7 มิ.ย. 2566 24,966 31

ส่องมุมมอง 2 คนขับแกร็บหัวใจสีเขียว เปิดประสบการณ์การใช้ “รถ EV” ยานยนต์พลังงานสะอาดเพื่อสิ่งแวดล้อม

ส่องมุมมอง 2 คนขับแกร็บหัวใจสีเขียว เปิดประสบการณ์การใช้ “รถ EV” ยานยนต์พลังงานสะอาดเพื่อสิ่งแวดล้อม
กระแสความตื่นตัวในด้านสิ่งแวดล้อม ภาวะโลกรวน ตลอดจนวิกฤตพลังงานโลก ถือเป็นตัวเร่งสำคัญที่ส่งผลให้ยานยนต์ไฟฟ้าหรือที่เรามักเรียกติดปากกันว่ารถ EV” (Electric Vehicle) กลายเป็นทางเลือกใหม่ของการขับขี่ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและถือเป็นตัวแปรสำคัญที่จะช่วยขับเคลื่อนโลกของเราไปสู่อนาคต ปัจจุบันรถพลังงานไฟฟ้าได้กลายเป็นเมกะเทรนด์ของโลก ซึ่งรวมถึงในประเทศไทยที่กระแสความนิยมของรถ EV มาแรงอย่างมากในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ไม่เฉพาะในกลุ่มผู้ใช้รถทั่วไป แต่ยังรวมถึงกลุ่มคนขับรถที่ให้บริการรับส่งผู้โดยสารหรือให้บริการเดลิเวอรี ซึ่งไม่ได้มองเห็นข้อดีเฉพาะแค่การลดค่าใช้จ่ายด้านเชื้อเพลิง แต่ยังส่งผลดีกับโลกและสิ่งแวดล้อมของเราด้วย เช่นเดียวกับ แดนธนมิตร พัวพงศกร  และ ว่านกานต์ณัฐิ พูลทรัพย์ สองพาร์ทเนอร์คนขับแกร็บหัวใจสีเขียวที่หันมาใช้รถ EV เพื่อเป็นเครื่องมือในการหารายได้ และภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการใช้พลังงานสะอาดเพื่อลดมลภาวะทางอากาศ 

จากงานพาร์ทไทม์..สู่อาชีพหลัก

แดน ธนมิตร พัวพงศกร พาร์ทเนอร์คนขับแกร็บคาร์วัย 47 ปี เล่าถึงจุดเริ่มต้นในการก้าวสู่อาชีพนี้ว่าเมื่อก่อนผมก็เป็นมนุษย์เงินเดือน ทำงานได้เงินเดือนชนเดือน บางเดือนก็ไม่พอใช้ด้วยซ้ำ พอดีกับที่ตอนนั้นแกร็บเปิดรับสมัครคนขับอยู่ ผมเลยลองสมัครดูเพราะอยากมีรายได้เสริม แต่กลายเป็นว่างานเสริมตรงนี้ให้รายได้ดีกว่างานประจำที่ทำอยู่ บวกกับความยืดหยุ่นของงานที่ทำให้ผมมีเวลาดูแลแม่มากขึ้น ผมเลยตัดสินใจยึดอาชีพขับแกร็บคาร์เพื่อรับส่งผู้โดยสารเป็นงานหลัก จนถึงตอนนี้ก็ 7 ปีกว่าแล้วที่ขับแกร็บมา



แค่กล้าเปลี่ยน ชีวิตก็เปลี่ยน

แดนเล่าว่าเพราะการตัดสินใจเปลี่ยนอาชีพในวันนั้น ทำให้เขาได้เป็นเจ้าของรถคันแรก ซึ่งนำพาโอกาสอีกหลายอย่างเข้ามาในชีวิต ก่อนที่จะมาขับแกร็บ ผมไม่เคยมีรถเป็นของตัวเองเลย ช่วงที่มาขับแกร็บแรกๆ ก็ยังต้องยืมรถของน้องชายมาขับอยู่ ไม่นานก็หันมาใช้บริการเช่ารถขับกับแกร็บ ซึ่งเรตค่าเช่าถูกกว่าท้องตลาดประมาณ 40-50% ทำให้เรามีรายได้เพิ่มขึ้น จนล่าสุดเมื่อปีที่แล้วแกร็บเปิดตัวโปรแกรมสินเชื่อรถยนต์ไฟฟ้า (EV) เพื่อพาร์ทเนอร์คนขับ ผมมีความสนใจในเรื่องรถ EV อยู่แล้วจึงได้ลองสมัครเพื่อขอรับสินเชื่อ ข้อดีของโปรแกรมนี้คือคิดอัตราดอกเบี้ยต่ำ แถมยังสามารถผ่อนจ่ายได้แบบรายวัน วิธีการสมัครก็ไม่ยุ่งยาก เพราะเรามีประวัติการให้บริการที่ดีอยู่แล้ว พอยื่นเรื่องว่าเราสนใจสมัครสินเชื่อกู้ซื้อรถ เลือกยี่ห้อและรุ่นที่ต้องการพออนุมัติผ่านก็ทำสัญญา ไม่นานบริษัทก็ติดต่อกลับมาเพื่อให้ไปรับรถได้เลย ทำให้ผมได้มีรถคันแรกเป็นของตัวเอง ซึ่งผมรู้สึกภูมิใจมากๆ



