อะโดบี (Nasdaq: ADBE) ประกาศการขยายบริการ Firefly ซึ่งเป็นโมเดล Generative AI เพื่อรองรับการสั่งงานด้วยข้อความมากกว่า 100 ภาษา ทำให้ผู้ใช้ทั่วโลกสามารถเจนเนอเรทภาพ และเอฟเฟ็กต์ข้อความโดยใช้ภาษาแม่ (Native Language) ของตนเองในบริการเว็บ Firefly แบบสแตนด์อโลน โดยเว็บยังรองรับ 20 ภาษา โดยเปิดให้บริการภาษาฝรั่งเศส เยอรมัน ญี่ปุ่น สเปน และโปรตุเกสแล้ว
การขยายการให้บริการครั้งนี้นับเป็นการขยายการเข้าถึงของ Firefly ไปสู่ระดับโลก ช่วยให้ผู้ใช้หลายล้านคนในทุกระดับประสบการณ์มีความมั่นใจมากขึ้นในการสร้างคอนเทนต์ที่ออกแบบมาสำหรับการใช้งานเชิงพาณิชย์ได้อย่างปลอดภัย ทั้งนี้ ผู้ใช้งานได้เจนเนอเรทภาพไปแล้วมากกว่า 1,000 ล้านภาพบนเว็บไซต์ Firefly และใน Photoshop ทำให้โปรแกรมทั้งสองนับเป็นโปรแกรมรุ่นเบต้าที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของอะโดบี
มากกว่าหนึ่งทศวรรษที่อะโดบีได้พัฒนานวัตกรรม AI อย่างจริงจัง เพื่อพลิกโฉมเครื่องมือด้านครีเอทีฟระดับแนวหน้าของอุตสาหกรรม โดยเพิ่มพลังให้กับทุก ๆ ขั้นตอน ตั้งแต่การสำรวจเบื้องต้นไปจนถึงแนวคิดและการผลิต อะโดบียังคงยึดถือแนวทางที่มุ่งเน้นครีเอเตอร์ โดยมี Firefly ทำหน้าที่เป็น Co-pilot สำหรับงานครีเอทีฟ นับตั้งแต่ที่เปิดตัวเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา Firefly ได้ถูกผสานรวมเข้ากับ Photoshop, Express และ Illustrator ช่วยให้ผู้ใช้สร้างสรรค์ผลงานได้อย่างมั่นใจ โดยจัดการกับอุปสรรคระหว่างจินตนาการและ blank page และนำความแม่นยำ พลัง ความเร็ว และความสะดวกมาสู่แอปพลิเคชันและเวิร์กโฟลว์ Creative Cloud โดยตรง
อีไล กรีนฟิลด์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีดิจิทัลมีเดียของอะโดบี กล่าวว่า “เรารู้สึกทึ่งกับวิธีการที่เหล่าครีเอเตอร์ใช้ Firefly เพื่อเจอเนอเรทภาพและเอฟเฟ็กต์ข้อความที่สวยงามหลายพันล้านรายการ ทำให้ Firefly เป็นหนึ่งในโปรแกรมรุ่นเบต้าของอะโดบีที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดโดยใช้เวลาหลังเปิดตัวเพียงสามเดือนเท่านั้น และวันนี้เราได้พัฒนาเพื่อให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึง Firefly ได้มากขึ้นโดยใช้ภาษาที่พวกเขาต้องการ ซึ่งจะช่วยให้สามารถใช้ประโยชน์จากโมเดล AI ที่โดดเด่นของอะโดบีได้อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างสรรค์ผลงานที่มีคุณภาพสูงสุดตามจินตนาการ และสามารถนำไปใช้งานในเชิงพาณิชย์ได้อย่างปลอดภัย”
นอกจากนี้ Firefly ยังนำเสนอ:
บริการ Adobe Sensei GenAI สร้างนิยามใหม่ให้กับองค์กรธุรกิจในการนำเสนอประสบการณ์ให้แก่ลูกค้าโดยช่วยเพิ่มความรวดเร็วและประสิทธิภาพให้กับเวิร์กโฟลว์บน Adobe Experience Cloud บริการ Sensei GenAI จะช่วยให้แบรนด์ต่าง ๆ สามารถสร้างและแก้ไขประสบการณ์ text-based ในทุก touchpoint ของลูกค้า และใช้ประโยชน์จากโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) ที่แตกต่างกัน นวัตกรรมเหล่านี้รวมอยู่ใน Adobe Experience Platform (AEP) ซึ่งผสานรวมข้อมูลลูกค้าและคอนเทนต์ต่าง ๆ จากทุกส่วนทั่วทั้งองค์กรภายใต้โมเดลภาษาเดียว
ในฐานะพันธมิตรที่ได้รับความไว้วางใจจากผู้ใช้และองค์กรธุรกิจทุกขนาด อะโดบีได้พัฒนาและปรับใช้ความสามารถด้าน AI ทั้งหมดโดยใช้แนวทาง customer-centric และสอดคล้องตามหลักการด้านจริยธรรมของ AI เพื่อให้แน่ใจว่าคอนเทนต์และข้อมูลมีความโปร่งใส โดย Content Credentials ได้มี “ฉลากโภชนาการ” หรือ nutrition label สำหรับดิจิทัลคอนเทนต์ และเป็นองค์ประกอบสำคัญสำหรับหลักการด้าน AI ของอะโดบี
อะโดบีกำลังเปลี่ยนแปลงโลกผ่านประสบการณ์ดิจิทัล ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.adobe.com