ประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (รมว.ดีอี) กล่าวว่า ในช่วง ที่ผ่านมา ปัญหา โจรออนไลน์ แก๊งคอลเซนเตอร์ การหลอกลวงออนไลน์ มีความรุนแรงมาก ในระยะเวลาหนึ่งปี เจ็ดเดือน ตั้งแต่ มีนาคม 65 - กันยายน 66 มีจำนวนคดีมากถึง 336,896 คดี เฉลี่ยวันละ 585 คดี ความเสียหายสูงถึง 45,700 ล้านบาท เฉลี่ยวันละ 80 ล้านบาท การทำงานป้องกันปราบปรามแบบเดิมๆ คงไม่สามารถแก้ปัญหานี้ได้
รมว. ดีอี จึงมีนโยบายยกเครื่อง ปรับเปลี่ยนการทำงานครั้งใหญ่ นอกจากการจัดตั้ง ศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านอาชญากรรมออนไลน์ (Anti-Online Scam Operation Center) การตั้งทีมเฉพาะกิจปราบโจรติดตามเส้นทางการเงิน การดึงแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียขนาดใหญ่ช่วยงาน ดีอี และ อีกหลายเรื่องเพื่อป้องกันปราบปรามโจรออนไลน์แล้ว ในวันนี้ ก็เป็นดำเนินการอีกเรื่องที่สำคัญ เป็นการบูรณาการ ดึงกำลังของหลายหน่วยงาน ติดดาบ บุคคลากรของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงยุติธรรม และกระทรวงการคลัง โดยการพัฒนาความรู้และทักษะ เรื่องอาชญากรรมออนไลน์สมัยใหม่ วิธีการสืบสวนสอบสวน การเก็บ รวบรวม พิสูจน์หลักฐาน และวิธีการทำงานเรื่องโจรออนไลน์ของต่างประเทศ เพื่อร่วมปราบโจรออนไลน์
โดยวันนี้ 16 ต.ค. 2566 เวลา 09:00 น. ประเสริฐ จันทรรวงทอง รมว. ดีอี ได้เปิดการอบรม “การเตรียมความพร้อมผู้ที่จะได้รับการแต่งตั้งเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ตาม พรบ. ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ฯ และผู้ปฏิบัติงานที่เกี่ยวกับการสืบสวนสอบสวน” เป็นการอบรมอย่างเข้มข้น ระยะเวลา 5 วัน ก่อนการแต่งตั้งเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ตาม พรบ. คอมฯ โดยมีบุคคลากรจาก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หลายกองบัญชาการ เช่น กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และกองบัญชาสืบสวนสอบสวนการกระทำความผิดทางเทคโนโลยี (ตำรวจไซเบอร์) เป็นต้น รวมทั้ง จาก กรมสอบสวนคดีพิเศษ (dsi) และสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ของกระทรวงยุติธรรม และ กรมสรรพากร ของกระทรวงการคลัง เป็นต้น โดยมีผู้เข้าร่วมอบรมครั้งนี้ ประมาณ 100 คน ซึ่งเมื่ออบรมจบ 5 วันเต็มแล้ว จะต้องมีการทดสอบความรู้ก่อน ถึงจะได้รับการแต่งตั้งเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ ตาม พรบ. คอมฯ
สำหรับหัวข้อในการอบรม ประกอบด้วย อาชญากรรมออนไลน์สมัยใหม่ กฎหมายอาญาและวิธีพิจารณาความอาญาที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ วิธีการสืบสวนสอบสวน การพิสูจน์หลักฐานการสืบสวนทางเทคนิค การตรวจสอบหมายเลข IP Address แหล่งที่มาของการกระทำความผิด การวิเคราะห์และเชื่อมโยงข้อมูล /พยานหลักฐานข้างต้น (Principles of Computer Forensics and Digital/Electronic Evidence Crime scene, Digital/Electronic Evidence and Chain of Custody) การเก็บ การตรวจพิสูจน์หลักฐานดิจิทัลโดยใช้โปรแกรมเฉพาะทาง การรักษาความปลอดภัยระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ และ วิธีการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมออนไลน์ของต่างประเทศ เป็นต้น
เวทางค์ พ่วงทรัพย์ รองปลัดกระทรวงดิจิทัลฯ กล่าวว่า รัฐมนตรี ประเสริฐ ให้นโยบาย ดีอี ต้องดึงกำลังของหน่วยงานต่าง ๆ ช่วยงาน เร่งเพิ่มพนักงานเจ้าหน้าที่ตาม พรบ. คอมฯ เร่งให้ความรู้และเครื่องมือทันสมัยปราบโจรออนไลน์ สำหรับ ระยะเร่งด่วนใน 2 เดือนนี้ ตั้งเป้าหมายพัฒนา พนักงานเจ้าหน้าที่ให้ได้จำนวน 500 คน ซึ่ง ดีอี จะมีการจัดอบรมและสอบพนักงานเจ้าหน้าที่ตาม พรบ. คอมฯ โดยเร็ว จากวันนี้ อีก 3 รุ่น เพื่อให้เป็นกำลังสำคัญในการป้องการปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ และขอเชิญชวนหน่วยงานที่บังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับการป้องกันปราบปรามโจรออนไลน์ หรือ หน่วยงานที่มีความสนใจพัฒนาทักษะความรู้ ด้านอาชญากรรมออนไลน์สมัยใหม่ สามารถติดต่อมาที่ ดีอี ได้ ซึ่งอาจเป็นการอบรมพัฒนาทักษะความรู้ โดยไม่ต้องสอบเป็น พนักงานเจ้าหน้าที่ตาม พรบ. คอมฯ ก็ได้ ดีอี ยินดีหารือเพื่อจัดหลักสูตรที่เหมาะสมตามความต้องการของหน่วยงานได้
สำหรับพนักงานเจ้าหน้าที่ตาม พรบ. คอมฯ มีอำนาจหน้าที่ ในการเรียกพยานหลักฐาน สืบสวนสอบสวน ตาม พรบ.คอมฯ อย่างไรก็ตาม การเปิดเผยข้อมูล การใช้อำนาจในทางมิชอบ มีความผิด โทษจำคุก 3 ปี หรือ ปรับ 6 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
“การจัดอบรม พนักงานเจ้าหน้าที่ตาม พรบ. คอมฯ เป็นเรื่องที่สำคัญ เพื่อให้ บุคคลากรของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้ง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงยุติธรรม และกระทรวงการคลัง มีความรู้และทักษะสำคัญในการ สืบสวนสอบสวน เก็บรวมรวมพยายหลักฐานทางดิจิทัล ใช้โปรแกรมเฉพาะทางดิจิทัล รู้จักการวิเคราะห์ข้อมูลดิจิทัลสมัยใหม่ รู้วิธีการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ที่เหมาะสม ทั้งของไทยและ วิธีการในต่างประเทศ เพื่อแก้ปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ของไทย แก้ปัญหาให้คนไทยโดยเร็ว” รัฐมนตรีประเสริฐ กล่าวในตอนท้าย