รถ EV ประหยัดคนใช้…ถูกใจคนนั่ง

หลังให้บริการด้วยรถ EV มาเกือบปี แดนแชร์ประสบการณ์จากผู้ใช้จริงว่า  “ก่อนหน้าที่ผมจะตัดสินใจซื้อ ผมเคยลองเช่ารถ EV มาขับตั้งแต่เริ่มมีการทำตลาดในไทยในช่วงแรกๆ สิ่งที่ผมสนใจคือรถ EV เป็นนวัตกรรมใหม่ที่ช่วยลดค่าใช้จ่าย ตัดความกังวลเรื่องค่าน้ำมันไปได้เลย ทุกวันนี้ผมจ่ายเงินค่าชาร์จไฟฟ้าแค่วันละประมาณ 200 บาท เฉลี่ยแล้ววิ่งกิโลเมตรละไม่ถึง 1 บาท รับส่งลูกค้าได้ทั้งวัน เวลาสตาร์ทรถก็เงียบ ขับนานๆ ก็ไม่มีกลิ่นเหม็นไหม้จากท่อไอเสีย  ลูกค้าที่ใช้บริการก็ชอบกันมากเพราะนั่งสบาย ไม่สร้างมลพิษ สมรรถนะและความเร็วก็ไม่แพ้รถที่เติมน้ำมัน แถมระบบความปลอดภัยของตัวรถก็ดี เรียกได้ว่าตัดสินใจไม่ผิดเลยที่เลือกใช้รถ EV”

โอกาสที่มาพร้อมเทคโนโลยี 

ว่าน กานต์ณัฐิ พูลทรัพย์ พาร์ทเนอร์คนขับแกร็บฟู้ดวัย 44 ปี อดีตวินมอเตอร์ไซค์ที่ยึดอาชีพขับรถรับจ้างมานานกว่า 10 ปีเล่าว่าผมเริ่มรู้จักแกร็บครั้งแรกเมื่อประมาณ 7 ปีก่อน ช่วงนั้นมีทีมงานลงพื้นที่มาแนะนำการใช้แอปฯ ผมเลยลองให้บริการรับส่งผู้โดยสารผ่านแอปฯ ควบคู่ไปกับการขับวินเพราะอยากมีรายได้มากขึ้น จนวันนึงรายได้ที่มาจากแกร็บมากกว่าการขับวิน ผมเลยตัดสินใจมาขับแกร็บเต็มตัว พอช่วงที่โควิดระบาดผมก็หันมาขับแกร็บเพื่อรับส่งอาหารเพราะมีผู้ใช้บริการเยอะมาก และยังคงทำต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน ผมมองว่าแอปฯ อย่างแกร็บคือโอกาสที่เข้ามาช่วยทำให้คนมีทางเลือกในการหารายได้มากขึ้น จะเป็นรายได้หลักหรือรายได้เสริมก็ขึ้นอยู่กับความสะดวกของแต่ละคน



มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ทางเลือกใหม่ในการทำงาน

เพราะยึดอาชีพขับรถรับจ้างมานาน ว่านจึงติดตามข่าวสารในวงการรถอยู่เสมอ และการเข้ามาของรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าก็กลายเป็นจุดเปลี่ยนในชีวิต  อาชีพของผมต้องใช้รถทุกวัน เกือบทั้งวัน เลยมีต้นทุนในการดูแลรถสูงกว่าคนทั่วไป ทั้งค่าน้ำมันที่ต้องเติมเฉลี่ยวันละ 200 กว่าบาท ยังไม่รวมค่าบำรุงรักษา ทำให้แต่ละเดือนมีค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับรถแตะหลักหมื่น จนเมื่อไม่นานมานี้แกร็บเริ่มทำโครงการ Grab EV เพื่อให้คนขับสามารถเช่ารถมอเตอร์ไซค์ EV มาทดลองใช้ให้บริการ ผมก็เป็นหนึ่งในคนที่สมัครเข้าร่วมโครงการ พอได้มาขับจริงก็เห็นความเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน ช่วยให้เราลดรายจ่ายไปได้เยอะ เพราะไม่ต้องมีค่าน้ำมัน ค่าเปลี่ยนแบตก็ฟรี ค่าเช่าก็ไม่แพง ยิ่งเช่านานก็ยิ่งถูกลง เฉลี่ยตกเดือนละประมาณ 4,000 บาท ทำให้ตอนนี้ค่าใช้จ่ายต่อเดือนที่เกี่ยวกับรถลดลงไปได้ถึง 60% ขณะที่สมรรถนะของรถ EV ก็มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเรื่องแบตเตอรีที่ดีขึ้นกว่ารุ่นก่อนๆ สามารถวิ่งได้ระยะทางไกลสุดถึง 140 กิโลเมตรต่อหนึ่งรอบการชาร์จ และทำความเร็วสูงสุดได้ที่ประมาณ 85 กิโลเมตรต่อชั่วโมง



ตั้งใจดี..เพื่อสังคมที่ดี

เหตุผลสำคัญที่ผมหันมาใช้รถ EV เพราะอยากเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม การออกไปขับรถทุกวันทำให้เจอทั้งฝุ่นควันจากท่อไอเสียและความร้อนบนท้องถนน พอได้ยินว่าแกร็บมีโครงการส่งเสริมการใช้รถ EV เลยไม่รีรอที่จะเข้าร่วม ยิ่งได้มาขับจริงก็ยิ่งรู้สึกดี เพราะได้มีส่วนช่วยลดมลพิษจากการใช้พลังงานสะอาด แถมแกร็บยังมีสิทธิประโยชน์หลายอย่างที่ช่วยสนับสนุนคนขับ เช่น การมีรถสำรองให้ใช้ในกรณีที่รถเสียหรือต้องเข้าศูนย์ซ่อม ทำให้ไม่ขาดรายได้ ค่าบำรุงรักษาก็ฟรี พอค่าใช้จ่ายลดลงก็มีรายได้เพิ่มขึ้น ลูกค้าที่ใช้บริการก็ชอบเพราะ
รถสีเขียวน่ารัก ที่สำคัญคือไม่มีการปล่อยควันออกจากท่อไอเสียทำให้ไม่เกิดมลพิษ ตัวผมเองก็ภูมิใจที่อาชีพของเรามีส่วนช่วยให้โลกร้อนน้อยลงและมีอากาศสะอาดให้ได้หายใจเพิ่มขึ้น
ว่านทิ้งท้ายด้วยรอยยิ้ม

เกี่ยวกับ แกร็บ 

แกร็บ (Grab) คือ ผู้นำซูเปอร์แอปในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งให้บริการทั้งด้านเดลิเวอรี บริการการเดินทางและบริการทางการเงินดิจิทัล ครอบคลุมกว่า 500 เมืองใน 8 ประเทศ อันได้แก่ กัมพูชา อินโดนีเซีย มาเลเซีย เมียนมาร์ ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไทย และเวียดนาม ในทุกๆวันแกร็บได้ช่วยอำนวยความสะดวกผู้คนนับล้านให้สามารถเข้าถึงบริการต่างๆ ได้ภายในแอปพลิเคชันเดียว ไม่ว่าจะเป็น การสั่งอาหาร การสั่งซื้อสินค้าและของชำ การจัดส่งพัสดุเอกสาร การเรียกรถรับ-ส่งหรือแท็กซี่ ไปจนถึงการทำธุรกรรมทางการเงินออนไลน์ ทั้งการขอสินเชื่อและการทำประกัน ทั้งนี้ แกร็บก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2555 ด้วยวิสัยทัศน์ที่มุ่งขับเคลื่อนภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไปข้างหน้า ผ่านการสร้างโอกาสและส่งเสริมศักยภาพทางเศรษฐกิจให้กับทุกคน และยึดมั่นเจตนารมณ์ในการดำเนินธุรกิจที่มุ่งสร้างผลประกอบการที่แข็งแกร่งให้กับผู้ถือหุ้น ควบคู่ไปกับการสร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้กับสังคมและสิ่งแวดล้อมทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก