อาร์ทีบีฯ และ บุญลาโภ ร่วมกันเปิดตัวลำโพงมัลติรูม “Beosound A5” จากแบรนด์ Bang & Olufsen บุกตลาดครึ่งปีหลัง โดดเด่นด้วยคุณภาพเสียง ผสานความสวยงามของดีไซน์ ชูการออกแบบด้วยระบบโมดูลาร์ เพื่อการใช้งานที่ยั่งยืน
ในภาพ : ดร.บรรพต วัฒนสมบัติ กรรมการผู้จัดการ (ที่ 1 จากซ้าย) และ วิมลมาลย์ วัฒนสมบัติ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท อาร์ทีบี เทคโนโลยี จำกัด (ที่ 2 จากซ้าย) ร่วมกับ ทรงพล บุญลาโภ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท บุญลาโภ จำกัด (คนกลาง) และ วีกฤษฏิ์ พลาฤทธิ์ กรรมการผู้จัดการ Norse Republics (ที่ 1 จากขวา) พร้อมด้วย อะราเบลล่า สิตานัน เกรโกรี่ Friend of Boonlapo (ที่ 2 จากขวา) เปิดตัวสุดยอดนวัตกรรมลำโพงไร้สายระดับไฮเอนด์รุ่นล่าสุด “Beosound A5” จากแบรนด์ Bang & Olufsen ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ณ House of Fritz Hansen แบรนด์เฟอร์นิเจอร์ดีไซน์ระดับโลกจากประเทศเดนมาร์ก ตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการสุนทรียภาพทั้งทางด้านเสียงและการดีไซน์ที่เรียบหรู ด้วยวัสดุที่มีความเป็นธรรมชาติ ผสานเสียงอันทรงพลัง มาพร้อมเทคโนโลยีสุดล้ำครบครัน รวมถึงการออกแบบด้วยระบบโมดูลาร์ ที่สามารถถอดเปลี่ยนชิ้นส่วนได้ เพื่อให้ผลิตภัณฑ์สามารถใช้งานได้อย่างยั่งยืนภายใต้คอนเซ็ปต์ Luxury Timeless Technology
บริษัท อาร์ทีบี เทคโนโลยี จำกัด และ บริษัท บุญลาโภ จำกัด เดินหน้าเปิดประสบการณ์ใหม่ในการฟังเพลงให้กับคนรักเสียงเพลง ด้วยการเปิดตัวสุดยอดนวัตกรรมลำโพงไร้สายระดับไฮเอนด์รุ่นล่าสุด “Beosound A5” จากแบรนด์ Bang & Olufsen ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ณ บ้านฟริตซ์ ฮานเซน แบรนด์เฟอร์นิเจอร์ดีไซน์ระดับโลกจากประเทศเดนมาร์ก โดยลำโพง Beosound A5 ตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการสุนทรียภาพทั้งทางด้านเสียงและการดีไซน์ที่เรียบหรู ด้วยวัสดุที่มีความเป็นธรรมชาติ ผสานเสียงอันทรงพลัง มาพร้อมเทคโนโลยีสุดล้ำครบครัน รวมถึงการออกแบบด้วยระบบโมดูลาร์ ที่สามารถถอดเปลี่ยนชิ้นส่วนได้ เพื่อให้ผลิตภัณฑ์สามารถใช้งานได้อย่างยั่งยืนภายใต้คอนเซ็ปต์ Luxury Timeless Technology มั่นใจตลาดลำโพงมัลติรูมโตต่อเนื่อง พร้อมดันแบรนด์ขึ้นเป็นผู้นำกลุ่มลำโพงมัลติรูมภายในปี 2566
ดร.บรรพต วัฒนสมบัติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อาร์ทีบี เทคโนโลยี จำกัด กล่าวว่า การจับมือกันระหว่าง อาร์ทีบีฯ และ บุญลาโภ ในครั้งนี้ เป็นการผลักดันให้ผู้บริโภคได้รู้จักแบรนด์ Bang & Olufsen ในวงที่กว้างขึ้น เนื่องจากอาร์ทีบีฯ มีจุดแข็งทางด้านการกระจายสินค้าไปทั่วประเทศ ประกอบกับทางบุญลาโภมีหน้าร้าน Bang & Olufsen ซึ่งมีสินค้าครบครันที่พร้อมมอบประสบการณ์การเลือกซื้อสินค้าของแบรนด์ได้อย่างดีเยี่ยม สำหรับอาร์ทีบีฯ ในฐานะที่ได้รับสิทธิ์เป็นตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทยมากว่า 5 ปี ซึ่งที่ผ่านมาสามารถขยายฐานลูกค้าได้อย่างก้าวกระโดดและมียอดขายเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2566 ทางบริษัทฯ ยังคงเดินหน้าตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้ครอบคลุมยิ่งขึ้นด้วยการผลักดันสินค้าในกลุ่มลำโพงมัลติรูมลงสู่ตลาด ในขณะเดียวกันยังมีแผนที่จะสร้างประสบการณ์ในการทดลองผลิตภัณฑ์ Bang & Olufsen ให้กับลูกค้าตามมุมเมืองและจังหวัดต่างๆ อีก 2 - 3 จุด เพื่อให้ครอบคลุมผู้บริโภคได้มากขึ้นอีกด้วย
ด้าน ทรงพล บุญลาโภ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท บุญลาโภ จำกัด กล่าวว่า “การร่วมมือระหว่าง บุญลาโภ กับ อาร์ทีบีฯ ในครั้งนี้ จะตอกย้ำความเป็นแบรนด์เครื่องเสียงไฮเอนด์ระดับตำนานจากประเทศเดนมาร์ก ที่ครองใจคนทั่วโลกมายาวนานกว่า 98 ปี ของ Bang & Olufsen โดยบริษัท บุญลาโภ จำกัด ยังคงสร้างความเชื่อมั่นให้กับกลุ่มลูกค้าเก่าและใหม่ โดยร้าน Bang & Olufsen ที่เราจำหน่ายนั้น เน้นการมอบประสบการณ์ที่เต็มรูปแบบให้กับคนที่หลงใหลเรื่องของเสียงกับการดีไซน์ตัวจริง ซึ่งภายใน 3 ปีที่เราเข้ามาบริหารงาน เราได้เปิดร้านเพิ่มจาก 2 สาขา รวมเป็น 6 สาขา ซึ่งในอนาคตก็อยากเปิดสาขาต่างจังหวัดด้วย โดยทุกวันนี้ผลิตภัณฑ์ของ Bang & Olufsen ที่เติบโตในไทยสูงที่สุด แบ่งเป็น 3 กลุ่มหลักๆ คือ กลุ่ม On The Go เป็นกลุ่มหูฟัง ลำโพงบลูทูธที่พกพาได้ กลุ่มนี้มียอดขาย 20% / กลุ่ม Connected speaker ลำโพงตกแต่งบ้านแบบ Multiroom ที่เชื่อม Wi-Fi และบูลทูธได้ กลุ่มนี้มียอดขายราว ๆ 40% / กลุ่ม Home cinema experience หรือลำโพงรุ่นใหญ่แบบ Home Theater หรือลำโพงราคาแพง กลุ่มนี้ก็มียอดขายราว 40% ซึ่งตลาดเครื่องเสียงในไทยเรายังสามารถเติบโตได้อีกมาก และ Bang & Olufsen เองก็มีผลิตภัณฑ์หลากหลาย มีดีไซน์ มีสีสัน และสั่งผลิตแบบ Made to Order ได้อีกด้วย เชื่อว่าต้องถูกใจลูกค้าทุกกลุ่มอย่างแน่นอน”
ด้าน วิมลมาลย์ วัฒนสมบัติ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท อาร์ทีบี เทคโนโลยี จำกัด กล่าวว่าการเปิดตัว Beosound A5 ในปีนี้จะเป็นก้าวสำคัญของแบรนด์เพื่อการเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคที่กว้างขึ้น เนื่องจาก Beosound A5 เป็นลำโพงมัลติรูมที่ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงได้ง่าย มีขนาดไม่ใหญ่ เน้นการใช้งานที่หลากหลาย และที่สำคัญคุ้มค่าแก่การลงทุนของผู้บริโภคอย่างแน่นอน ด้วยการออกแบบมาให้มีความสวยงามผสมผสานเทคโนโลยีที่ยั่งยืนตามคอนเซ็ปต์ “เทคโนโลยีที่เลอค่า เหนือกาลเวลา” หรือ Luxury Timeless Technology ทำให้ลำโพงสามารถใช้งานได้นานมากกว่าสิบปี โดยตัวลำโพงมาพร้อมดีไซน์ที่ร่วมสมัยตามแบบฉบับของ Bang & Olufsen รวมถึงระบบโมดูลาร์ที่สามารถอัปเกรดซอฟท์แวร์ใหม่ๆ เพื่อให้เทคโนโลยีของลำโพงก้าวทันโลกดิจิทัลที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยการเปิดตัวครั้งนี้ได้จัดขึ้นที่ บ้าน ฟริตซ์ ฮานเซน เพื่อสะท้อนความเป็นแบรนด์ระดับโลกของเดนมาร์กที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานของทั้งสองแบรนด์ นอกจากนี้ GamFratesi ซึ่งเป็นผู้ออกแบบลำโพง Beosound A5 ให้กับ Bang & Olufsen ก็เป็นผู้ออกแบบโคมไฟดีไซน์เรียบเก๋อย่าง SUSPENCE™ ให้กับ ฟริตซ์ ฮานเซน เช่นกัน
