28 ต.ค. 2566 335 0

อะโดบีแนะนำเครื่องมือแก้ไขภาพแบบ Object-Aware พร้อมนวัตกรรม AI รุ่นใหม่สำหรับภาพถ่าย วิดีโอ เสียง และ 3D ใน Adobe MAX Sneaks

อะโดบีแนะนำเครื่องมือแก้ไขภาพแบบ Object-Aware พร้อมนวัตกรรม AI รุ่นใหม่สำหรับภาพถ่าย วิดีโอ เสียง และ 3D ใน Adobe MAX Sneaks
  • อะโดบีเปิดพรีวิว Project Stardust เครื่องมือแก้ไขภาพแบบตัวจับวัตถุหรือ object-aware editing engine ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ช่วยให้คุณย้ายหรือลบวัตถุได้อย่างน่าอัศจรรย์ เพียงแค่คลิกที่วัตถุดังกล่าว
  • Adobe MAX Sneaks นำเสนอนวัตกรรม 11 รายการที่อยู่ระหว่างการพัฒนา รวมถึงความสามารถด้าน AI รุ่นใหม่ รองรับการใช้งานในส่วนของภาพถ่าย วิดีโอ และเสียง รวมถึงแอปพลิเคชั่น 3D การออกแบบ และแฟชั่น 
  • นวัตกรรม Prototype ประกอบด้วยแอปพลิเคชั่นใหม่ Generative Fill สำหรับวิดีโอ โมเดลการสร้างภาพ 3D ที่ล้ำสมัย แสดงภาพเนื้อผ้าที่แสดงผลแบบไดนามิก รองรับหลากหลายสไตล์อย่างไม่มีที่สิ้นสุด พร้อมด้วยเครื่องมือที่ขับเคลื่อนด้วย AI ช่วยเพิ่มความสะดวกในการลบแสงสะท้อนออกจากภาพถ่าย

อะโดบี ( Nasdaq:ADBE ) เผยโฉม Project Stardust ซึ่งเป็นเครื่องมือแก้ไขภาพแบบตรวจจับวัตถุ (Object-Aware Editing Engine) ที่ใช้ Generative AI เพื่อปฏิวัติการแก้ไขภาพ  นอกจากนี้ ยังนำเสนอนวัตกรรมอีกหลายรายการที่อยู่ในช่วงเริ่มแรกของการพัฒนา ซึ่งมุ่งเน้นการใช้งานรูปแบบใหม่ ๆ ที่น่าสนใจสำหรับเทคโนโลยี AI และ 3D โดยครอบคลุมงานครีเอทีฟหลากหลายประเภท เช่น แอปพลิเคชั่นภาพถ่าย วิดีโอ เสียง 3D การออกแบบ และแฟชั่น โดยนวัตกรรมทั้ง 11 รายการได้รับการจัดแสดงในช่วง “Sneaks” ประจำปีของอะโดบี โดยวิศวกรและนักวิทยาศาสตร์ฝ่ายวิจัยของอะโดบีได้นำเสนอแนวคิดและเทคโนโลยีต้นแบบเป็นครั้งแรก ซึ่งนวัตกรรมแต่ละรายการแสดงให้เห็นถึงศักยภาพในอนาคตที่จะกลายเป็นองค์ประกอบสำคัญในผลิตภัณฑ์ของอะโดบีที่ได้รับความไว้วางใจจากผู้ใช้หลายล้านคนทั่วโลก


Project Stardust ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเลือก แก้ไข และแม้แต่ลบองค์ประกอบที่ซับซ้อนในรูปภาพได้อย่างง่ายดาย ทำให้การแก้ไขภาพเป็นเรื่องง่าย เข้าถึงได้ และประหยัดเวลาสำหรับผู้ใช้ทุกคน  ตัวอย่างเช่น Project Stardust ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเลือกบุคคลในภาพถ่าย ย้ายไปยังตำแหน่งอื่นในภาพ และเติมพื้นหลังในตำแหน่งที่บุคคลนั้นเคยยืนอยู่ก่อนหน้านี้  และผู้ใช้ยังสามารถเปลี่ยนแปลงองค์ประกอบต่าง ๆ เช่น สีของเสื้อผ้าที่คนสวมใส่ หรือตำแหน่งที่เขายืนอยู่ โดยสามารถจัดการภาพถ่ายธรรมดาได้เหมือนกับไฟล์ที่ประกอบด้วยหลายเลเยอร์

