28 ก.ย. 2566 256 0

ETDA เปิดแผนปี 67 ติดเทอร์โบ 4 งานไฮไลท์ เร่งพัฒนาธุรกรรมออนไลน์ไทย คนไทยชีวิตดีด้วยดิจิทัล

ETDA เปิดแผนปี 67 ติดเทอร์โบ 4 งานไฮไลท์ เร่งพัฒนาธุรกรรมออนไลน์ไทย คนไทยชีวิตดีด้วยดิจิทัล

จบกันไปเป็นที่เรียบร้อยสำหรับงานใหญ่ประจำปีที่หลายคนต่างจับตากับ “TIME TO CHANGE 13 ปี ETDA #ชีวิตดีเมื่อมีดิจิทัล” งานแถลงผลงานครั้งสำคัญของสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) หรือ ETDA (เอ็ตด้า) หน่วยงานที่มุ่งส่งเสริมและสนับสนุนให้คนไทยมั่นใจกับการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์อย่างปลอดภัย ตั้งแต่การก้าวเข้าสู่การทำธุรกรรมจนกระทั่งเวลาพบปัญหาจาก การใช้งาน ทั้งในกลุ่มผู้ให้บริการและผู้ใช้บริการ นำโดยหัวเรือใหญ่ อย่าง “ดร.ชัยชนะ มิตรพันธ์ ผู้อำนวยการ ETDA ที่มาพร้อมทีมผู้บริหารและทีม Lead ที่อยู่เบื้องหลังของการขับเคลื่อนงานสำคัญๆ  มาร่วมแถลงผลงานประจำปี และเปิดทิศทางก้าวต่อไปในอนาคตของ ETDA ด้วย

ปีนี้ ETDA ก้าวสู่ปีที่ 13 แล้ว หากเปรียบเหมือนคน ก็กำลังเข้าสู่วัยรุ่นที่เป็นวัยแห่งการเรียนรู้ พร้อมปรับตัวและพร้อมรับกับความท้าทายเพื่อเดินหน้าสานต่อเป้าหมายใหญ่ที่ต้องพิชิตเส้นชัยให้ได้ภายในปี 70 กับตัวเลข 30:30 ทั้งการเพิ่มมูลค่าเศรษฐกิจดิจิทัลต่อ GDP 30% และการยกระดับความสามารถในการแข่งขันทางดิจิทัลของประเทศให้อยู่ใน 30 อันดับแรกของโลกให้สำเร็จ หนึ่งไฮไลท์ที่หลายคนต่างจับตา นั่นก็คือทิศทางการก้าวต่อไปของปี 67 ที่ ETDA ชูธงเพิ่มความเข้มข้นของบทบาท Co-Creation Regulator อย่างเต็มรูปแบบ ไปกับการติดเทอร์โบ 4 งานสำคัญเพื่อสนับสนุนการเดินหน้าของประเทศ ตั้งแต่การร่วมสร้างระบบนิเวศของการทำธุรกรรมออนไลน์ของประเทศเพื่อผู้ให้บริการและผู้ใช้บริการเกิดความมั่นใจและปลอดภัยขึ้น พร้อมก้าวสู่โอกาสและชีวิตดิจิทัลที่ดีกว่าที่เคย…4 งานไฮไลท์ ประจำปี 67 ที่ ETDA โฟกัส มีเรื่องอะไรบ้าง ไปดูกัน!


1. ขยายการใช้งาน Digital ID ให้มากขึ้น เพื่อคนไทยเชื่อมั่นในการทำธุรกรรมออนไลน์ โดยเตรียมเร่งสนับสนุนให้เกิดการขยายบริการดิจิทัลที่ใช้ Digital ID กับเอกสารที่มีความพร้อม โดยเฉพาะบริการภาครัฐ ที่จะตอบโจทย์ความต้องการของประชาชนและทำให้เกิดการใช้งานอย่างแพร่หลาย อีกทั้งผลักดันให้เกิด IdPs (ID Providers) ที่ได้มาตรฐานตามกฎหมาย Digital ID ไม่น้อยกว่า 24 ราย เพื่อเป็นทางเลือกให้ผู้ใช้บริการได้มากขึ้น ควบคู่ไปกับการเร่งพัฒนามาตรฐานที่สำคัญๆ เช่น มาตรฐานการเก็บเอกสารแสดงตัวตนต่างๆ ให้อยู่ในรูปแบบของแอปพลิเคชัน มาตรฐานการพิสูจน์และยืนยันตัวตนคนต่างชาติ มาตรฐานการมอบอำนาจกรณีนิติบุคคล รวมถึงเร่งเครื่องการขยายผลการใช้งาน FVS (Face Verification Service หรือระบบพิสูจน์และยืนยันตัวตนด้วยใบหน้าทางดิจิทัล) ของกรมการปกครอง ไปสู่การออกใบรับรองสำหรับรับรองลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์และเชื่อมโยงการทำงานร่วมแพลตฟอร์มต่างๆ ทั้งการเงิน หรือ สาธารณสุข 