“ทาง ฟริตซ์ ฮานเซน มีความยินดีที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการเปิดตัวลำโพง Beosound A5 จาก Bang & Olufsen ในครั้งนี้ ด้วยความที่แบรนด์ทั้งสองเป็นแบรนด์ระดับตำนานจากทางเดนมาร์ก ซึ่ง ฟริตซ์ ฮานเซน เองก็เพิ่งฉลองครบรอบ 150 ปีไป และทั้งสองแบรนด์ก็มีหลักการในการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่ใกล้เคียงกัน โดยเน้นที่ความเรียบง่ายของดีไซน์ แต่แฝงด้วยความคลาสสิกและความยั่งยืน โดยมีส่วนประกอบของวัสดุที่มาจากธรรมชาติ และผสานงานฝีมือเข้าไปกับผลิตภัณฑ์ทุกชิ้น” วีกฤษฏิ์ พลาฤทธิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท Norse Republics ตัวแทนจำหน่ายฟริตซ์ ฮานเซนในประเทศไทยกล่าว
โดย Beosound A5 มาพร้อมกับพลังเสียงอันทรงพลัง และการออกแบบที่มีความโดดเด่น ซึ่งเป็นผลงานการออกแบบร่วมกับ GamFratesi คู่หูนักออกแบบชาวเดนมาร์กและอิตาลี ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากลำโพงในซีรี่ส์ Beolit ผสานกับวัสดุธรรมชาติหลายชนิด จนออกมาเป็นดีไซน์ที่สวยงามในรูปทรงโค้งคล้ายตะกร้าปิกนิค โดยตัวโครงของลำโพงทำจากอะลูมิเนียมสีธรรมชาติ พร้อมฝาครอบที่ทำจากเส้นใยกระดาษที่นำมาถักทอเข้าด้วยกันและมือจับทำจากไม้โอ๊คแท้ ทำให้สามารถวางได้ทุกพื้นที่ในบ้าน ระเบียง หรือในสวน ขณะเดียวกันยังให้คุณภาพเสียงอันทรงพลัง และเบสที่หนักแน่น ด้วยไดร์เวอร์ 4 ทิศทาง และดิจิทัลแอมพลิฟายเออร์ 4 ตัว ให้กำลังขับรวมกันถึง 280 วัตต์ พร้อมพลังเสียงแบบ 360 องศา รวมถึงวูฟเฟอร์ขนาด 5.25 นิ้ว 1 ตัว Mid-range 2 นิ้ว 2 ตัว และทวีตเตอร์ ¾ นิ้วอีก 1 ตัว ทั้งยังนำเทคโนโลยี Beamforming ที่อยู่ในซีรี่ย์ Beolab มาใช้ในลำโพงรุ่นนี้เป็นครั้งแรก เพื่อสร้างประสบการณ์เสียงที่เต็มอิ่มเหนือกว่าที่เคยได้รับจากลำโพงพกพาทั่วไป
ในขณะเดียวกันยังสามารถกันน้ำและกันฝุ่นได้ในมาตรฐานระดับ IP65 จึงสามารถพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ได้อย่างสะดวกสบาย แบตเตอรี่สามารถใช้งานได้นานสูงสุด 12 ชั่วโมง ฝาด้านบนของลำโพงออกแบบมาให้เป็นแท่นชาร์จไร้สายมาตรฐาน Qi และยังสามารถควบคุมการใช้งานได้อย่างง่ายดายผ่านแอปพลิเคชั่น Bang & Olufsen เชื่อมต่อได้หลากหลายแพลตฟอร์ม ทั้ง Beolink Multiroom, AirPlay 2, Chromecast, Spotify Connect, Bluetooth 5.2 และอีกมากมาย มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Nordic Weave วางจำหน่ายในราคา 47,900 บาท และ Dark Oak วางจำหน่ายในราคา 52,900 บาท