบริการดิจิทัลและไอซีทีโซลูชัน ที่สร้างความปลอดภัย มั่นใจ ตอบโจทย์การเติบโตของลูกค้าอย่างยั่งยืน ภายใต้แนวคิด “เติบโต อุ่นใจ ไปด้วยกัน” ให้แก่ลูกค้าองค์กรในการทำ Digital Transformation ล่าสุดยังคงเดินหน้านำศักยภาพความแข็งแกร่งมาติดปีกให้ผู้ประกอบการ SME ด้วยโครงสร้างพื้นฐานทางด้านดิจิทัลเทคโนโลยี เครื่องมือทางการตลาด บริการด้านไอที โซลูชันบนโครงข่ายอัจฉริยะ ทั้งยังจับมือกับพันธมิตรข้ามอุตสาหกรรมเพื่อสร้างโอกาสในการเติบโตของธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม เดินหน้าสร้างการเติบโตให้กับเศรษฐกิจแบบร่วมกัน หรือ ECOSYSTEM ECONOMY ทั้งการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลอัจฉริยะ (Digital Intelligence Infrastructure) เชื่อมต่อธุรกิจข้ามอุตสาหกรรม (Cross Industry Collaboration) รวมถึงการสร้างความยั่งยืนให้กับการดำเนินธุรกิจ
ธนพงษ์ อิทธิสกุลชัย หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มลูกค้าองค์กร AIS กล่าวว่า “หนึ่งใน Sector ของภาคธุรกิจที่มีส่วนสำคัญต่อการเติบโตของประเทศ คือ SME หรือ กลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลาง และขนาดย่อม ที่ปัจจุบันมีผู้ประกอบการกว่า 3.18 ล้านราย ซึ่งเป็น 1 ในเครื่องยนต์หลักขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจ ในขณะเดียวกันกลุ่ม SME ก็ยังมีส่วนร่วมในการสร้าง GDP ให้กับประเทศถึง 34.2% ดังนั้นการเพิ่มขีดความสามารถให้กับการดำเนินธุรกิจผ่านการทำ Digital Transformation ก็ยังคงเป็นหัวใจสำคัญที่จะทำให้ SME มีอาวุธใหม่ๆ ในการสร้างโอกาสและการเติบโตในอนาคตได้อย่างยั่งยืน”
จากข้อมูลพบว่า สิ่งที่ผู้ประกอบการ SME ส่วนใหญ่ต้องการ อาทิ เครื่องมือหรือแพลตฟอร์มด้านดิจิทัลมาร์เก็ตติ้ง,
แพลตฟอร์มค้าขาย online หรือ E-Commerce เพื่อให้เสริมศักยภาพ เพิ่มความคล่องตัวในการทำงาน
สามารถลดต้นทุนการดำเนินงาน ขยายช่องทางการขาย
หรือแม้กระทั่งการขยายฐานลูกค้าและการเข้าถึงตลาดใหม่ๆ ดังนั้น AIS Business ที่เข้าใจถึงความต้องการดังกล่าว
จึงขอเป็นหนึ่งในฟันเฟืองที่จะช่วยผลักดันและสนับสนุนการเติบโตให้กับผู้ประกอบการ SME
ด้วย กลยุทธ์ 7S
·
AIS SME Mobile Services บริการโทรศัพท์เพื่อการสื่อสาร
·
AIS SME Internet Services บริการอินเทอร์เน็ต
·
AIS SME Digital Marketing Services เครื่องมือด้านการตลาดออนไลน์
·
AIS SME IT & Digital Solutions พัฒนาระบบไอทีหลังบ้าน
·
AIS SME Full e-Services งานบริการแบบ E-Service ที่อำนวยความสะดวกให้แก่นิติบุคคล
·
AIS SME Special Privileges สิทธิพิเศษที่ทำให้การทำธุรกิจง่ายขึ้นด้วย AIS SME BIZ UP
·
AIS SME Strategic Partnership การผนึกกำลังกับพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศเพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการ
นอกจากนี้ AIS Business ยังเน้นการสนับสนุน 4 อุตสาหกรรมหลัก SME ได้แก่ การค้า, การผลิต, บริการ, ดิจิทัล/เทคโนโลยี โดย AIS SME ได้จัดทำแพ็คเกจสำหรับผู้ค้า SME ออนไลน์ ให้ได้ใช้แอปถุงเงิน หรือแอป TikTok ในราคาประหยัด, รวมถึงแพ็กเกจ AIS Fibre พร้อมระบบกล้องวงจรปิด เป็นต้น
อย่างการเปิดตัว บริการใหม่ล่าสุด “Yellow B2B2C e-marketplace” โดยความร่วมมือข้ามอุตสาหกรรมระหว่าง
AIS และ FTI (สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย)
แพลตฟอร์ม B2B2C e-marketplace ใหม่ล่าสุดที่เร่งส่งเสริมผู้ประกอบการ
SME ให้สามารถต่อยอดธุรกิจทั้งเชิง B2B และ B2C แบบครบวงจร เพิ่มช่องทางให้ SME พบผู้ซื้อทั้งรายใหญ่และรายเล็กได้ง่ายยิ่งขึ้นผ่าน www.yellow.co.th โดยผู้ซื้อสามารถค้นหาสินค้าและบริการได้ง่ายๆ หรือโพสต์สร้างความต้องการสินค้าหรือบริการ
(RFQ Marketplace) เพื่อให้ผู้ขายติดต่อเสนอราคาได้ทันที ผู้ขายยังสามารถเจรจาธุรกิจไปจนถึงปิดการขายได้ผ่านช่องแชท
อีกทั้งยังมีเครื่องมือในการอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่ช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถทำธุรกิจได้ทุกที่ทุกเวลา
ซึ่งบริการนี้สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (FTI) ได้เข้ามาร่วมเป็นพันธมิตร
เพื่อเชิญชวนและเปิดโอกาสให้สมาชิกของสภาอุตสาหกรรมสามารถใช้บริการนี้ได้ด้วยข้อเสนอพิเศษอีกด้วย
สิทธิพิเศษเพื่อลูกค้า SME จาก AIS Serenade และ AIS Points รายแรกและรายเดียวในไทย AIS พร้อมมอบสิทธิพิเศษให้แก่ลูกค้า SME เพื่อรับสิทธิพิเศษได้แบบจัดเต็มเช่นเดียวกับลูกค้าทั่วไป รวมถึงโปรแกรม AIS SME BIZ UP ที่มาพร้อมความพิเศษที่มากกว่า ทั้งการอัพเดตความรู้ เทรนด์ใหม่ๆ ให้กับธุรกิจแบบเอ็กคลูซีฟ ส่วนลดค่าสินค้าและบริการจากพันธมิตร ร้านค้า ดังเช่น บริการจาก สตาร์ทอัพในกลุ่ม AIS The StartUp ที่เข้ามาส่งมอบบริการให้ผู้ประกอบการ SME สามารถเข้าถึงได้ในราคาพิเศษ อาทิ ส่วนลดสุงสุด 20% กับบริการขนส่งออนไลน์ Shippop แพลตฟอร์มด้านการขนส่ง ที่ช่วย SME ในเรื่องการบริหารจัดการขนส่งสินค้า หรือการจัดการเอกสารต่างๆ ให้เหมาะสมกับรูปแบบและระยะเวลาที่ต้องการ หรือแม้แต่ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมร้านอาหาร ให้สามารถใช้แพลตฟอร์มบริหารจัดการระบบในร้านอาหารจาก Foodstory ที่จะเชื่อมต่อข้อมูลของทั้งหน้าร้าน การจัดการสต๊อก รวมถึงระบบ CRM ที่ผู้ประกอบการสามารถใช้งานแพลตฟอร์ม Foodstory ได้ในราคาพิเศษอีกด้วย
“เราเชื่อว่าวันนี้ผู้ประกอบการ SME ไทยมีศักยภาพในการดำเนินธุรกิจและจะเป็นกำลังสำคัญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ดังนั้นการมีอาวุธดิจิทัลและเทคโนโลยี ก็จะยิ่งช่วยเสริมประสิทธิภาพของการทำงานให้ก้าวไปอีกขั้น โดย AIS ขอเป็นเพื่อนที่อยู่เคียงข้าง พร้อมสนับสนุนให้ SME เติบโต อุ่นใจ ไปด้วยกัน ผ่านการนำดิจิทัลเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการทำงาน และสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการดำเนินธุรกิจเพื่อเสริมศักยภาพทางการแข่งขันได้อย่างเต็มที่” ธนพงษ์ กล่าวในช่วงท้าย
บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส
จำกัด (มหาชน) หรือ AIS ผู้ให้บริการดิจิทัลบนโครงข่ายอัจฉริยะ 5G ที่มีคลื่นความถี่ในการให้บริการมากที่สุดรวม 1460 MHz (นับรวมคลื่นความถี่ที่ร่วมมือกับพันธมิตรรวมถึง NT ซึ่งอยู่ระหว่างการอนุมัติจาก
กสทช.) และมีจำนวนผู้ใช้งานสุดกว่า 46.1 ล้านเลขหมาย (ณ
มีนาคม 2566) พร้อมขับเคลื่อนประเทศไทยด้วยเทคโนโลยี 5G
ที่ครบ 77 จังหวัดแล้วเป็นรายแรกผ่าน 3 สายธุรกิจ ได้แก่
โทรศัพท์เคลื่อนที่, อินเทอร์เน็ตบ้านความเร็วสูงภายใต้แบรนด์
AIS Fibre และบริการดิจิทัล 5 ด้าน ได้แก่ วิดีโอ คลาวด์
ดิจิทัลเพย์เมนท์ อินเทอร์เน็ตในทุกสิ่ง (IoT) และบริการร่วมกับพาร์ทเนอร์ตลอดจนขยายสู่กลุ่มธุรกิจใหม่
อาทิ AIS eSports, AIS Insurance Service ทั้งหมดนี้เพื่อเดินหน้าตามวิสัยทัศน์การเป็นองค์กรโทรคมนาคมอัจฉริยะ
หรือ Cognitive Tech-Co ที่พร้อมนำศักยภาพเข้าสนับสนุนความแข็งแกร่งด้านโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลของประเทศขยายขีดความสามารถของภาคอุตสาหกรรม
และยกระดับ คุณภาพชีวิตของคนไทยไปพร้อมกัน พบกับเราได้ที่ www.ais.th