8 ส.ค. 2566 3,879 15

ทำความรู้จัก WiFi 7 เร็วแรงสูงสุดถึง 36Gbps รองรับการใช้งานในอนาคต

ทำความรู้จัก WiFi 7 เร็วแรงสูงสุดถึง 36Gbps รองรับการใช้งานในอนาคต

WiFi 7 เทคโนโลยีไร้สายแห่งอนาคต ที่สามารถรองรับการใช้งานสำหรับอนาคตอย่างแท้จริง อย่างที่เราได้เห็นการเปิดตัวของเทคโนโลยี Wifi6E ที่ใช้งานย่านความถี่ 6GHz มาเมื่อสองปีที่แล้ว จากนี้ไป WiFi 7 คือพัฒนาการอีกขั้น ที่ใช้เทคโนโลยีการเข้ารหัสที่ซับซ้อนขึ้น เป็นแบบ 4K QAM ความกว้างของช่องสัญญาณที่กว้างถึง 320MHz บนย่าน 6Hz และเทคนิคการจัดการช่องสัญญาณแบบ Multi-Link ทำให้การใช้งาน Wi-Fi มีประสิทธิภาพมากขึ้นอย่างก้าวกระโดด


เรามาทำความรู้จัก WiFi 7 กัน

WiFi 7  คือมาตรฐานใหม่ที่รับโดยสถาบัน IEEE โดยจะมีชื่อมาตรฐานว่า IEEE802.11be โดยทำงานบน 3 ย่านความถี่คือ 2.4GHz, 5GHz และ 6GHz (ประเทศไทย กสทช. อนุญาตให้ใช้ย่าน 6GHz แล้ว) โดย WiFi 7 จะมีความสามารถที่เหนือกว่า WiFi6 หรือ WiFi6E ในด้านความเร็วเกือบ 4 เท่า โดย WiFi6/WiFi6E ทำความเร็วสูงสุดได้ที่ 9.6Gbps แต่ WiFi 7 จะทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 36Gbps และยังมี Latency ต่ำลงได้อีก นั่นทำให้ WiFi 7 สามารถรองรับการ Stream Video 8K, VR และ extended reality หรือ XR ได้อีกด้วย


4K-QAM

WiFi 7 รองรับมาตรฐานการเข้รหัสสัญญาณแบบ 4K-QAM (Quadrature Amplitude Modulation) ซึ่งช่วยให้สามารถส่งข้อมูลได้มากขึ้นจาก 10Bit เป็น 12Bit หรือเพิ่มขึ้น 20% จากการเข้ารหัสแบบ 1K QAM บนมาตรฐาน WiFi6


WiFi 7 Channel

ความกว้างของช่องสัญญาณ WiFi 7 สูงสุดถึง 320MHz หรือมากกว่า WiFi6 ที่สามารถทำได้ 160MHz ถึง 2 เท่า นั่นหมายความว่า WiFi 7 จะสามารถทำความเร็วได้มากกว่า Wifi6 หรือ WiFi6E ถึง 2 เท่านั่นเอง


Multi-link Operation and Latency

เทคโนโลยี WiFi มีการแบ่งช่องสัญญาณออกเป็นหลาย Channel แต่จะสามารถส่งสัญญาณได้ทีละ Channel เท่านั้น ซึ่งอาจจะเปลี่ยนช่องสัญญาณไปมา เมื่อสภาพแวดล้อมเปลี่ยนไป แต่ WiFi7 มีเทคโนโลยีใหม่ที่เรียกว่า Multi-link Operation หรือ MLO ที่ช่วยให้อุปกรณ์สามารถเชื่อมต่อกันได้ด้วย 2 Channel พร้อมๆกัน ทำให้ความเร็วในการรับส่งข้อมูลสูงขึ้น ลด Latency และสามารถทำ Redundant Channel เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อของระบบได้มากขึ้นอีกด้วย


Multi-RU

เทคโนโลยี WiFi เดิมจะกำหนดให้แต่ละเครื่องสามารถใช้ช่องสัญญาณที่กำหนดไว้เท่านั้น (Resource Unit : RU) ซึ่งหมายความว่าอาจจะมีเครื่องที่จองช่องสัญญาณนั้นไว้ และใช้ไม่เต็มที่ ก็ก็ต้องเสียโอกาสในการใช้ช่องสัญญาณนั้นไป หรือเกิดการสูญเสียขึ้นจากการจัดการช่องสัญญาณ Spectrum Resource Scheduling ด้วยเทคโนโลยี Multi-RU สามารถอนุญาตให้เค่รื่องที่มีความจำเป็นต้องใช้ช่องสัญญาณความเร็วสูง สามารถใช้ช่องสัญญาณที่ยังว่างอยู่ได้ ทำให้การใช้งานช่องสัญญาณมีประสิทธิภาพสูงสุด ส่งผลให้ความเร็วโดยรวมของทั้งเครือข่ายดีขึ้นอย่างมาก


EnGenius เปิดตัว Cloud Managed WiFi7 Enterprise AP ตัวแรกของโลก เร็วจี๊ด 18Gbps


ที่มา nvk.co.th

EnGenius เปิดตัว Cloud Managed WiFi7 Enterprise AP ตัวแรกของโลก เร็วจี๊ด 18Gbps

EnGenius เปิดตัว Cloud enterprise WiFi7 Access Point ตัวแรกของโลก

Qualcomm