บริษัท จัสมิน เทคโนโลยี
โซลูชั่น จำกัด มหาชน (JTS) ร่วมกับ เคที คอร์ปอเรชั่น (KT)
แถลงข่าวการร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) เป็นพันธมิตรด้านนวัตกรรม
ผนึกกำลังเพื่อพัฒนาและสร้างสรรค์แพลตฟอร์ม Generative AI ที่เป็นขีดสุดแห่งความทันสมัยของเทคโนโลยีในโลกยุคปัจจุบัน พรั่งพร้อมด้วยบริการที่หลากหลาย
ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่บริการโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure as a Service
(IAAS)), บริการด้านโมเดล (Model as a Service (MAAS)), บริการด้านแพลตฟอร์ม (Platform as a Service (PAAS)) ไปจนถึง บริการด้านซอฟต์แวร์ (Software as a Service (SAAS)) ต่างๆ โดย JTS และ KT จะร่วมกันวางแผน ตลอดจนกำหนด Roadmap สำหรับธุรกิจใหม่ดังกล่าว ซึ่งปักหมุดเปิดตัวในประเทศไทยเป็นแห่งแรก ในปี 2567
และมีเป้าหมายที่จะขยายการให้บริการออกไปยังประเทศต่าง ๆ
ทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ต่อไปในอนาคต
ทั้งนี้ JTS ซึ่งเป็นบริษัทด้านเทคโนโลยีที่มีชื่อเสียง
จะใช้ประโยชน์จากธุรกิจปัจจุบันของบริษัท ผนวกกับศักยภาพและความเชี่ยวชาญของบริษัท จัสเทล เน็ทเวิร์ค จำกัด (JasTel) ซึ่งเป็นบริษัทย่อย
และผู้ให้บริการการเชื่อมต่อชั้นนำที่ให้บริการแก่บริษัทโทรคมนาคม (Telco) หลายแห่ง ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มาพัฒนาธุรกิจใหม่ร่วมกับ KT ยิ่งไปกว่านั้น JTS ยังมีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะผสานเทคโนโลยี
AI เข้าไว้ในกระบวนการทำงานต่างๆ (Workflows) ของ JAS ซึ่งเป็นบริษัทแม่ รวมถึงบริษัทในกลุ่ม JASMINE เพื่อเสริมสร้างประสิทธิภาพการทำงานภายในองค์กรให้เข้มแข็งมากยิ่งขึ้น
อีกทั้ง มีความมุ่งหมายที่จะปรับปรุงเปลี่ยนแปลงให้อาคารจัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล ทาวเวอร์ เป็นอาคาร AI ที่ทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่งอีกด้วย
JTS ตั้งเป้าหมายสมาชิกผู้ใช้บริการจากจุดเริ่มต้นจนถึง 5 ปีข้างหน้าไว้ที่จำนวน 10 ล้านราย และตั้งเป้าหมายรายได้ไว้ที่ 1 พันล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐต่อปี
"ซัง โด ลี
กรรมการผู้จัดการ JTS" กล่าวว่า "ความร่วมมือระหว่าง JTS กับ KT ในครั้งนี้
ถือเป็นก้าวสำคัญบนเส้นทางสู่ความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรม AI ของเรา ความเชี่ยวชาญของ KT
บวกกับประสบการณ์ของ JasTel
ซึ่งเป็นที่ประจักษ์ในเวทีภูมิภาคนี้
ทำให้เรามีความมั่นใจว่าจะสามารถนำเสนอโซลูชัน AI ที่โดดเด่น
และไม่มีใครเหมือน ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้อย่างแน่นอน”
"เจโฮ ซง รองประธานบริษัท KT" กล่าวเพิ่มเติมว่า “KT มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมงานกับ JTS ซึ่งมีวิสัยทัศน์เกี่ยวกับอนาคตของ AI เหมือน ๆ กัน และพร้อมที่จะขับเคลื่อน สร้างสรรค์นวัตกรรม ตลอดจนกำหนดมาตรฐานใหม่ ๆ ให้แก่อุตสาหกรรม AI ในภูมิภาคนี้ร่วมกับ JTS ต่อไป”