เกวิน มิลเลอร์ รองประธานและนักวิจัยของ Adobe Research กล่าวว่า “Adobe Sneaks เป็นช่วงพรีวิวนวัตกรรมของอะโดบีที่ไม่ควรพลาดและเป็นที่ชื่นชอบของแฟน ๆ ในงาน MAX ทุกปี เพราะไม่มีอะไรจะสร้างแรงบันดาลใจได้มากไปกว่าการได้เห็นฝีมือนักพัฒนามาสาธิตเทคโนโลยีล้ำสมัยที่จะขับเคลื่อนผลิตภัณฑ์ของอะโดบีในอนาคต  ความหลงใหลที่เรามีต่อครีเอเตอร์คือหัวใจสำคัญของ Sneak แต่ละรายการ และงานแสดงในปีนี้เน้นย้ำถึงวิธีการใหม่ ๆ ที่น่าสนใจสำหรับการปรับใช้เทคโนโลยี AI และ 3D เพื่อเพิ่มพลังในการแสดงออกทางความคิดสร้างสรรค์ นับเป็นการพลิกโฉมศักยภาพสำหรับเครื่องมือของอะโดบี”

ด้วย Adobe Firefly โมเดล Generative AI ของอะโดบีที่เปิดให้ใช้งานแล้วในเชิงพาณิชย์ ขอบเขตของการประยุกต์ใช้งานรูปแบบใหม่ ๆ ยังคงขยายไปไกลกว่าการเจนเนอเรทภาพ  โดยนวัตกรรม Sneaks ชุดนี้นำเสนอตัวอย่างอันทรงพลังที่แสดงให้เห็นว่า Generative AI สามารถปรับปรุงเวิร์กโฟลว์ด้านวิดีโอ เสียง แอนิเมชั่น และโมชั่นกราฟิกได้อย่างเหนือชั้น พร้อมทั้งเพิ่มพลังให้กับกระบวนการคิดค้น การกำหนดไอเดีย และลดระยะเวลาที่ต้องใช้สำหรับงานโพสต์โปรดักชั่น จากเดิมที่ต้องใช้เวลาหลายวันให้เหลือเพียงไม่กี่นาที

ภาพถ่าย

  • Project Stardust เป็นเครื่องมือแก้ไขภาพแบบ Object-Aware ที่เปี่ยมด้วยประสิทธิภาพ พลิกโฉมการแก้ไขภาพ รวมถึงการย้ายหรือลบวัตถุได้อย่างน่าอัศจรรย์ เพียงแค่คลิกที่วัตถุนั้นๆ  ด้วย Project Stardust ผู้ใช้สามารถเลือก แก้ไข และลบองค์ประกอบที่ซับซ้อนในภาพได้อย่างง่ายดาย ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเลือกบุคคลในภาพถ่าย ย้ายไปยังตำแหน่งอื่นในภาพ และเติมพื้นหลังในตำแหน่งที่บุคคลนั้นเคยยืนอยู่ก่อนหน้านี้  และผู้ใช้ยังสามารถเปลี่ยนแปลงองค์ประกอบต่าง ๆ เช่น สีของเสื้อผ้าที่คนสวมใส่ หรือตำแหน่งที่เขายืนอยู่ โดยสามารถจัดการภาพถ่ายทั่วไปได้เหมือนกับไฟล์ที่ประกอบด้วยหลายเลเยอร์


  • Project See Through เป็นเครื่องมือที่ขับเคลื่อนด้วย AI ช่วยเพิ่มความสะดวกในการลบแสงสะท้อนออกจากภาพถ่าย  แสงสะท้อนบนกระจกในภาพถ่ายเป็นสิ่งที่ไม่พึงประสงค์ที่ทุกคนคุ้นเคยกันดี โดยมักจะบดบังวัตถุในภาพ และทำให้ภาพนั้นไม่สามารถใช้งานได้  แม้ว่าการลบแสงสะท้อนออกโดยใช้ซอฟต์แวร์ที่มีอยู่จะเป็นเรื่องยากหรือเป็นไปไม่ได้ แต่ See Through จะทำให้ขั้นตอนดังกล่าวง่ายขึ้นอย่างมาก