2. เพิ่มความเข้มข้นการกำกับดูแล Digital Platform Services (DPS)  สู่การเกิด Best Practice ให้บริการอย่างเป็นธรรม โปร่งใส ร่วมสร้างความเชื่อมั่นในการใช้งานบริการแพลตฟอร์มดิจิทัลเพื่อให้ผู้บริโภคได้รับการคุ้มครองอย่างเท่าเทียม ภายใต้กลไกของกฎหมาย DPS ที่จะช่วยให้ธุรกิจบริการแพลตฟอร์มดิจิทัลมีแนวปฏิบัติในการให้บริการที่ดี โปร่งใส ชัดเจน ไปพร้อมๆ กับเตรียมประกาศรายชื่อแพลตฟอร์มดิจิทัลที่มาแจ้งการประกอบธุรกิจตามกฎหมายกับ ETDA ที่ในกลุ่มแพลตฟอร์มทั่วไป จะครบกำหนด 18 พ.ย. 66 นี้ เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงรายชื่อแพลตฟอร์มนั้นๆ ได้ พร้อมการผลักดันให้เกิด DPS Governance Framework กลไกการดูแลการให้บริการธุรกิจแพลตฟอร์มอย่างมีธรรมาภิบาล และร่างคู่มือการพิสูจน์ตัวตนลูกค้าของบริการแพลตฟอร์ม พร้อมกับการยกระดับการให้บริการของศูนย์ 1212ETDA ภายใต้การผสานความร่วมมือกับหน่วยงานสำคัญเกือบ 20 หน่วยงานและการดำเนินงานเพื่อเป็นช่องทางกลางรับเรื่องร้องเรียน 

3. ส่งเสริมให้เกิดการใช้ AI อย่างมีธรรมาภิบาล หรือ AI Governance ในระดับองค์กร ที่จะช่วยลดความเสี่ยง เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ภายใต้การดำเนินงานของ “ศูนย์ธรรมาภิบาลปัญญาประดิษฐ์ หรือศูนย์ AIGC (AI Governance Clinic)” ที่ปี 67 นี้จะเน้นการขยายการใช้งาน AI Governance Guideline & Toolkits อย่างต่อเนื่องกับกลุ่ม Healthcare และต่อยอดขยายไปยังกลุ่ม Finance และภาครัฐ พร้อมให้คำปรึกษากับหน่วยงานที่สนใจ รวมถึงการต่อยอดหลักสูตร AiX รุ่น 2 สำหรับผู้บริหาร และ Mini workshop ในระดับปฏิบัติการอย่างต่อเนื่อง

4. ส่งเสริมการเปลี่ยนผ่านทั้งในกลุ่มรัฐและเอกชน กับ Digital Adoption & Transformation พร้อมกับการพัฒนาทักษะคนไทยตั้งแต่ประชาชนจนถึงบุคลากรในสายอาชีพที่เป็นที่ต้องการของตลาด ผ่านกลไกตั้งแต่ในกลุ่มผู้ให้บริการผ่าน ETDA Sandbox การขยายโมเดลการส่งเสริมผู้ประกอบการ เพื่อต่อยอดจากผลสำรวจความพร้อมของผู้ประกอบการ (SMEs Maturity) ลงในระดับภูมิภาค พร้อมกับการสร้างโอกาสผ่านกิจกรรมที่น่าสนใจทั้งในกลุ่ม SMEs, Service Provider, กลุ่มเศรษฐกิจชุมชน ทั้งการให้คำปรึกษา การอบรม Workshop ผ่านหลักสูตรของสถาบัน ADTE หรือ Academy of Digital Transformation by ETDA และการพัฒนาฝีมือแรงงานในความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านกับพาร์ทเนอร์ เช่น กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน เป็นต้น นอกจากนี้ ยังไปต่อกับการพัฒนาโค้ชดิจิทัลชุมชน เพื่อตอบโจทย์ความยั่งยืนในชุมชน (Social Enterprise) การกระจายความรู้ Digital Literacy ผ่านหลักสูตร EDC (ETDA Digital Citizen) ที่จะปรับปรุงใหม่ให้ทันสมัยรองรับเทคโนโลยีและประเด็นของสังคมไทย พร้อมขยายผลทั้งในสถาบันการศึกษา บุคลากรในหน่วยงานที่สนใจ และชุมชน รวมถึงการเพิ่มรอบหลักสูตร EDC Trainer เพื่อให้ทันกับความต้องการ อีกทั้ง การพัฒนาสื่อสำหรับกลุ่มคนพิการทางด้านการได้ยินให้มากขึ้นกว่าเดิม 


เพื่อตอกย้ำภารกิจในการร่วมสร้างสังคมและเศรษฐกิจดิจิทัล พาคนไทยก้าวสู่ประสบการณ์การชีวิตดิจิทัลที่ล้ำยิ่งขึ้น เดือน พฤษภาคม ปีหน้า ETDA พร้อมด้วยพาร์ทเนอร์ ภาครัฐ เอกชน เตรียมเดินหน้าจัด Big event ประจำปี ในรูปแบบ Conference และ Exhibition แน่นอนทั้ง 4 งานในวันนี้จะไปต่อยอดกันในวันนั้นด้วย อีกทั้งผู้เข้าร่วมงานจะได้พบกับ Speaker ชั้นนำทั้งในและต่างประเทศ พร้อมบูธที่น่าสนใจจากอุตสาหกรรมต่างๆ ของไทยที่จะมา Show case ให้คุณได้ร่วมเปิดประสบการณ์ดิจิทัลไปพร้อมๆ กัน ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ ETDA Thailand 

#ETDAThailand #ETDA #Digital #ETDAปีที่13 #Timetochange #DigitalID #DigitalPlatform #AIGovernance #DigitalTransformation #ชีวิตดีเมื่อมีดิจิทัล