ห้างโรบินสัน ต่อยอดความสำเร็จงานมหกรรมนาฬิกาแห่งปี “ROBINSON THE ULTIMATE WATCH FAIR 2023” เอาใจครอบครัววอทช์เลิฟเวอร์ทั่วไทย คาดดันยอดกลุ่มนาฬิกาครึ่งปีแรกโตบวก
ธาพิดา นรพัลลภ ประธานบริหารฝ่ายบริหารสินค้ากลุ่มแฟชั่น บริษัท โรบินสัน จำกัด (มหาชน) ในเครือเซ็นทรัล รีเทล กล่าวว่า “จากกระแสตอบรับที่ดีของกลุ่มวอทช์เลิฟเวอร์ในงาน ROBINSON THE ULTIMATE WATCH FAIR 2022 ที่สาขาพระรามเก้าทำให้ยอดขายกลุ่มสินค้านาฬิกาของห้างโรบินสันเติบโตขึ้นราว 28% เมื่อเทียบกับปี 2021 และความสำเร็จของงาน ROBINSON THE ULTIMATE WATCH FAIR 2023 ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ทำให้เราเล็งเห็นถึง Demandกลุ่มสินค้านาฬิกาของวอทช์เลิฟเวอร์ที่มีแนวโน้มเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นที่มาของการจัดงาน ROBINSON THE ULTIMATE WATCH FAIR 2023 อีกครั้งที่สาขาเซ็นทรัลพระรามเก้า โดยครั้งนี้เรายังคงได้รับความร่วมมือจากแบรนด์นาฬิกาชั้นนำระดับโลกกว่า 20 แบรนด์ นำกลุ่มนาฬิกาหรู แฟชั่น สมาร์ทวอทช์ ทั้งคอลเลกชั่นใหม่ล่าสุด และที่จะเปิดตัวในงานเป็นที่แรก รวมทั้งคอลเลกชั่นลิมิเต็ด อิดิชั่น มาให้คนรักนาฬิกาได้สัมผัสและเป็นเจ้าของในคอนเซ็ปต์ “THE WATCH GALLERY” ที่ยังคงเน้นการสร้างมู้ดและประสบการณ์ร่วมที่ดีในการช้อปปิ้งด้วยการผสมผสานความสวยงามของภาพถ่ายเชิงศิลปะของนาฬิกาไฮไลต์ และความมีเอกลักษณ์ที่ทรงคุณค่าจากแบรนด์นาฬิกาชั้นนำ ซึ่งมาพร้อมดีลโปรโมชั่นพิเศษสุดเฉพาะงานนี้เท่านั้น และสะดวกกับหลากหลายช่องทางการช้อปปิ้งของห้างโรบินสัน โดยทำให้เรามั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับในทิศทางที่ดี และมีส่วนช่วยให้ยอดขายกลุ่มสินค้านาฬิกาของห้างโรบินสันในครึ่งปีแรก 66 เติบโตในทิศทางบวก”
สำหรับ 8 นาฬิกาไฮไลต์จากแบรนด์นาฬิกาชั้นนำที่ไม่ควรพลาด! ในงาน “ROBINSON THE ULTIMATE WATCH FAIR 2023” ประกอบด้วย...
1) LONGINES ULTRA-CHRON นาฬิกาโมเดลใหม่ที่มีความเที่ยงตรงสูงกว่าระดับโครโนมิเตอร์ ซึ่งแกว่งด้วยความถี่ 36,000 ครั้งต่อชั่วโมง หรือ 10 ครั้งต่อวินาที กลไกที่มีความแม่นยำระดับสูงใหม่นี้การันตีถึงความเที่ยงตรงยิ่งขึ้นและสืบสานมรดกตกทอดในการผลิตระบบกลไกความถี่สูงของลองจินส์มาอย่างยาวนานกว่าร้อยปี โดยได้รับแรงบันดาลใจจากนาฬิกา LONGINES ULTRA-CHRON DIVER จากปี 1968 ที่ได้รับการปรับโฉมใหม่โดยสะท้อนถึงเอกลักษณ์งานดีไซน์ของรุ่นดั้งเดิมและประสิทธิภาพในการต้านทานต่อแรงกระแทก ขีดข่วน และแรงดันน้ำ ในราคา 142,000 บาท
2) RADO TRUE SQUARE SKELETON ซึ่งเป็นคอลเลกชั่นล่าสุดของ RADO TRUE SQUARE อันเป็นที่นิยม สิ่งที่ดึงดูดสายตาคือกลไก R808 ที่มีโครงสร้างแบบเผยกลไกและหน้าปัดแบบสองระดับซึ่งผสานกันได้อย่างลงตัวกับกลไกการเดิน คาลิเบอร์ที่ล้ำสมัยที่ให้ความแม่นยำที่โดดเด่น พร้อมกับความทนทานต่อสนามแม่เหล็กและการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิที่เพิ่มมากขึ้น รวมทั้งพลังงานสำรองที่ยาวนานถึง 80 ชั่วโมง แผ่นครอบเฟืองและเพลตด้านบนสุดเคลือบด้วยสีแอนทราไซต์ ตัวเรือนแบบเป็นชิ้นเดียวขนาด 38mm และสายนาฬิกาที่ทำจากพลาสม่าไฮเทคเซรามิกแบบขัดเงา ซึ่งนำเสนอคุณลักษณะเฉพาะของ RADO ในรูปแบบที่น่าสนใจ ในราคา 93,700 บาท