วิดีโอและเสียง


  • Project Fast Fill นำเอาพลังของ Firefly Generative AI มาสู่วิดีโอเป็นครั้งแรก  Project Fast Fill ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี Generative Fill ซึ่ง Adobe Photoshop ใช้อยู่แล้ว เพื่อลดความยุ่งยากในการเพิ่มเติม ลบ หรือขยายคอนเทนต์ในรูปภาพโดยใช้เพียงแค่ข้อความคำสั่งที่ขับเคลื่อนด้วย Firefly  ทั้งนี้ Project Fast Fill นำเสนอภาพรวมเบื้องต้นว่า Generative AI ภายใต้การสั่งงานของมนุษย์จะสามารถรองรับการทำงานอะไรได้บ้างภายในเครื่องมือตัดต่อวิดีโอของอะโดบีอย่างเช่น Premiere Pro และ After Effects


  • Project Dub Dub Dub รองรับการพากย์เสียงวิดีโอแบบอัตโนมัติ ทำให้กระบวนการที่ต้องใช้แรงงานและต้นทุนสูงในอดีตกลายเป็นเรื่องง่ายเพียงแค่คลิกปุ่มเดียว ด้วยความสามารถ AI ของ Project Dub Dub Dub เสียงที่บันทึกไว้หรือแทร็กเสียงของวิดีโอจะสามารถแปลเป็นภาษาที่รองรับทั้งหมดได้โดยอัตโนมัติ โดยยังคงรักษาเสียงของผู้พูดในต้นฉบับ และมีการปรับให้สอดคล้องกับบทสนทนาต้นฉบับ สามารถนำออกเผยแพร่ได้ทันที


  • Project Scene Change ช่วยให้นักตัดต่อวิดีโอสามารถรวมวัตถุและฉากจากวิดีโอสองชุดที่ถ่ายด้วยมุมกล้องที่แตกต่างกันให้กลายเป็นฉากที่มีการเคลื่อนไหวของกล้องอย่างสอดประสานกัน


  • Project Res Up เป็นเครื่องมือที่แปลงวิดีโอความละเอียดต่ำให้กลายเป็นวิดีโอความละเอียดสูงได้อย่างง่ายดาย โดยใช้เทคโนโลยี Diffusion-Based Upsampling ที่ก้าวล้ำ

3D และงานดีไซน์


  • Project Poseable แสดงถึงความก้าวหน้าในโมเดลการสร้างภาพโดยใช้ AI ช่วยให้โปรแกรมสร้างภาพสามารถการโต้ตอบกับวัตถุ 3D ขนาดใหญ่ได้อย่างง่ายดายและราบรื่น รวมถึงการโพสท่าทางต่างๆ จากภาพถ่ายของคนจริง  ต้นแบบจะถูกรวมเข้ากับ Project Poseable ซึ่งสามารถสร้างการเรนเดอร์ภาพ 3D จากข้อความคำสั่งที่พิมพ์ป้อนเข้าไป โดยคำนึงถึงมิติความลึก มุมมองเปอร์สเปคทีฟ และมีการจัดแนววัตถุอย่างเหมาะสม  ขณะที่การสร้างฉาก 3D ด้วยระบบโครงร่างแบบเดิมมีความซับซ้อนทางเทคนิคและใช้เวลานาน แต่ Project Poseable เสนอทางเลือกที่ง่ายดาย ซึ่งช่วยให้ทุกคนสามารถขยายขอบเขตความคิดสร้างสรรค์ได้อย่างกว้างขวางมากขึ้น


  • Project Neo ช่วยให้ครีเอเตอร์สามารถใส่รูปทรง 3D ไว้ในงานดีไซน์ 2D โดยไม่จำเป็นต้องมีความเชี่ยวชาญด้านเทคนิคในเครื่องมือสร้าง 3D  ทุกวันนี้ผู้สร้างงานดีไซน์ 2D เช่น อินโฟกราฟิก โปสเตอร์ หรือโลโก้ มักถูกจำกัดความสามารถในการใส่องค์ประกอบ 3D เนื่องจากขั้นตอนการทำงานดังกล่าวมีความซับซ้อน และอาจต้องใช้ประสบการณ์หลายปี  แต่ Project Neo ช่วยให้ครีเอเตอร์สามารถปรับใช้งานดีไซน์ 3D ที่เรียบง่ายภายในเครื่องมือและวิธีการแบบ 2D


  • Project Primrose ทำให้เส้นแบ่งระหว่างเทคโนโลยีและแฟชั่นหายไป โดยแสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการจัดแสดงสิ่งทอที่ยืดหยุ่น และเปลี่ยนเสื้อผ้าให้กลายเป็นผืนผ้าใบสำหรับงานสร้างสรรค์  ชุดเดรสแบบอินเทอร์แอคทีฟนี้สามารถนำเสนอสไตล์หลากหลายรูปแบบอย่างไม่มีที่สิ้นสุด โดยแสดงคอนเทนต์ที่สร้างด้วย Adobe Firefly, After Effects, Stock และ Illustrator


  • Project Glyph Ease ช่วยให้เข้าถึงตัวอักษรแบบกำหนดเองได้ง่ายขึ้น โดยปรับปรุงกระบวนการออกแบบสัญลักษณ์ที่น่าเบื่อ ซึ่งเป็นองค์ประกอบการออกแบบและรูปร่างเฉพาะของอักขระตัวอักษรแต่ละตัว  Project Glyph Ease เริ่มต้นจากรูปร่างตัวอักษรที่วาดด้วยมือ และใช้ AI เพื่อสร้างชุดสัญลักษณ์ทั้งชุดที่ตรงกับสไตล์ตัวอักษรที่ป้อนโดยอัตโนมัติ จากนั้นผู้ใช้ก็สามารถแก้ไขสัญลักษณ์ที่สร้างขึ้นใน Illustrator ได้อย่างง่ายดาย


  • Project Draw & Delight นำเสนอชุดเครื่องมือ Generative AI ที่คอยช่วยเหลือทุกคนตลอดเส้นทางการสร้างสรรค์ ตั้งแต่การปรับเปลี่ยนไอเดียเบื้องต้น ซึ่งมักจะอยู่ในรูปของภาพวาดลายเส้นหยาบๆ หรือการขีดเขียนอย่างคร่าวๆ ให้เป็นภาพร่างที่สวยงามประณีต จากนั้นก็ทดลองใช้จานสี สไตล์แบบต่างๆ และพื้นหลังแบ็คกราวด์ที่แตกต่างกัน

MAX Sneaks ในปีนี้ร่วมดำเนินรายการโดยนักแสดง นักแสดงตลก และนักร้อง Adam Devine  รับชมเซสชั่น Sneaks ฉบับเต็มได้ที่นี่ และอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Sneaks แต่ละรายการได้ในบล็อกของอะโดบี

ในปีนี้ MAX Sneaks ใช้ประโยชน์จาก generative AI โดยมอบเครื่องมือที่เป็นนวัตกรรมใหม่ให้กับครีเอเตอร์และ developer ซึ่งครอบคลุมมีเดียหลายประเภท ได้แก่ รูปภาพ วิดีโอ เสียง งาน 3 มิติ และการออกแบบ ที่สามารถยกระดับความคิดสร้างสรรค์ไปอีกขั้นได้สะดวกยิ่งขึ้น ดังนี้

