7 พ.ย. 2566 354 0

Alstom เพิ่มศักยภาพในไทยด้วยศูนย์ Digital Mobility Lab แห่งใหม่

Alstom เพิ่มศักยภาพในไทยด้วยศูนย์ Digital Mobility Lab แห่งใหม่
  • ศูนย์ปฏิบัติการ ตั้งอยู่ใจกลาง กรุงเทพมหานคร ซึ่งศูนย์แห่งนี้ นับเป็นป็นสถานที่หลัก ที่ใช้มุ่งเน้นพัฒนา ทดลอง และวิเคราะห์โซลูชันระบบขนส่งดิจิทัล (Digital Mobility) และอาณัติสัญญาน (Signaling) เพื่อยกระดับความสามารถของบริษัท ด้านการขนส่งอัจฉริยะ (smart mobility) 
  • ศูนย์ปฏิบัติการที่ขยายขึ้นใหม่นี้ มีพื้นที่มากกว่า 277 ตร.ม. ทำให้มีพื้นที่โดยรวมของห้องปฏิบัติงานในไทยมากกว่า 2,000 ตร.ม. ซึ่งสามารถรองรับการดำเนินงาน ได้มากกว่า 100 โครงการพร้อม ๆกัน 
  • นโยบายการขยายตัวเพื่อเพิ่มศักยภาพของบริษัท  นำไปสู่ การเติบโตอย่างต่อเนื่องของ  ศูนย์วิศวกรรมระดับโลก ในประเทศไทย ซึ่งปัจจุบันทางบริษัทได้มีการการจ้างพนักงานรวมแล้วกว่า 1,000 คน โดยมีวิศวกรที่มีความรู้และประสบการณ์เฉพาะด้านมากกว่า 700 คน 



Alstom
ผู้นำระดับโลกด้านระบบขนส่งอัจฉริยะที่ยั่งยืน ได้เปิดตัวศูนย์ Digital Mobility Lab แห่งใหม่ ในกรุงเทพมหานคร เป็นการตอกย้ำถึงความเชื่อมั่นในศักยภาพของประเทศไทย โดยศูนย์แห่งใหม่นี้ขยายพื้นที่มากกว่า 277 ตร.ม. ทำให้มีพื้นที่สำหรับปฏิบัติงานในไทยโดยรวมมากกว่า 2,000 ตร.ม.ซึ่งสามารถรองรับการดำเนินโครงการขนานกันไป ได้มากกว่า 100 โครงการ ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน (รฟม.) นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ และฯพณฯท่านเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทย Jean-Claude Poimboeuf ได้เข้าร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีเปิดศูนย์ปฏิบัติการ : Digital Mobility Lab ซึ่งการเข้าร่วมพิธีนี้นับเป็นความร่วมมืออันดี ระหว่างฝรั่งเศสและไทย ด้านความล้ำสมัยของเทคโนโลยีเเละนวัตกรรมขั้นสูง 

ศูนย์ปฏิบัตการอันทันสมัยที่สุดแห่งนี้ เป็นการขยายพื้นที่ศูนย์ปฏิบัติการของ ศูนย์วิศวกรรมโลก ในประเทศไทย ซึ่งปัจจุบันมีผู้เชี่ยวชาญมากกว่า 1,000 คน โดยมีวิศวกรที่มากไปด้วยประสบการณ์ถึง 700 คน 

ศูนย์ Digital Mobility Lab แห่งใหม่นี้มีเป้าหมายที่จะบ่มเพาะบุคลากรด้านเทคโนโลยีคุณภาพสูง และพัฒนาความสามารถด้านวิศวกรรมด้านระบบอาณัติสัญญาน และ กระบวนการเชื่อมโยงประสานงานระบบคอมพิวเตอร์และแอปพลิเคชันซอฟต์แวร์ต่างๆเข้าด้วยกันเป็นระบบเดียว และสามารถมั่นใจว่าระบบย่อยทำงานร่วมกันเป็นระบบได้อย่างถูกต้อง ปลอดภัย สำหรับโครงการขนส่งระบบรางทั่วโลก ศูนย์แห่งนี้ไม่เพียงให้บริการลูกค้าในประเทศเท่านั้นแต่ยังมุ่งให้บริการลูกค้าAlstom ทั่วทุกมุมโลกทั้งในออสเตรเลีย , อียิปต์,เยอรมนี ,ฟิลิปปินส์, สิงคโปร์ และประเทศอื่นๆ อีกมากมาย


ในระหว่างพิธีเปิดงานคุณ Toby Tiberghie กรรมการผู้จัดการประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกกล่าวว่า "ทั้งศูนย์ปฏิบัติการ Digital Mobility Lab แห่งใหม่และการเติบโตของ ศูนย์วิศวกรรมโลก ของเราในประเทศไทย ได้เน้นย้ำให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเราในการยกระดับ เพื่อรองรับเทคโนโลยี สำหรับระบบนิเวศการเคลื่อนย้ายในประเทศไทย นับเป็นสิ่งที่มีนัยสำคัญ ซึ่งสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ระยะยาวของ Alstom ในประเทศไทย และเรามุ่งมั่นที่จะให้บริการคนไทยอย่างตั้งใจพร้อมทั้งลงทุนเพื่อให้เกิดการเติบโตและพัฒนาความสามารถของบุคลากรในประเทศเพื่อให้บรรลุมาตรฐานความเป็นเลิศระดับโลก”

Alstom นำเสนอโซลูชันด้านระบบการขนส่งอัจฉริยะที่ยั่งยืนในประเทศไทยมานานกว่า 40 ปี โดยไทยเป็นประเทศหนึ่งจากทั้งสองประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่เป็นที่ตั้งศูนย์ปฏิบัติการระดับโลกของบริษัทในช่วงหลายปีที่ผ่านมา Alstom มีบทบาทสำคัญในการส่งมอบโครงการด้านระบบรางและการคมนาคมที่สำคัญภายในประเทศ ได้แก่ ระบบครบวงจรแบบเทิร์นคีย์ สำหรับรถไฟฟ้าโมโนเรลสายแรกของกรุงเทพฯระบบขนส่งผู้โดยสารอัตโนมัติ (APM) แห่งแรกของกรุงเทพฯรวมถึงระบบอาณัติสัญญานขั้นสูงสำหรับเส้นทางขนส่งมวลชนในเมืองหกสายและบางส่วนในโครงข่ายทางรถไฟสายหลัก