3) MIDO MULTIFORT M CHRONOMETER ที่ผ่านการทดสอบและรับรองโดย COSC (Contrôle Officiel Suisse des Chronomètres) รุ่นนี้โดดเด่นด้วยคุณภาพที่ยอดเยี่ยมเกินมาตรฐาน Calibre 80 สำรองพลังงานได้นานถึง 80 ชั่วโมง พร้อมซิลิคอนบาลานซ์สปริงช่วยเสริมความแม่นยำทนทานต่อสนามแม่เหล็ก ดีไซน์อินเด็กซ์ทรงกลมที่มีลักษณะเฉพาะตัวด้วย Super-LumiNova® สีเบจ ช่วยให้อ่านค่าได้ดีที่สุดเมื่อตัดกับพื้นหลังสีเข้ม พื้นผิวหน้าปัดที่ถูกออกแบบเป็นลายขัดซาตินในแนวตั้งและไล่ระดับสี กันน้ำได้ลึกถึง 100 ม. พร้อมสายนาฬิกาที่ให้ความสะดวกในการเปลี่ยน เพียงคลิกเดียวโดยไม่ต้องใช้เครื่องมือ ในราคา 48,500 บาท
4) TISSOT PRX POWERMATIC 80 นาฬิกาที่บางเฉียบ ให้ความรู้สึกแบบยุค 70 อย่างแท้จริง ที่สร้างสรรค์มาเพื่อผู้ที่สนใจการออกแบบและอัดแน่นด้วยคุณสมบัติแห่งศตวรรษที่ 21 ในรูปทรงตัวเรือน TISSOT จากปี 1978 , PRX เป็นไอเทมที่แฟนนาฬิกาทุกคนพลาดไม่ได้ กลไกการไขลานอัตโนมัติ POWERMATIC 80 มอบความน่าเชื่อถือและความแม่นยำด้วยแฮร์สปริง Nivachron ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ ด้วยพลังงานสำรอง 80 ชั่วโมง เป็นการเคลื่อนไหวที่ทันสมัยออกแบบมาเพื่อให้ทันกับทุกไลฟ์สไตล์ ในราคา 25,300 บาท
5) FREDERIQUE CONSTANT FC-206MPND1S6 (SLIMLINE LADIES MOONPHASE) ความประณีตของนาฬิกา Slimline Ladies ที่ได้รับการออกแบบให้เน้นส่วนโค้งที่นุ่มนวลของข้อมือด้วยความกลมกลืนและละเอียดอ่อน คอลเลกชันร่วมสมัยอันล้ำค่าในจิตวิญญาณอันบริสุทธิ์ที่สุดของ FRÉDÉRIQUE CONSTANT ที่ผู้ผลิตนาฬิกา Swiss Made สุดหรูยังคงเข้าถึงได้ ในราคา 45,100 บาท
6) MAURICE LACROIX AIKON MASTER GRAND DATE ที่ปรับโฉมด้วยการระบายสีสันใหม่ๆ ลงไป ฉุดลุคสู่ความสนุกสนานและสดใสอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน และนี่คือ Aikon Master Grand Date Technicolour (ไอคอน มาสเตอร์ แกรนด์ เดท เทคนิคัลเลอร์) ในราคา 344,000 บาท
7) CASIO EDIFICE NISMO MY23 EDITION นาฬิการุ่นลิมิเต็ดเอดิชันที่ผลิตในปี 2023 โดยเกิดจากความร่วมมือระหว่าง EDIFICE และ NISMO การออกแบบรุ่นปี 2023 ที่ดูหรูหรานี้นำคุณสมบัติที่สะดุดตาของรถแข่ง Nissan Z #23 Super GT มาสู่นาฬิกา EDIFICE ในราคา 17,900 บาท
8) GARMIN EPIX SAPPHIRE ที่มาพร้อมหน้าปัดขนาด 47 มม. ดีไซน์เรียบหรู สวมใส่ได้กับทุกไลฟ์สไตล์ โดยใช้วัสดุพรีเมียม มีให้เลือกทั้งรุ่นสแตนเลสและไทเทเนียม มีระบบ GPS ในตัว ระบุพิกัดตำแหน่งได้แม่นยำ ใช้งานได้ต่อเนื่องยาวนานถึง 16 วัน ในราคา 33,990 บาท
โดยมาพร้อมดีลโปรโมชั่นที่ดีที่สุด และกิจกรรมสุดเอ็กซ์คลูซีฟเฉพาะงานนี้เท่านั้น ไม่ว่าจะเป็น...
ร่วมสัมผัสกับการกลับมาอีกครั้งของมหกรรมนาฬิกาแห่งปี “ROBINSON THE ULTIMATE WATCH FAIR 2023” ตั้งแต่วันที่ 29 พ.ค. 66 – 11 มิ.ย. 66 ณ ลานเวิร์ค แอนด์ เพลย์ ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพระรามเก้า และหลากหลายช่องทางการช้อปปิ้งสุดสะดวกของห้างโรบินสัน ไม่ว่าจะเป็น Robinson Chat & Shop, Robinson Personal Shopper On Demand โทร.1425 ผู้ช่วยช้อปส่วนตัว. Central App และเว็บไซต์ www.central.co.th ตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้ง Facebook Fanpage: Robinson Department Store