  1. Project Fast Fill - เครื่องมือนี้ช่วยลดความยุ่งยากในการลบวัตถุและการแก้ไของค์ประกอบพื้นหลังในวิดีโอโดยใช้ genAI ซึ่งช่วยประหยัดเวลาสำหรับโปรแกรมตัดต่อวิดีโอ
  2. Project Draw & Delight – เครื่องมือนี้ช่วยจะช่วยให้ผู้ใช้เปลี่ยนร่างลายเส้นหรือร่างดูเดิลให้กลายเป็นภาพสเก็ตช์ที่แสดงภาพวัตถุที่เราต้องการโดยใช้ genAI และสามารถใช้ text prompt เพื่อเพิ่มรายละเอียดเพิ่มเติมในภาพ
  3. Project Neo - นักออกแบบสามารถสร้างคอนเทนต์ 2D ด้วยรูปทรง 3D ได้สะดวกขึ้นโดยไม่จำเป็นต้องมีความรู้ด้าน 3D และโปรเจ็กต์นี้จะทำให้กระบวนการออกแบบคล่องตัวขึ้น
  4. Project Scene Change – โปรเจ็กต์นี้ช่วยให้โปรแกรมตัดต่อวิดีโอสามารถรวมรายละเอียด วัตถุ และฉากในวิดีโอต่างๆ ให้เป็นฉากใหม่ในรูปแบบโมชั่นพร้อมทั้งมุมมองกล้องแบบซิงโครไนซ์
  5. Project Primrose – โปรเจ็กต์นี้ถูกพูดถึงอย่างกว้างขวาง นับว่ามาเขย่าวงการแฟชั่นอย่างมา เพราะมันช่วยให้ดีไซน์เนอร์สามารถสร้างลวดลายชุดหรือเสื้อผ้าได้แบบอินเทอร์แอคทีฟปลดล็อกได้ง่าย ๆ เพียงวางเทคโนโลยีนี้ลงในเสื้อผ้า เฟอร์นิเจอร์ และพื้นผิวอื่น ๆ ที่ต้องการออกแบบ และทำให้การออกแบบเหล่านั้นมีชีวิตขึ้นมาบนวัตถุจริงได้อย่างรวดเร็วได้ในคลิกเดียว
  6. Project Glyph Ease - โปรเจ็กต์ genAI นี้สร้างตัวอักษรที่กำหนดเองในรูปแบบเวกเตอร์ ช่วยประหยัดเวลาของนักออกแบบในการรักษาสไตล์ตัวอักษรที่สอดคล้องกัน
  7. Project Poseable - ช่วยให้สามารถออกแบบต้นแบบ 3D และสตอรี่บอร์ดได้อย่างรวดเร็วผ่าน genAI ทำให้การสร้างฉากและอินเทอร์แอคทีฟของตัวละครง่ายขึ้น
  8. Project Res Up – เครื่องมือเพิ่มรายละเอียดของวิดีโอจากความละเอียดต่ำให้เป็นความละเอียดสูงโดยใช้ AI ซึ่งช่วยเพิ่มคุณภาพของภาพบนหน้าจอที่ใหญ่ขึ้น
  9. Project Dub Dub Dub - โปรเจ็กต์สำหรับเสียงพากย์วิดีโอและคลิปเสียงอัตโนมัติรองรับถึง 70 ภาษาและภาษาถิ่นต่างๆ มากถึง 140 ภาษาทำให้ผู้ชมทั่วโลกสามารถเข้าถึงคอนเทนต์ได้สะดวกขึ้นโดยปราศจากอุปสรรคทางภาษา
  10. Project Stardust - เอ็นจิ้นการแก้ไขแบบ Object-Aware ที่ทำให้กระบวนการแก้ไขภาพเป็นแบบอัตโนมัติ ทำให้ใช้งานง่ายและประหยัดเวลามากขึ้น
  11. Project See Through - ใช้ AI ลบการสะท้อนออกจากภาพถ่ายโดยอัตโนมัติ เพิ่มความคมชัดและคุณภาพของภาพ

เกี่ยวกับ Adobe MAX

Adobe MAX คือการประชุมด้านงานครีเอทีฟที่ใหญ่ที่สุดในโลก นำเสนอข้อมูลและเทคโนโลยีที่สำคัญสำหรับครีเอเตอร์ในทุกระดับทักษะ จากทุกสาขาอาชีพ ครอบคลุมสื่อทุกประเภท  การประชุมระยะเวลาสามวัน ซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 10-12 ตุลาคม ที่ลอสแอนเจลิส ประกอบไปด้วยการบรรยายจากผู้ทรงคุณวุฒิด้านงานครีเอทีฟ การแสดงดนตรี และโปรเจ็กต์ศิลปะระดับโลกภายใต้ความร่วมมือ และการสร้างเครือข่ายและการติดต่อพูดคุยกันของบุคลากรที่เกี่ยวข้องตลอด 24 ชั่วโมง  วิทยากรภายในงาน เช่น นักแสดง Adam Devine, โปรดิวเซอร์ นักแต่งเพลง และผู้ประกอบการอย่าง Oak Felder, ครีเอทีฟไดเร็คเตอร์ Karen X Cheng, ผู้ก่อตั้ง Aaron Draplin และผู้ร่วมก่อตั้งและครีเอทีฟไดเร็คเตอร์ Walker Noble ร่วมสร้างแรงบันดาลใจและให้ความบันเทิงแก่ผู้ชม ด้วยเรื่องราวและข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับกระบวนการสร้างสรรค์ของพวกเขา  นอกจากนี้ Adobe MAX ยังจะสาธิตแนวทางของอะโดบีในการใช้ Firefly ร่วมกับ Creative Cloud, Express และ Experience Cloud เพื่อขับเคลื่อนประสบการณ์งานอีเว้นท์ระดับโลก

ผู้เข้าร่วมกิจกรรมทางออนไลน์สามารถรับชมวิดีโอย้อนหลังทั้งเซสชั่น Key Note, ติดตามนวัตกรรมต้นแบบล่าสุดของอะโดบีในช่วง Adobe Sneaks ได้ที่ max.adobe.com

เกี่ยวกับอะโดบี

อะโดบีกำลังเปลี่ยนแปลงโลกผ่านประสบการณ์ดิจิทัล ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.adobe.com